พี่น้องเคยคิดไหม ทำไมเจ้าของรพ.เอกชนที่รวยล้นฟ้า ต้องมาเป็นกรรมการแพทยสภา ทั้งที่ไม่มีเงินเดือน?
ต้องยอมรับว่าแพทย์เหล่านี้เป็นนักธุรกิจคิดเหนือชั้น การเข้าไปกุมอำนาจในระดับนโยบาย ทำให้รู้ว่านโยบายใดจะกระทบกับธุรกิจ นโยบายใดจะดึงเงินเข้ากระเป๋า การขึ้นที่สูงทำให้เห็นช่องโหว่ที่จะทำกำไร
จะมีสักกี่คนที่เข้าไปเพื่อพัฒนารพ.รัฐบาล ให้กลายเป็นคู่แข่งรพ.เอกชน หรือช่วยผลักดันร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขเพื่อไม่ให้หมอลาออก ในเมื่อจ้องดูดหมอออกจากรพ.รัฐไปฟรี ๆ โดยไม่ได้ลงทุนผลิตเอง
เหตุนี้การเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา จึงดุเดือดไม่ต่างจากการเมือง และขึ้นชื่อเรื่องปกป้องกันเองเพื่อคะแนนนิยม
เหตุนี้เราจึงแก้ปัญหาค่ายาและค่ารักษาแพงไม่ได้เสียที
---
"แพทยสภา" คือสภาวิชาชีพ ที่ก่อตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ว่าการประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้มาตรฐานหรือไม่
องค์ประกอบของคณะกรรมการแพทยสภา ประกอบด้วยกรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 28 คน จากการเลือกตั้งจำนวน 28 คน รวม 56 คน เป็นแพทย์ทั้งสิ้น ไม่มีองค์ประกอบที่เป็นคนนอกอยู่เลย
ยุคปัจจุบันกรรมการกลุ่มที่มีบทบาทมากที่สุด คือกลุ่มที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนใหญ่มีส่วนเกี่ยวข้องและมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน แต่ละคนเป็นกรรมการหลายสมัยนานนับ 10-20 ปี เนื่องจาก พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ไม่ได้กำหนดว่าดำรงตำแหน่งได้ไม่เกินกี่วาระ
ในการทำหน้าที่ของแพทยสภายุคปัจจุบัน จึงมักถูกประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าไม่มีความเป็นกลาง ปกป้องวิชาชีพเดียวกัน โดยไม่ได้คุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชน ตามหลักการที่ถูกต้องและควรจะเป็น
หลายประเทศทั่วโลกล้วนมีปัญหาเดียวกัน รัฐบาลประเทศอังกฤษกังวลว่า ความไม่เชื่อมั่นต่อสภาวิชาชีพ จะส่งผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย จึงริเริ่มให้มีคนนอกเข้าไปเป็นกรรมการแพทยสภาในสัดส่วน 25% ต่อมาพบว่าสามารถสร้างความไว้วางใจและเรียกศรัทธาคืนมาจากประชาชนได้ จึงเพิ่มสัดส่วนคนนอกเข้าไปเป็นกรรมการ 50:50 คือวิชาชีพ 6 คน คนนอก 6 คน รวมทั้งสิ้น 12 คน เป็นต้นแบบให้อีกหลายประเทศนำไปปฏิรูปแพทยสภา เช่นประเทศสิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, มาลาวี, แคนาดา, นิวซีแลนด์ ฯลฯ เป็นต้น
พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ของประเทศไทย มีอายุ 34 ปีแล้ว อีกทั้งปัจจุบันบริบทของสังคมไทยเปลี่ยนไป จึงสมควรที่จะปฏิรูปแพทยสภา ไปพร้อม ๆ กับการปฏิรูปประเทศ และการปฏิรูประบบสาธารณสุข
จึงเรียนมายังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้โปรดเสนอให้มีการแก้ไข พ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ดังต่อไปนี้
1.ให้มีประชาชนทั่วไปเข้าไปเป็นกรรมการแพทยสภา ในสัดส่วน 50:50
2.ลดจำนวนคณะกรรมการลง เพื่อความคล่องตัว
3.กำหนดให้กรรมการดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ
ประชาชนทุกคนมีโอกาสเจ็บป่วย การเข้ารับการรักษาพยาบาลมีโอกาสเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ หากหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานการรักษาพยาบาล มีความโปร่งใสเป็นธรรมและมีธรรมาภิบาล นอกจากจะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยลงได้แล้ว ยังจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์อันดีและคืนความสงบสุขให้กับสังคมได้อีกด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ
แคมเปญรณรงค์นี้จะถูกส่งไปที่:
ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ได้เริ่มสร้างเรื่องรณรงค์นี้