แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - story

หน้า: [1] 2 3 ... 653
1
เกียว​โด​นิวส์​ (15​ พ.ค.)​ ข้อมูลที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรวบรวมเมื่อวันอังคาร ระบุว่า มีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปในญี่ปุ่นประมาณ 68,000 คน​ เสียชีวิตตามลำพังที่บ้านโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

ตัวเลขเบื้องต้นของตำรวจระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม​ มีผู้เสียชีวิต “อย่างโดดเดี่ยว” ทั่วประเทศ 21,716 ราย เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนดังกล่าว หรือ 17,034 ราย มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

หน่วยงานตำรวจคาดว่าจะรวบรวมข้อมูลต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหานี้ ในขณะที่ประเทศกำลังต่อสู้กับสังคมสูงอายุอย่างรวดเร็ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับความโดดเดี่ยวทางสังคมและความเหงาในหมู่ผู้คนในญี่ปุ่น รวมถึงการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2566​ ที่ผ่านมา

การตายอย่างโดดเดี่ยวหมายถึงการที่บุคคลหนึ่งเสียชีวิตโดยไม่มีใครเห็น โดยมีช่วงเวลาหนึ่งผ่านไปก่อนที่จะพบศพ

ข้อมูลระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม​ การเสียชีวิตในบ้านของกลุ่มคนที่อยู่ตามลำพัง รวมถึงกรณีการฆ่าตัวตาย พบว่ากลุ่มผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไป​ มีจำนวนสูงสุดที่ 4,922 คน

ในบรรดาผู้ที่มีอายุ 75 ถึง 79 ปี มีรายงานผู้เสียชีวิต 3,480 ราย ขณะที่ผู้ที่มีอายุ 80 ถึง 84 ปีเสียชีวิตเพียงลำพัง 3,348 ราย ผู้ที่มีอายุระหว่าง 70 ถึง 74 ปี รวม 3,204 ราย รองลงมาคือ 2,080 รายในช่วงอายุ 65 ถึง 69 ปี


15 พ.ค. 2567  ผู้จัดการออนไลน์


2
ครูบาอริยชาติ มอบรถพยาบาลให้ รพ.พร้าว แทนคันที่ประสบอุบัติเหตุ ชนดับ 5 ศพ หนึ่งในนั้นเป็นสาวท้องแก่ คนแห่โฟกัสทะเบียนป้ายแดง

เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (14 พ.ค.) ณ วัดแสงแก้วโพธิญาณ บ้านใหม่แสงแก้ว ม.11 ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย พระภาวนารัตนญาณวิ. (ครูบาอริยชาติ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.เชียงราย และเจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีมอบรถพยาบาลจำนวน 1 คันให้กับโรงพยาบาลพร้าว จังหวัดเชียงราย แทนรถพยาบาลคันเก่าที่ประสบอุบติเหตุถูกรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีเทาดำ ทะเบียน ผห 5347 เชียงใหม่ ที่ฝ่าฝนมาด้วยความไวพุ่งชนระหว่างส่งตัวผู้ป่วยห้องคลอด (น.ส.ภูษณิศา หนึ่งในผู้เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์) ไปที่ รพ.สันทราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ถึง 5 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย มีนายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารรสุขจังหวัดเชียงรายเป็นประธานฝ่ายฆราวาส นายแพทย์นพดล บุญเฉลย รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพร้าวนำคณะเข้ารับมอบ

นายแพทย์นพดล บุญเฉลย รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพร้าวเผยว่า รถพยาบาลของโรงพยาบาลพร้าวประสบอุบัติเหตุในปี 2567 ถึง 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ม.ค.เมื่อรถพยาบาลไปชนท้ายรถบรรทุกบริเวณ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาดังกล่าว เป็นผลทำให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยเสียชีวิต ในขณะที่รถพยาบาลพังเสียหายจนใช้การไม่ได้ ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริการด้านสุขภาพดังนั้นการพัฒนาระบบการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจึงมีความสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของผู้ป่วยสิ่งสำคัญคือ อุปกรณ์การช่วยชีวิตและยานพาหนะรถพยาบาล

โครงการมอบรับพยาบาลทั่วประเทศจำนวน 108 คัน โดยความเมตตาพระภาวนารัตนญาณวิ. (ครูบาอริยชาติ) ทำให้โรงพยาบาลพร้าวได้รับมอบรถพยาบาลคันใหม่ในครั้งนี้ ซึ่งมีความทันสมัยและมีอุปกรณ์ครบครันมีมูลค่าคันละประมาณ 2.5 ล้านบาท ช่วยสร้างขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในการส่งต่อผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุผู้ป่วยฉุกเฉินให้เพิ่มประสิทธิภาพและดูแลประชาชนให้ปลอดภัย

สำหรับพิธีการมอบรถพยาบาลคันใหม่ให้กับโรงพยาบาลพร้าวครูบาอริยชาติ ได้ทำการสวดคาถาพร้อมเจิมรถเพื่อความเป็นสิริมงคลและอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาปกปักษ์รักษารถพร้อมเคาะป้ายแดง ก-9110 กรุงเทพมหานคร สร้างความฮือฮาให้กับผู้เข้าร่วมพิธีในการนำไปเสี่ยวโชคในงวด 16 พฤษภาคม 2567 ที่จะถึงนี้

Amarin TV News
15 พฤษภาคม 2567

3
โรงพยาบาลดังบึงกาฬ ประกาศผ่านเฟซบุ๊กเหลือแพทย์คนเดียว หลังหมอลาออก-ไปเรียนต่อ ต้องให้พยาบาลช่วยตรวจสั่งจ่ายยาแทน เร่งขอยืมหมอรพ.ใกล้เคียง

เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากมีกรณีดราม่า เพจเฟซบุ๊กโรงพยาบาล โพสต์ประกาศประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ผ่านมา ระบุข้อความว่า ตั้งแต่วันที่ 27-31 พ.ค. 2567 โรงพยาบาลจะมีแพทย์ประจำเหลือ 1 คน และต้องดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน

จึงได้กำหนดให้มีแนวทางแก้ปัญหาการให้บริการดังนี้
1.ประสานยืมแพทย์ช่วยตรวจจากโรงพยาบาลข้างเคียง
2.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, สุขภาพจิต, ไทรอยด์ ที่มีนัดในช่วงดังกล่าว ผู้ป่วยสามารถมารับบริการได้ตามปกติ โดยหากผลตรวจปกติ หรืออาการป่วยคงที่ พยาบาลวิชาชีพจะสั่งยาเดิมให้ (ไม่ต้องพบแพทย์) และจะปรึกษาแพทย์ ในรายที่มีผลเลือดผิดปกติ หรืออาการผิดปกติเท่านั้น
3. ผู้ป่วยคลอดและอุบัติเหตุฉุกเฉินให้บริการ 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลจึงขอแจ้งให้ผู้รับบริการทราบ และต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ หากการบริการเป็นไปอย่างล่าช้ากว่าปกติ โรงพยาบาลจะให้บริการได้ตามปกติ ตั้งแต่เดือนมิ.ย.67 เป็นต้นไป

จากเหตุการณ์ดราม่าขาดแคลนแพทย์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางเข้าพบ เพื่อสอบถามปัญหากับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยได้รับการชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า เนื่องจากมีแพทย์ได้ลาออกช่วงปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับแพทย์ที่มีอยู่ก็ไปศึกษาต่อ

ทำให้แพทย์ในโรงพยาบาลที่มีน้อยอยู่แล้วจึงขาดแคลน และอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการไม่ทั่วถึง จึงได้แก้ปัญหา โดยให้พยาบาลช่วยตรวจ และประสานยืมแพทย์จากโรงพยาบาลข้างเคียงมาช่วย แต่ก็อาจช่วยได้ไม่เต็ม เพราะเรายืมมาเขาก็ขาด เหตุการณ์ก็จะวนอยู่อย่างนี้

อย่างไรก็ตามการขาดแคลนแพทย์ ก็มีหลายโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน ทั้งนี้โรงพยาบาลจะให้บริการกลับมาปกติช่วงเดือนมิ.ย.67 เป็นต้นไป แต่ก็คงจะยังให้บริการไม่ได้เต็มที่

15 พ.ค.2567
ข่าวสด

4
นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โต้กลับเหตุตบหน้า ด.ช.วัย 14 ชี้เป็นการกระทำที่สมควรเนื่องจากสูบบุหรี่ กลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศ ลั่นไม่รับรักษากุ๊ยอันธพาล และควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งแก่ผู้ใช้บริการรายอื่นๆ โดยที่เขาไม่สมควรได้รับ

จากกรณีแม่เด็กชายวัย 14 เข้าแจ้งความ เอาผิด นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ หลังตบหน้า-สั่งแก้ผ้า สั่งสอนเด็กชายที่สูบบุหรี่ในห้องน้ำภายในโรงพยาบาล ขณะรอภรรยาคลอดลูก ชี้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุนั้น

วันนี้ (14 พ.ค.) เฟซบุ๊ก “เหรียญทอง แน่นหนา“ หรือ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาตอบโต้ต่อกรณีดังกล่าว พร้อมชี้แจงระบุข้อมูลว่า ”ได้โปรดแชร์ให้ทราบข้อเท็จจริงทั่วกันว่าเมื่อดึกคืนวันที่ 13 พ.ค. 67 มีไอ้วัยรุ่นกุ๊ยมาสูบบุหรี่ในห้องสุขา แผนกผู้ป่วยนอก หรือโอพีดี ชั้น 1 อาคาร 3 ซึ่งเป็นอาคารใหม่ส่งกลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วยโอพีดีที่รอรับการตรวจ ทั้งๆ ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะก็ประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้ก็ยังท้าทายลองดี ทั้งๆ ที่ภริยาของมันได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะด้วยสาเหตุทารกในครรภ์ไม่ดิ้น จนอาการดีขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินค่ารักษา

แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้กลับตอบแทนโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะด้วยการท้าทายสูบบุหรี่ ณ โอพีดี รพ.มงกุฎวัฒนะ อาคาร 3 ชั้น 1 ส่งความรำคาญแก่ผู้ป่วยที่มารอตรวจได้สูดควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็งปอดกันถ้วนหน้า ผมจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้อย่างดุเดือดรุนแรงตามที่ผมประกาศไว้ตามเสียงตามสายของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะทุกๆ 2 ชั่วโมง เมื่อไอ้กุ๊ยละเมิดสิทธิผู้ป่วยรายอื่นๆ สร้างความสุ่มเสี่ยงต่ออัคคีภัยใน รพ.ที่มีผู้ป่วยนอนจำนวนมาก สุ่มเสี่ยงต่อโศกนาฏกรรมแล้ว ทั้งเคยเกิดเหตุอัคคีภัย ณ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จากการสูบบุหรี่ในพื้นที่ของโรงพยาบาลมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2558 และ 2564

ดังนั้น ผมจึงจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้ด้วยตนเองด้วยการตบหน้าสั่งสอน ยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วสั่งให้แก้ผ้าล่อนจ้อน ไล่ออกจากพื้นที่ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ไอ้กุ๊ยตัวนี้ยังยกพวกแก๊งมอเตอร์ไซค์มาข่มขู่หน้าทางเข้า โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ 6-7 คันเสียด้วย

แต่ขอบอกตามตรงว่ารู้สึกเฉยๆ ก็ลองแหยมเข้ามาท้าตีท้าต่อยก็จะโต้ตอบรุนแรงกลับไป แถมยังให้ข่าวว่าถูกผมตบคิ้วแตกเสียด้วย โกหกสิ้นดี ผมขอเรียนว่าผมประกาศต่อสาธารณะมาเสมอว่าเราไม่ง้อ ไม่สนผู้ใช้บริการที่เป็นกุ๊ยอันธพาลเกเร คิดจะฝ่าฝืนสูบบุหรี่ เกเร อวดเบ่งบุคลากรทางการแพทย์ กระทำอะไรตามอำเภอใจ ก็ขอเชิญไปโรงพยาบาลอื่นก็แล้วกัน

แต่สำหรับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะแล้วจะมีผู้ใช้บริการที่รู้กฎระเบียบสังคมมาใช้บริการอย่างสบายใจ ผมไม่สนหรอกครับว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ผมกลับเห็นว่าสมควรแก่เหตุเสียด้วยซ้ำ
ควันบุหรี่เป็นสารก่อมะเร็งแก่ผู้ใช้บริการรายอื่นๆ โดยที่เขาไม่สมควรได้รับ ดังนั้นความเด็ดขาดในการปกป้องโรงพยาบาลทุกแห่งในโลกให้เป็นเขตปลอดบุหรี่จึงต้องเด็ดขาดเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

สาธารณชนจะตัดสินใจแยกแยะได้ว่าเมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว เขาจะมาโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะได้อย่างปลอดภัยจากบุหรี่ รวมถึงปลอดกุ๊ยอันธพาลเกเรด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริงทั่วกันครับ คนโลกสวยเห็นว่าเกินแก่เหตุไม่สมควรใช้บริการ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะครับ

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
14 พ.ค. 67 เวลา 12.58 น.

14 พ.ค. 2567 ผู้จัดการออนไลน์

5
จากกรณีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล ถึงถุงใส่ขนมซึ่งพับจากเอกสารผู้ป่วยนอก (Out Patient Department : OPD) ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกรม สบส.ได้ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายนั้น

ล่าสุดวันนี้ (14 พ.ค.67) นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดี กรม สบส. เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญต่อการรักษาความลับและความปลอดภัยข้อมูลของผู้ป่วยมาโดยตลอด กรม สบส. ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีบทบาทหน้าที่ในการควบคุม กำกับสถานพยาบาลเอกชน

ขอเน้นย้ำให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งปฏิบัติตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2545

หากสถานพยาบาลแห่งใด มิได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำหนดให้เก็บรักษาเอกสารของผู้ประกอบวิชาชีพ/ผู้ป่วย และเอกสารที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลไว้ให้อยู่ในสภาพที่สามารถตรวจสอบได้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่จัดทำ ก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการสถานพยาบาล จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากมีการเก็บรักษาเอกสารไว้เกินระยะเวลาที่กำหนดแต่กลับปล่อยให้มีการเล็ดลอดข้อมูลของผู้ป่วยสู่สาธารณชนก็อาจจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ โดย กรม สบส.ได้จัดทำหนังสือแจ้งเวียนกำชับสถานพยาบาลเอกชนทุกทั่วประเทศ ทั้งโรงพยาบาล และคลินิก ให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายในการจัดเก็บและทำลายเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาลอย่างเคร่งครัด

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กรม สบส. ได้ประสานกับ สสจ.อุบลราชธานี ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

เบื้องต้นได้ส่งหนังสือถึงโรงพยาบาลเอกชนที่ถูกกล่าวอ้างให้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเอกสารผู้ป่วยนอกที่หลุดออกจากระบบ รวมถึงชี้แจงแนวทางในการเก็บรักษาและทำลายเอกสารที่เกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล/ผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล และระบบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของโรงพยาบาลให้แก่ สสจ.อุบลราชธานี ภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567

หากตรวจสอบแล้วพบว่า โรงพยาบาลมิได้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ก็จะมีการดำเนินการตามเอาผิดตามกฎหมายแต่หากมิได้มีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการตักเตือนและชี้แจงแนวทางการทำลายเอกสารมิให้ข้อมูลหลุดออกไปสู่สาธารณชนต่อไป

Thansettakij
14 พ.ค.67

6
เพจ “หมอแล็บแพนด้า” เผยภาพถุงกระดาษที่ใส่ขนมโตเกียวที่นำมาจากเอกสารของโรงพยาบาล และมีข้อมูลผู้ป่วยครบ ระบุอาการป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เพจ “หมอแล็บแพนด้า” หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ภาพถุงกระดาษที่ใส่ขนมโตเกียว แต่เมื่อสังเกตดีๆ ถุงกระดาษดังกล่าวเป็นเอกสารของโรงพยาบาล และในถุงกระดาษระบุอาการของคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี

โดยทางเพจหมอแล็บฯ ระบุข้อความว่า "แฟนเพจแจ้งว่า เจอขนมโตเกียวใส่ถุงพับจากเอกสาร OPD รพ.หนึ่งใน จ.อุบลฯ รายละเอียดครบเลย เป็นเพศชายติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี จะกินต่อหรือพอแค่นี้"

อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์ มีชาวเน็ตแห่คอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก เช่น โตเกียวที่อุดมไปด้วยข้อมูลทางการแพทย์, ทางนี้เจอกระดาษรองไข่ไก่ ข้อมูลผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด เอาจริงๆ ข้อมูลพวกนี้ไม่สมควรที่จะหลุดออกมาภายนอกด้วยซ้ำ, เอาจริงๆ ถุงกระดาษสำเร็จรูปสำหรับใส่อาหารมีขายไม่ได้แพงมากนะ ร้านค้าควรใส่ใจกว่านี้, ไม่..คือทำไมไม่รักษาจรรยาบรรณ รพ.อะ ข้อมูลส่วนตัวผู้ป่วยเอาออกมาได้ด้วยเหรอ

13 พ.ค. 2567  ผู้จัดการออนไลน์

7
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวง อว.มีนโยบายให้การสอบ TCAS ปี 2567 หรือการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยผ่านระบบการรับสมัครสอบกลาง ประจําปี 2567 ในรอบแอดมิชชันหรือรอบ 3 ที่ให้นักเรียนแต่ละคนสามารถสมัครเลือกคณะ 1 – 10 อันดับได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อต้องการลดความเหลื่อมล้ำและกระจายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาผ่านระบบ TCAS เป็นครั้งแรกของประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการกระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง และนโยบายความเท่าเทียมทางการศึกษาของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวง อว. ซึ่งในการรับสมัครระหว่างวันที่ 6 – 12 พ.ค.2567 ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีผู้สมัครให้ความสนใจสมัคร TCAS รอบที่ 3 จำนวนมากถึง 132,004 คน ซึ่งมากกว่าปีที่ 2566 ที่มีคนสมัคร TCAS ในรอบที่ 3 จำนวน 124,815 คนถึง 7,189 คน ในขณะที่ ผู้สมัครมีการสมัครเลือกคณะมากกว่า 1.17 ล้านสาขาหรือผู้สมัครสอบเลือก 8.87 อันดับต่อคนโดยเฉลี่ย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 7.74 อันดับต่อคน โดยที่เพิ่มขึ้นมากคือการที่มีนักเรียน เลือกครบ 10 อันดับ เพิ่มขึ้น 35,475 คน

รมว.กระทรวง อว.กล่าวต่อว่า สำหรับจํานวนผู้สมัครแยกตามกลุ่มสาขา
อันดับ 1 คือ นิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมวิทยา สังคมสงเคราะห์ศาสตร์ 294,196 รายการ จำนวนคนที่เลือก 3,041 คน
อันดับ 2 สหเวชศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ พยาบาลศาสตร์ วิทยาศาสตร์การกีฬา 226,111 รายการ จำนวนคนที่เลือก 2,418 คน อันดับ 3 บริหารธุรกิจ พาณิชยศาสตร์ การบัญชี และเศรษฐศาสตร์ 193,668 รายการ จำนวนคนที่เลือก 2,937 คน
อันดับ 4 วิศวกรรมศาสตร์ 95,328 รายการ จำนวนคนที่เลือก 2,942 คน
อันดับ 5 วิทยาศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ 90,699 รายการ จำนวนคนที่เลือก 3,746 คน
อันดับ 6 ครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ พลศึกษา สุขศึกษา 84,349 รายการ จำนวนคนที่เลือก 3,994 คน
อันดับ 7 การท่องเที่ยวและการโรงแรม 35,643 รายการ จำนวนคนที่เลือก 4,576 คน
อันดับ 8 เภสัชศาสตร์ 33,958 รายการ จำนวนคนที่เลือก 4,753 คน
อันดับ 9 เทคโนโลยีสารสนเทศ 31,337 รายการ จำนวนคนที่เลือก 5,917 คน
อันดับ 10 เกษตรศาสตร์ อุตสาหกรรมเกษตร วนศาสตร์ เทคโนโลยีการเกษตร 19,000 รายการ จำนวนคนที่เลือก 97,680 คน
อันดับ 11 แพทยศาสตร์ 16,863 รายการ
อันดับ 12 สัตวแพทยศาสตร์ 16,586 รายการ
อันดับ 13 วิจิตรศิลป์ ศิลปะประยุกต์ ดุริยางคศิลป์ นาฏศิลป์ ศิลปะการออกแบบ พัสตราภรณ์ และศิลปะการออกแบบหัตถอุตสาหกรรม 13,426 รายการ อันดับ 14 สถาปัตยกรรมศาสตร์ 10,873 รายการ
อันดับ 15 ทันตแพทยศาสตร์ 9,222 รายการ

น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า ส่วนสาขาที่มีจำนวนการสมัครมากที่สุด 10 อันดับแรก
อับดับ 1 ได้แก่ พยาบาลศาสตร์ 65,547 รายการ
อันดับ 2 บริหารธุรกิจ 44,354 รายการ
อันดับ 3 การบัญชี 43,941 รายการ
อันดับ 4 นิติศาสตร์ 42,069 รายการ
อันดับ 5 อังกฤษ 37,922 รายการ
อันดับ 6 เศรษฐศาสตร์ 34,667 รายการ
อันดับ 7 รัฐศาสตร์ 34,601 รายการ
อันดับ 8 การท่องเที่ยวและการโรงแรม 30,521 รายการ
อันดับ 9 สาธารณสุข 27,687 รายการ และ
อันดับ 10 เทคนิคการแพทย์ 26,032 รายการ

“มหาวิทยาลัยที่มีจำนวนเปิดรับสมัครมากที่สุด
อันดับ 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 7,126 รายการ
อันดับ 2 มหาวิทยาลัยศิลปากร 6,542 รายการ
อันดับ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6,322 รายการ
อันดับ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 6,112 รายการ
อันดับ 5 มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5,153 รายการ
อันดับ 6 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 4,960 รายการ
อันดับ 7 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 4,895 รายการ
อันดับ 8 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 4,553 รายการ
อันดับ 9 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 4,523 รายการ
อันดับ 10 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำนวน 4,027 รายการ”

น.ส.ศุภมาส กล่าวและว่า นี่คือความพยายามและผลงานที่เป็นรูปธรรมที่กระทรวง อว.ต้องการให้เด็กไทยทุกคนต้องได้เรียน โดยช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำและกระจายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ที่สำคัญจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับเยาวชนไทยได้มีทางเลือกในการศึกษาในระดับอุดมศึกษามากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้การสนับสนุนและผลักดันนโยบายดังกล่าว จนนำมาสู่การให้สมัครสอบ TCAS67 รอบแอดมิชชันฟรีครั้งนี้


https://www.matichon.co.th
14 พฤษภาคม 2567

8
“นิวซีแลนด์” ดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันงดงาม อากาศบริสุทธิ์ และการท่องเที่ยวแนวผจญภัยบนเกาะเหนือ และเกาะใต้ มักถูกยกย่องให้เป็น "สวรรค์บนดิน" ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาสัมผัสธรรมชาติอันสมบูรณ์

ทว่าภายใต้ภาพลักษณ์ที่สวยงามก็เพิ่งมีรายงานข่าวที่ชวนให้ประหลาดใจ เมื่อสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า นิวซีแลนด์กำลังประสบปัญหา ประชาชนแห่อพยพออกนอกประเทศ “มากที่สุดเป็นประวัติการณ์” ในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจที่ซบเซา และโอกาสทางการงานมีจำกัด

สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์ รายงานวันนี้ (14 พ.ค.67) ว่า มีพลเมืองสัญชาตินิวซีแลนด์จำนวน 78,200 คน เดินทางออกนอกประเทศในช่วงปีสิ้นสุดเดือนมี.ค. ซึ่ง “เพิ่มขึ้น” จากจำนวน 74,900 คน ในช่วงปีสิ้นสุดเดือนก.พ.

เมื่อปรับกับจำนวนพลเมืองส่วนหนึ่งที่เดินทางกลับประเทศบ้านเกิดแล้ว ยอดผู้ย้ายออกสุทธิ ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ที่ 52,500 คน ซึ่ง “เป็นครั้งแรก” ที่ตัวเลขนี้เกินกว่า 50,000 คน

- พลเมืองนิวซีแลนด์อพยพออกจากประเทศสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังช่วงโควิด-19 (เครดิต: Statistics NZ/ Bloomberg) -
เหตุผลที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ เป็นเพราะว่าอัตราดอกเบี้ยของประเทศที่สูง จนกระทบการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความเชื่อมั่นทางธุรกิจ โดยมีการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่ชี้ว่า ความต้องการจ้างงานลดลง ชาวนิวซีแลนด์จึงหันไปหางานทำในออสเตรเลีย และตลาดต่างประเทศอื่นๆ แทน ซึ่งมีค่าจ้างที่น่าดึงดูดใจกว่า

อีกทั้งหน่วยงานสาธารณสุข และตำรวจของออสเตรเลียได้ฉวยโอกาสนี้ ดึงดูดบุคลากรฝีมือดีจากนิวซีแลนด์เข้าร่วมทีม โดยเสนอแพ็กเกจเงินเดือน และสวัสดิการที่น่าสนใจ

แม้ว่าจำนวนผู้ย้ายออกจากนิวซีแลนด์จะเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนผู้อพยพจากต่างประเทศที่เข้ามาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน  โดยยอดการย้ายเข้าสุทธิ ซึ่งเคยสูงสุดกว่า 139,000 คนในช่วงสิ้นสุดเดือนต.ค. เริ่มชะลอตัว และยอดการย้ายเข้าสุทธิได้ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน เหลือ 111,145 คน ในช่วงปีสิ้นสุดเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยังกระตุ้นให้ธนาคารกลางออกโรงเตือนว่า ความต้องการบ้านและการเช่าที่อยู่ที่เพิ่มขึ้นนี้ อาจส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้งรัฐบาลประกาศว่า จำเป็นต้องมีการแก้ไขเพื่อลดแรงกดดันต่อบริการด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และให้แน่ใจว่าประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการที่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง: bloomberg

Bangkokbiznews
14 พ.ค. 2567

9
แม่เด็กชายวัย 14 แจ้งความ ‘หมอคนดัง’ ตบหน้าสั่งแก้ผ้าไล่พ้นรพ. หลังพบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ ด้าน หมอเหรียญทอง แจงเดือด ใครว่าทำเกินกว่าเหตุ ไม่สมควรใช้บริการ

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม มารดา ของชายอายุ 14 ปีรายหนึ่ง ได้เดินทางไปแจ้งความว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านแจ้งวัฒนะ

โดยเธอเล่าว่า ระหว่างที่​ลูกชายได้เดินทางไปเฝ้าภรรยาที่รอคลอด ​ระหว่างนั้นได้เข้าไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำชั้น 12 ของโรงพยาบาล เมื่อสูบบุหรี่เสร็จออกมาจากห้องน้ำ พบว่าเจ้าหน้าที่ของ รพ.ที่เป็นผู้ชาย ได้ยืนถ่ายภาพ และนำตัว ด.ช.วัย 14 ลงมาบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน และโทรหาให้ผู้ปกครองมาเสียค่าปรับ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท

จากนั้นเมื่อ ด.ช.โทรหาผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ได้นำโทรศัพท์ไปคุยต่อโดยไม่ได้ส่งคืน และให้ ด.ช.นั่งรอหน้าห้องฉุกเฉิน เวลาต่อมาได้มีชายเดินมาทำร้ายร่างกาย ด.ช. ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด และเดินออกจาก รพ.ไป เมื่อ ด.ช.เดินออกจาก รพ. จึงยืมโทรศัพท์บุคคลที่อยู่บริเวณนั้น โทรหาญาติให้มารับ และแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ระบุว่า ชายไทยสูงวัย ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้น เดินเข้ามาทางประตูหน้าตรงห้องฉุกเฉิน เดินตรงเข้ามาที่ ด.ช.วัย 14 จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถามว่า “มึงสูบบุหรี่ในนี้ได้ไง” หลังจากสิ้นคำถาม ชายคนดังกล่าวก็ตบมาที่บริเวณใบหน้า​ 1 ครั้ง

จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ตบที่บริเวณใบหน้าอีก 3 ครั้ง แม้ว่าจะพยายามขอโทษ และร้องไห้ออกมา ก่อนที่จะถูกตะคอกใส่ว่า จะร้องทำไม ​โดยพบว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณคิ้วข้างซ้ายเป็นรอยช้ำแดง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ความตอนหนึ่งว่า ได้โปรดแชร์ให้ทราบข้อเท็จจริงทั่วกันว่า เมื่อดึกคืนวันที่ 13 พ.ค.67 มีไอ้วัยรุ่นกุ๊ยมาสูบบุหรี่ในห้องสุขา แผนกผู้ป่วยนอก ซึ่งเป็นอาคารใหม่ส่งกลิ่นควันบุหรี่เข้าสู่ระบบปรับอากาศคละคลุ้งทั่วพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ป่วย โอพีดี ที่รอรับการตรวจ

ทั้งๆ ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะก็ประกาศจัดการผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดรุนแรง แต่ไอ้กุ๊ยตัวนี้ก็ยังท้าทายลองดี ดังนั้นผมจึงจัดการไอ้กุ๊ยรายนี้ด้วยตนเองด้วยการตบหน้าสั่งสอน ยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วสั่งให้แก้ผ้าล่อนจ้อน ไล่ออกจากพื้นที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริงทั่วกันครับ คนโลกสวยเห็นว่าเกินแก่เหตุไม่สมควรใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะครับ

14 พค 2567
มติชน

10
วันนี้ (11 มีนาคม 2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้บริหารสำนักตรวจราชการ สธ. ครั้งที่ 1/2567 ว่า วันนี้เป็นการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบตามที่ สธ.เสนอแต่งตั้งผู้ตรวจราชการ สธ. และเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567



ปลัด สธ.กล่าวว่า โดยได้มอบนโยบายและสั่งการในประเด็นสำคัญ คือ การมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน 13 ประเด็นนโยบายเน้นหนัก ดังนี้

1.นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รับผิดชอบโครงการพระราชดำริฯ /เฉลิมพระเกียรติ/ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระบรมวงศานุวงศ์

2.พญ.ปฐมพร ศิรประภาศิริ รับผิดชอบโรงพยาบาล กทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาล และปริมณฑล

3.นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ รับผิดชอบสุขภาพจิต/ยาเสพติด

4.นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รับผิดชอบมะเร็งครบวงจร

5.นพ.ภูวเดช สุระโคตร รับผิดชอบสร้างขวัญและกำลังใจบุคลากร

6.นพ.ศักดา อัลภาชน์ รับผิดชอบการแพทย์ปฐมภูมิ

7.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รับผิดชอบสาธารณสุขชายแดนและพื้นที่เฉพาะ

8.นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รับผิดชอบสถานชีวาภิบาล

9.นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน รับผิดชอบพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย

10.นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัด สธ. เป็นประธานดิจิทัลสุขภาพ นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และ นพ.จักรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ปฏิบัติหน้าที่ด้านวิชาการในเขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร เป็นรองประธาน

11.นพ.สราวุฒิ บุญสุข รับผิดชอบส่งเสริมการมีบุตร

12.นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รับผิดชอบเศรษฐกิจสุขภาพ

13.พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ รับผิดชอบนักท่องเที่ยวปลอดภัย

“ทุกประเด็นให้มีการทบทวนเป้าหมาย ความสำเร็จรายไตรมาสของไตรมาสที่ 3 และ 4 รวมถึงมาตรการ/กิจกรรม (Action Plan) ต่างๆ ในทุกประเด็น ทั้งนี้ จะมีรองปลัด สธ.ทำหน้าที่ควบคุมกำกับการดำเนินงานตามนโยบายทั้ง 13 ประเด็น ประกอบด้วย นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รับผิดชอบประเด็นที่ 1, 5, 8 นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รับผิดชอบประเด็นที่ 3, 6, 13 นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รับผิดชอบประเด็นที่ 7, 10, 11 และ นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รับผิดชอบประเด็นที่ 2, 4, 9, 12″ นพ.โอภาสกล่าว.

11 มีนาคม 2567
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4465866

11
HALTH TWO NINE
สำนักงานที่ปรึกษาสิทธิผู้ป่วย และความเสียหายทางการแพทย์

ความเสียหายทางการแพทย์
ผู้ป่วย/ญาติ/บุคลากรทางการแพทย์ ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย อันเนื่องมาจากความประมาท เลินเล่อ ในการรักษาพยาบาล ไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ และระบบรับรองคุณภาพโรงพยาบาล/สถานพยาบาล

สิทธิผู้ป่วย
ผู้ป่วย/ทายาท ไม่ได้รับสิทธิ หรือมีสิทธิขั้นพื้นฐาน ในการเข้ารับบริการด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และคำประกาศสิทธิของผู้ป่วย

บริการของเรา
ให้คำปรึกษา แนะนำ เรียกร้องสิทธิผู้ป่วย เจรจา ไกล่เกลี่ยค่าชดเชย เรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายต่อหน่วยงานของรัฐ และศาลยุติธรรม

ให้คำปรึกษา ฟรี 24 ชม.
ให้คำปรึกษา....ด้านสิทธิผู้ป่วย ความเสียหายทางการแพทย์ การวิเคราะห์เหตุแห่งการละเมิด จากกระบวนการดูแลรักษาพยาบาล  การดำเนินการเรียกร้องสิทธิ การขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากภาครัฐ(สปสช./ปกส./ศาลปกครอง/ศาลแรงงาน) การเจรจาเรียกค่าชดเชยกับสถานพยาบาล และผู้ประกอบวิชาชีพ และการฟ้องดำเนินคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายต่อศาลยุติธรรม ฯลฯ

เรียกร้องสิทธิผู้ป่วย
บริการ...รับมอบอำนาจ เพื่อบริหารจัดการ และดำเนินการเรียกร้องสิทธิ การขอเวชระเบียน (ประวัติการรักษาพยาบาล) การขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากภาครัฐ (สปสช./ปกส.) การอุทธรณ์คำสั่งเงินช่วยเหลือเบื้องต้น การยื่นฟ้องเพิกถอนคำสั่ง สปสช./ปกส.ต่อศาลปกครอง และศาลแรงงาน และการเรียกร้องสิทธิอื่นๆ กรณีการไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานจากการรับบริการด้านสุขภาพตามกฎหมาย

เจรจา เรียกร้องค่าชดเชย
บริการ..รับมอบอำนาจ เจราจา ไกล่เกลี่ย เรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายทางการแพทย์ กับผู้ประกอบวิชาชีพ โรงพยาบาลรัฐ/ต้นสังกัด โรงพยาบาลเอกชน และสถานพยาบาลทั่วไป

ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
บริการ...เป็นที่ปรึกษา เสมียน/ผู้ช่วยทนาย และผู้รับมอบอำนาจดำเนินการ การฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยความเสียหาย การประสานงานบุคลากรทางการแพทย์  สหสาขาวิชาชีพ การตรวจวิเคราะห์เวชระเบียน การจัดเตรียมข้อมูล เอกสาร หลักฐานทางการแพทย์ Textbook/CPG/Handbook/ข้อกำหนดระบบรับรองคุณภาพโรงพยาบาล และสถานพยาบาล เพื่อใช้เป็นพยานเอกสารในการฟ้องร้องดำเนินคดีในชั้นศาล ฯลฯ

ค่านิยมหลัก
เรา...ตระหนักและให้ความสำคัญ ต่อบุคลากรทางการแพทย์ ที่ใส่ใจดูแลให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วย ตามมาตรฐานวิชาชีพ และระบบรับรองคุณภาพมาตรฐาน สถานพยาบาล ไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน และเสียกำลังใจ...เสมอมา

" อีกหนึ่งความหวังของเรา "
ถ้าคุณเป็นผู้เสียหายทางการแพทย์ที่แท้จริง การเรียกร้องสิทธิ์ความเสียหายของคุณ จะเป็นบทเรียนสำคัญ ให้ผู้ประกอบวิชาชีพและสถานพยาบาล ตระหนักถึงการพัฒนาระบบคุณภาพการรักษาพยาบาล ตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อลดความสูญเสียอย่างต่อเนื่อง และจริงจังต่อไป

หนึ่งการเรียกร้องสิทธิ์ของคุณ คือ อีกหลายบทเรียนสำคัญของสถานพยาบาล และผู้ประกอบวิชาชีพ

อ.อริยวรรธท์
ผู้ชำนาญการงานบริหารโรงพยาบาล และสถานพยาบาล มากว่า 20 ปี ยินดีให้คำปรึกษา ฟรี 24 ชม.

HEALTH TWO NINE
บริษัท ทูไนน์ เฮลท์ เซอร์วิส จำกัด
http://www.ฟ้องแพทย์ฟ้องโรงพยาบาล.com
E:mail : healthtwonine@gmail.com
สำนักงานเลขที่ 29/29 ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว    กรุงเทพมหานคร 10230 Tel : 0-2014-1729 Hotline : 09-1515-2929             

12
'เลขาศาลยุติธรรม' ออกหนังสือด่วนที่สุด แนวทางสืนพยาน 'แพทย์' เบิกความออนไลน์ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาขึ้นศาลแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธานี สิงหนาท เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งเวียนแนวทางการสืบพยานที่เป็นแพทย์โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในคดีแพ่ง โดยมีหลักการสำคัญให้มีการ สืบพยานที่เป็นแพทย์ ผู้ไม่มีส่วนได้เสียในคดีผ่านแอปพลิเคชัน Google Meet แพทย์อาจเบิกความ ณ โรงพยาบาลที่สังกัดอยู่ได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ศาล

โดยแนวทางดังกล่าวเกิดจาก สำนักงานศาลยุติธรรม เล็งเห็นว่า แต่ละวันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่รอเข้ารับบริการจากบุคลากรทางการแพทย์ ขณะเดียวกันแพทยฺ์อาจต้องเสียเวลาเดินทางมาเบิกความในฐานะพยานทำให้เสียโอกาสในการตรวจรักษาผู้ป่วย

ดังนั้นสำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้มีหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติดังกล่าวไปยังศาลทั่วประเทศด้วยวัตถุประสงค์ เพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความที่จะได้รับการพิจารณาคดีโดยสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม ซึ่งคำนึงถึงประชาชนที่ต้องได้รับการบริการด้านสาธารณสุขในเวลาเดียวกัน ภายใต้นโยบายสร้างสรรค์ความยุติธรรมที่ยั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางของนางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา

9 พ.ค. 2567
https://www.komchadluek.net/news/crime/574407

13
อร่อยเด็ดแซ่บนัว! "ส้มตำ" สร้างชื่อ คว้าอันดับ 11 สลัดที่ดีที่สุดในโลก เมนูอื่นก็ไม่น้อยหน้า "ส้มตำไข่เค็ม-พล่ากุ้ง-ยำวุ้นเส้น" ติดอันดับด้วย

เผยผลเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการจัดอันดับ "สลัด" ที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2024 ของทาง TasteAtlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านอาหารชื่อดัง บอกเลยว่าอาหารไทยอร่อยไม่เป็นสองรองใคร เพราะมีเมนูติดอันดับมากกว่า 4 เมนู ได้แก่ ส้มตำ ตำไข่เค็ม พล่ากุ้งและยำวุ้นเส้น

เมนูสลัดสร้างชื่อได้แก่ "ส้มตำ (Som tam)" สามารถคว้าอันดับที่ 11 โดยเว็บไซต์อธิบายว่า ส้มตำส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาคอีสานของไทย แม้จะมีการระบุว่าเคยปรากฏครั้งแรกในลาวก็ตาม ด้านรสชาติมีความหวานและเผ็ด ซึ่งร้านอาหารมักให้ลูกค้าปรับส่วนผสมได้ตามความต้องการ และเมนูนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ถัดมา "ส้มตำไข่เค็ม (Papaya salad with salted egg)" คว้าอันดับที่ 20 มาครอง โดยเว็บไซต์อธิบายว่า ส้มตำไข่เค็มเป็นส้มตำที่มีต้นกำเนิดจากไทย มีความแตกต่างจากที่อื่นเพราะด้านบนโปะด้วยไข่เค็ม

ต่อมา "พล่ากุ้ง (Phla kung)"  ติดอันดับที่ 41 โดยทางเว็บไซต์ได้อธิบายว่า พล่ากุ้งประกอบด้วยกุ้งลวกรวมกับตะไคร้สับ หอมแดง ใบมะกรูด ผักชี และใบสะระแหน่ คลุกด้วยน้ำสลัดพริกมะนาว โดยทั่วไปแล้วจะมีรสเผ็ดและโรยหน้าด้วยสะระแหน่

เมนูนี้ค่อนข้างทำได้หลากหลาย อาจใช้อาหารทะเล หรือปลาแทนกุ้ง หรือจะใช้อาหารทะเลหลายชนิดมาผสมรวมกันเพื่อให้ได้สลัดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

และ "ยำวุ้นเส้น (Yum woon sen)" แซ่บจนคว้าอันดับที่ 48 มาครอง โดยทางเว็บไซต์ได้อธิบายว่า ยำวุ้นเส้นสลัดไทยรสเผ็ดที่ทำจากวุ้นเส้น หมูบด พริก และน้ำยำ โดยเส้นและหมูจะปรุงแยกจากกัน จากนั้นค่อยนำมายำรวมกับผัก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและมะนาว พื้นฐานแล้วยำมีรสชาติค่อนข้างเผ็ด ผู้คนจึงมักรับประทานพร้อมกับข้าวสวยและผักกาดหอม

11 พค 2567
ข่าวสด

14
“ไมโครพลาสติก” และ “นาโนพลาสติก” มลพิษจากพลาสติกที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศ สามารถเดินทางไปทั่วโลก แม้แต่บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ขั้วโลกเหนือ ใต้มหาสมุทรและบนก้อนเมฆก็ยังพบอนุภาคพลาสติกปะปนอยู่ ดังนั้นทุกการหายใจเข้าออกของเรา จึงมีโอกาสที่เราจะสูดดมชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของพลาสติกเหล่านี้เข้าไป การศึกษาล่าสุดนำโดย ดร.สุวัส ซาฮา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ เผยให้เห็นเส้นทางที่มลพิษขนาดจิ๋วเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายของเราและความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ชิ้นดังกล่าว ใช้พลศาสตร์ของไหลและอนุภาคเชิงคำนวณ (CFPD) ในการสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์จำลองสถานการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเราหายใจเอาไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกาย และเมื่อมันเข้าไปอยู่ในร่างกายของเราแล้วจะไปส่วนใด

“ขณะนี้มลภาวะทางอากาศจากอนุภาคพลาสติกแพร่กระจายไปทั่วโลก และการสูดดมถือเป็นหนึ่งในวิธีสารเหล่านี้จะเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้มากที่สุด ไม่ต่างจากการกินและดื่ม” ดร.สุวัส ซาฮา ผู้เขียนนำในงานวิจัยกล่าว

“ไมโครพลาสติก” อยู่ทุกที่
ไมโครพลาสติก ชิ้นส่วนพลาสติกขนาดไม่เกิน 5 มิลลิเมตร และนาโนพลาสติก พลาสติกขนาดเล็กกว่าเส้นผมและตรวจจับได้ยาก ลอยฟุ้งอยู่ทั้งในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งและในร่ม ซึ่งหมายความว่านี่เป็นปัญหาที่ทุกคนในโลกสามารถสัมผัสได้ หากพลาสติกแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ มากพอ ผักและผลไม้จะสามารถดูดซับไมโครพลาสติกผ่านระบบรากของมัน เช่นเดียวกับสัตว์ต่าง ๆ ที่เผลอกินไมโครพลาสติกเข้าไปโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อพืชและสัตว์เหล่านี้กลายเป็นอาหารของมนุษย์ ก็จะส่งมอบไมโครพลาสติกมาให้มนุษย์ด้วยเช่นกัน

ดร.ซาฮา ระบุว่า ไมโครพลาสติกในสิ่งทอสังเคราะห์เป็นอนุภาคพลาสติกที่พบได้มากที่สุดในอากาศภายในอาคาร ส่วนสภาพแวดล้อมภายนอก มีอนุภาคหลากหลายชนิดมากมายลอยอยู่ ตั้งแต่ฝุ่นละอองที่ปนเปื้อนจากมหาสมุทร ไปจนถึงอนุภาคที่เกิดจากการบำบัดน้ำเสีย

ก่อนหน้านี้ มีงานการวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า ไมโครพลาสติกถูกพบในปอดของมนุษย์ เนื้อเยื่อรกของมารดาและทารกในครรภ์ นมแม่ และเลือดของมนุษย์ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่านาโนพลาสติกเป็นมลพิษจากพลาสติกประเภทที่น่าเป็นห่วงที่สุดต่อสุขภาพของมนุษย์

ไมโครพลาสติกส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ส่วนมากมาจากเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลหลายประเภท เช่น โฟมล้างหน้า ยาสีฟันที่มีเม็ดบีดส์ผสมอยู่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พลาสติกต่าง ๆ ที่สามารถแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ ได้ เช่น ขวดน้ำ บรรจุภัณฑ์อาหาร และเสื้อผ้า

“ไมโครพลาสติก” เข้าสู่ร่างกายในทุกลมหายใจ
การศึกษาพบว่า รูปแบบการหายใจที่ต่างกันจะทำให้ไมโครพลาสติกเหล่านี้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแตกต่างกัน การหายใจเร็วจะทำให้อากาศไหลผ่านจมูกและลำคออย่างรวดเร็ว อาจทำให้อนุภาคพลาสติกขนาดใหญ่เข้าไปติดในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ว่าจะเป็นโพรงจมูก กล่องเสียง

ขณะที่ การหายใจช้าลงจะทำให้อนุภาคมีขนาดเล็กลง โดยเฉพาะนาโนพลาสติกสามารถเข้าไปในระบบทางเดินหายใจได้ลึกมากขึ้น อาจเข้าไปถึงโครงสร้างที่ละเอียดอ่อนของปอด เช่น เยื่อหุ้มปอด ถุงลมได้

นอกจากนี้ รูปร่างของไมโครพลาสติกก็มีส่วนสำคัญเช่นกันว่าจะทำให้พลาสติกเข้าไปได้ถึงจุดใด เศษไมโครพลาสติกที่มีรูปร่างอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทรงกลมมีแนวโน้มที่จะสามารถหลุดรอดผ่านกลไกการกรองตามธรรมชาติของร่างกายได้ดีกว่า

การวิจัยชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอนุภาคพลาสติกเหล่านี้ช่วยเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้ปอดผิดปรกติเร็วขึ้น รวมถึงโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เกิดพังผืดในปอด หายใจลำบาก (Dyspnea) โรคหอบหืด และ มีรอยทึบแบบกระจกฝ้า (ground glass opacity: GGO) ซึ่งเป็นรอยโรคผิดปรกติในปอด สามารถบ่งบอกถึงการอักเสบหรือโรคปอดระยะเริ่มแรก

“การค้นพบนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาอัตราการหายใจและขนาดอนุภาคในการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสทางเดินหายใจกับอนุภาคนาโนและไมโครพลาสติก” ดร.ซาฮา กล่าวสรุป

ที่มา: Earth, Euro News, Phys


กรุงเทพธุรกิจ
11 พค 2567

15
เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 16 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่หอพระ และสมาคมกู้ภัยแม่โจ้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ออกตรวจสอบอุบัติเหตุ รถตู้ชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายเชียงใหม่-พร้าว ก่อนถึงโรงเรียนแม่หอพระ ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

ที่เกิดเหตุพบรถแอมบูแลนซ์ของโรงพยาบาลพร้าว ทะเบียน ขว 6072 เชียงใหม่ ชนเสียบเข้าท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ด้านหลังบรรทุกเหล็กเส้น ท่อเหล็ก ท่อ PVC มาเต็มคัน น้ำหนักหลายตัน ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่นั่งด้านหน้าของรถพยาบาล พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย เป็นคนขับ 1 ราย และคนที่นั่งโดยสารข้างๆคนขับอีก 1 ราย ร่างติดอยู่ในซากรถ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดซากรถเพื่อนำร่างออกมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายพิษณุ อายุ 56 ปี คนขับรถโรงพยาบาลพร้าว และนางอำพร อายุ 59 ปี พยาบาลวิชาชีพประจำห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพร้าว

ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ Hino ทะเบียน 83-4264 เชียงใหม่ มีนายพนาสันต์ อายุ 69 ปี เป็นคนขับ โดยนายพนาสันต์ได้เล่านาทีเกิดเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุรถของตนได้จอดเสียเพราะยางหน้าซ้ายระเบิดอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งตนก็ได้หักกิ่งไม้เอาไปวางห่างจากตัวรถเพื่อส่งสัญญาณให้รถที่ขับมาตามถนนได้ทราบแล้วว่ามีรถเสียจอดอยู่ด้านหน้า และเมื่อพระอาทิตย์ตกดินถนนก็เริ่มมืด จากนั้นรถพยาบาลก็ขับมาด้วยความเร็วและคาดว่าน่าจะไม่เห็นสัญลักษณ์ที่ตนทำไว้ ตนก็พยายามจะให้สัญญาณมือโบกรถ แต่คนขับก็เบรกไม่ทันทำให้ชนท้ายดังกล่าว

17 ม.ค. 2024
กรุงเทพธุรกิจ

หน้า: [1] 2 3 ... 653