สธ.วอน รพ.รัฐขนาดใหญ่ลดใช้ยานอกบัญชีหลักอย่างน้อย ร้อยละ 10 พร้อมเจรจาต่อรองราคายากลุ่มโรคค่าใช้จ่ายสูง ตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายด้านยาปีละกว่า 5 พันล้านบาท...
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้แทนจากกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงกลาโหม สำนักงานประกันสังคม สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรม กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ร่วมประชุมคณะกรรมการกำหนดระบบบริหารยา เวชภัณฑ์ การเบิกจ่ายค่าตรวจวินิจฉัย และค่าบริการทางการแพทย์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของคณะอนุกรรมการทั้ง 6 ชุด ได้แก่ 1.ชุดเจรจาต่อรองราคายาและเวชภัณฑ์ 2.ชุดส่งเสริมการใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติและยาชื่อสามัญ 3.ชุดกำหนดแนวเวชปฏิบัติ ข้อบ่งชี้การใช้ยา การตรวจวินิจฉัยโรค และการรักษาพยาบาล 4.ชุดพัฒนาระบบตรวจสอบการรักษาพยาบาลและการเบิกจ่าย 5.ชุดพัฒนาบัญชียาและรหัสมาตรฐานเพื่อสนับสนุนการบริหารเวชภัณฑ์ และ 6.ชุดปรับปรุงกลไกการจ่ายเงินโดยกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม และผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง
นายวิทยา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อหาแนวทางลดค่าใช้จ่ายในด้านยาให้คนไทยได้ใช้ยาดี มีคุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล คาดว่า หากดำเนินการได้ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการทั้ง 6 ชุด จะสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศได้ปีละไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่า ขณะนี้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ทุกสังกัดใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติประมาณ ร้อยละ 4070 ในขณะที่โรงพยาบาลชุมชนมีสัดส่วนการใช้ยานอกบัญชียาหลักอยู่ที่ร้อยละ 20 ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่ประชุมได้ขอความร่วมมือให้โรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐทุกสังกัด เพิ่มการใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติให้มากขึ้น และลดการใช้ยานอกบัญชียาหลักลงร้อยละ 10
อีกทั้งเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้ยานอกบัญชียาหลัก กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับปรุงรายการยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2555 จำนวน 2 ฉบับ มีรายการยาใหม่เพิ่มอีกมากกว่า 50 รายการ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงนามในประกาศต่อไป
รมว.สาธารณสุข กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ได้มีมาตรการเจรจาต่อรองราคายาและเวชภัณฑ์ในกลุ่มโรคที่มีมูลการค่าใช้จ่ายสูง เพื่อลดค่ายาที่แพงเกินไป ล่าสุดได้เจรจาต่อรองราคายารักษาโรคมะเร็งรวม 12 รายการ ได้จัดทำคู่มือแนวเวชปฏิบัติ ข้อบ่งชี้การใช้ยา การตรวจวินิจฉัยโรคและการรักษาพยาบาล เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างครอบคลุม สมเหตุสมผล ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ จะไม่กระทบต่อแผนการรักษาของแพทย์ และการใช้ยาของผู้ป่วย
สำหรับที่กรมบัญชีกลางมีคำสั่งให้ข้าราชการที่เป็นโรคเรื้อรังลงทะเบียน เลือกสถานพยาบาลประจำ 1 แห่ง ภายในวันที่ 1 พ.ย. 2555 นั้น ที่ประชุมมีมติขอความร่วมมือให้กรมบัญชีกลางทบทวนคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อระบบบริการ เนื่องจากนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขต้องการลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ส่งเสริมให้ไปรับการรักษาที่สถานบริการใกล้บ้าน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หากจำเป็นต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะมีระบบส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่.
