ฝูงแมงกะพรุนนับแสนตัวโผล่กลางทะเลตรัง บริเวณชายหาดบ้านแหลมมะขาม อ.สิเกา จ.ตรัง ทำให้ชาวบ้าน 2 พื้นที่ ตรัง-กระบี่ นำเรือนับ 100 ลำ แห่จับแมงกะพรุนขายสร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท...
เมื่อ เวลา 14.30 น.วันที่ 14 เม.ย.2554 ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดปรากฎการณ์แมงกะพรุน หรือแมงกะพรุนลอดช่อง น้ำหนักตัวตั้งแต่ 4-8 กิโลกรัม นับแสนตัว โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำบริเวณบ้านแหลมมะขาม และบ้านแหลมไทร พื้นที่ ม.5 และ ม.7 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้าน 2 จังหวัด คือ จ.ตรัง และกระบี่ นำเรือหางยาวกว่า 100 ลำ แห่กันออกจับแมงกะพรุนส่งขายให้กับแม่ค้าคนกลางเต็มไปทั่วท้องทะเลตรัง
รายงาน ข่าวแจ้งว่า ตลอดวันนี้พ่อค้าได้เดินทางมารับซื้อจากชาวประมงพื้นบ้านถึงที่ บริเวณชายหาดแหลมมะขาม และนับเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในบริเวณดังกล่าว โดยเมื่อปี 2553 ในช่วงเดียวกัน คือ ระหว่างเดือน มี.ค.ถึงเดือน เม.ย.พบแมงกะพรุนหลายหมื่นตัวขึ้นมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปากเมง อ.สิเกา โดยนักวิชาการชี้ว่า เกิดจากการกินแพลงตอนที่เป็นพิษเข้าไป ทำให้ขึ้นมาเกยตื้นตายเป็นจำนวนมาก แต่ปีนี้ จ.ตรัง เพิ่งเกิดลมมรสุมและมีฝนตกหนักจึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุเดียวกัน
ด้าน ผศ.อภิรักษ์ สงรักษ์ นักวิชาการด้านการจัดการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า การพบแมงกะพรุนเป็นจำนวนมากในปีนี้ อาจเกิดจากกระแสน้ำเปลี่ยนทิศทาง เนื่องจากบริเวณบ้านแหลมมะขาม เป็นร่องน้ำต่อจากร่องน้ำ จ.กระบี่ ซึ่งปกติจะพบแมงกะพรุนชนิดนี้ในน้ำลึก แต่ปีนี้มีลมมรสุมตะวันตกพาดผ่าน ทำให้พัดเอาแมงกะพรุนลอยขึ้นมากกว่าทุกปี แต่ไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา
ด้าน นายบังอาด รัญวาสี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.7 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า ตนและชาวประมงในพื้นที่ประมาณ 100 คน มีรายได้จากการจับแมงกะพรุนขายวันละตั้งแต่ 1,000-2,500 บาท ซึ่งสร้างรายได้ดีมาก โดยตนใช้เรือไปประมาณ 1-2 ชั่วโมงสามารถจับแมงกะพรุนได้แล้วกือบ 1,000 ตัว เนื่องจากแต่ละตัวอยู่ห่างกันไม่เกิน 1 วา ซึ่งถือว่าพบหนาแน่นมากที่สุดเท่าที่ตนเคยทำอาชีพประมงมานานกว่า 10 ปี
ส่วน นางกาญจนา วาหะรักษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.2 ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นแม่ค้ารับซื้อแมงกะพรุน กล่าวด้วยว่า ตนมารับซื้อเป็นวันที่ 3 ซึ่งวันแรกคือ รับซื้อไปได้ประมาณ 8,200 ตัว ให้ราคาตัวละ 3 บาท ส่วนวันที่ 2 รับซื้อได้ประมาณ 17,000 ตัว และ วันที่ 3 รับซื้อได้มากกว่า 2 วันที่ผ่านมาหรือกว่า 25,000 ตัวแล้วและยังมีเรือหางยาวจอดเข้าคิวรอยาวแมงกะพรุนอยู่อีกกว่า 30 ลำ คาดว่าน่าจะรับซื้อได้ทันทั้งหมดในเวลาประมาณ 21.00 น.ต่อจากนั้นตนจึงนำมาฟอกนาน 7 วันและส่งขายต่อไปยังโรงงานในพื้นที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร
แม่ค้ารับซื้อแมงกะพรุน กล่าวด้วยว่า สำหรับปีนี้พบแมงกะพรุนในท้องทะเล จ.ตรัง กระบี่ และภูเก็ต รวม 3 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน แต่พบแมงกะพรุนที่ จ.ตรังมากที่สุด จึงได้เดินทางมารับซื้อถึงที่ เนื่องจากต้องการสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน และตนก็มีแหล่งรับซื้อรายใหญ่อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว คาดกว่าแมงกะพรุนจะค่อยๆ หมดไปในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ และจะสามารถรับซื้อแมงกะพรุนได้มากกว่า 200,000 ตัว
ไทยรัฐออนไลน์
14 เมย 2554
