ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.เร่งส่งหน้ากากอนามัยให้ 8 จ.ภาคเหนือสู้ควันพิษ  (อ่าน 1078 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9782
    • ดูรายละเอียด
มว.สธ. สั่งกรมควบคุมโรค ส่งหน้ากากอนามัย 50,000 ชิ้น ให้ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ให้ประชาชนใส่ ป้องกันการสูดละอองควันไฟเข้าปอด เบื้องต้นพบผู้เจ็บป่วย 3 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคทางเดินหายใจ, โรคตา เพิ่มจากปกติ 5,000 ราย

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาจากฝุ่นละอองควันไฟ เกินค่ามาตรฐานในภาคเหนือตอนบนว่า ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งหน้ากากอนามัย จำนวน 50,000 ชิ้น ไปให้ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนใส่ป้องกันการสูดฝุ่นละอองควันไฟเข้าปอด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน และพะเยา โดยได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ให้การดูแลรักษาผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยอย่างเต็มที่ และมอบหมายให้นายแพทย์  จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เพื่อติดตามประเมินปัญหาและวางแผนดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว

เบื้องต้นได้รับรายงานผลการเฝ้าระวังผู้เจ็บป่วยจากปัญหาฝุ่นละอองควันไฟ จากสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค ในโรงพยาบาล 61 แห่ง ใน 8 จังหวัดภาคเหนือดังกล่าว ในช่วงวันที่ 5-11 ก.พ. 2555 พบว่า มีประชาชนกลุ่มเสี่ยงเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น 3 กลุ่มโรค รวม 5,054 ราย เมื่อเทียบช่วงปกติวันที่ 1 มกราคม 2555 ที่ไม่มีปัญหาฝุ่นละอองควันไฟ ได้แก่ 1. โรคหัวใจและหลอดเลือด พบป่วย 16,376 ราย เพิ่มจากช่วงปกติ 23% หรือจำนวน 3,098 ราย 2. โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการแสบคอ น้ำมูกไหล จำนวน 21,319 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ 1,477 ราย คิดเป็น7%  และ3.กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่นระคายเคืองตา แสบตา พบผู้ป่วย 1,490 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 479 ราย คิดเป็น 47%

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ส่วนโรคอื่นๆ เช่น โรคผิวหนัง พบว่ายังไม่มีผลกระทบ มีจำนวนผู้ป่วย 1,393 ราย ลดลงจากช่วงปกติที่มี 1,827 ราย อย่างไรก็ดี ข้อมูลการเจ็บป่วยที่กล่าวมา ผู้เชี่ยวชาญกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่สามารถสรุปหรือยืนยันได้ว่า ผู้ป่วยทั้งหมดเกิดจากปัญหาฝุ่นละอองควันไฟ เนื่องจากปัญหาละอองควันไฟ เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดโรค 4 กลุ่มโรคดังกล่าว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมาก ที่ทำให้เกิดโรค โดยกระทรวงสาธารณสุขจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จากกรมควบคุมโรค ลงศึกษาปัญหาในพื้นที่ที่สถานพยาบาลต่างๆ เพื่อศึกษาข้อมูลผลกระทบทางสุขภาพทั้งหมด เพื่อใช้ในการเฝ้าระวัง และวางแผนป้องกันได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ ในช่วงที่มีปัญหาหมอกควัน กระทรวงสาธารณสุขมีข้อแนะนำประชาชนดังนี้
1. ไม่ควรเผาขยะ หรือวัสดุใดๆ รวมถึงการสูบบุหรี่ที่จะเป็นการเพิ่มปัญหาควันมากขึ้น
2. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากในบริเวณกลางแจ้ง
3. ในกรณีที่ขับขี่ยานพาหนะในช่วงที่มีหมอกควัน ควรเปิดไฟหน้ารถ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
4. กรณีที่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีหมอกควันหรือฝุ่นละออง ควรใช้หน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูก และ
5. ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงมีครรภ์ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคภูมิแพ้ โรคปอด โรคหอบหืด ควรเตรียมยาประจำตัวให้เพียงพอ
และหากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก แสบตา ควรพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน

ไทยรัฐออนไลน์ 19 กพ 2555