ผู้เขียน หัวข้อ: รพ.กาฬสินธุ์จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก หลังพบเด็กป่วยแล้ว 135 ราย  (อ่าน 1115 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
กาฬสินธุ์ - โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ระดมเจ้าหน้าที่จัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ทำความสะอาดครั้งใหญ่เพื่อป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ตามโครงการสะอาด ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หลังพบเด็กป่วยแล้ว 135 ราย
       
       วันนี้ (23 ก.ค.) นายแพทย์สมอาจ ตั้งเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นำแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์จัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ซึ่งเป็นการทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ภายในโรงพยาบาลครั้งใหญ่ ตามโครงการสะอาด ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
       
       พร้อมทั้งนำคู่มือออกแจกจ่ายและแนะนำวิธีการดูแลบุตรหลาน ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก หลังจากพบเด็กป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 ถึงปัจจุบันทั่วทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว 135 ราย
       
       นายแพทย์สมอาจ ตั้งเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ครั้งนี้ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์จัดขึ้นเพื่อให้สถานที่ต่างๆ ในโรงพยาบาลมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม ตลอดจนสภาพแวดล้อมภายนอกให้เป็นตัวอย่างแก่ชุมชน และที่สำคัญยังเป็นการป้องกัน ยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งประเทศไทยพบเด็กป่วยแล้วในหลายพื้นที่ แต่สำหรับในโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ล่าสุดยังไม่พบผู้ป่วย ทั้งนี้ จากข้อมูลทั่วทั้งจังหวัดมีผู้ป่วยแล้ว 135 ราย ดังนั้นโรงพยาบาลกาฬสินธุ์จึงต้องร่วมกันทำให้สถานที่สะอาด ปลอดเชื้อโรคทุกชนิด
       
       นายแพทย์สมอาจกล่าวอีกว่า ขณะนี้โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ได้เร่งรณรงค์ โดยกำชับให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ออกแจกจ่ายคู่มือ และแนะนำวิธีการดูแลเด็กอย่างถูกวิธีแก่บิดา มารดา ตลอดจนผู้ปกครอง ทั้งการล้างมือที่ถูกต้อง การเฝ้าสังเกตอาการของโรค แม้ยังไม่พบผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่เป็นการป้องกันไว้ก่อน
       
       อย่างไรก็ตาม สำหรับโรคมือ เท้า ปาก มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ลักษณะผู้ป่วยจะมีผื่นขึ้นที่มือ เท้า และปาก โดยเริ่มเป็นที่ช่องปาก เหงือก เพดาน และลิ้นก่อน จากนั้นจะลามมาที่มือและเท้า หรือบริเวณที่พันผ้าอ้อม เช่น ก้นเด็ก ลักษณะผื่นจะเป็นตุ่มพองใส บริเวณรอบๆอักเสบและแดง ซึ่งผู้ปกครองควรสังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากพบต้องรีบป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปยังเด็กคนอื่นๆ และพามาพบแพทย์เพื่อรักษาทันที