สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) เปิดตัวเครื่องวัดความอร่อยภายในกิจกรรมส่งเสริมความสำเร็จโครงการ Thai Delicious ภายใต้แนวคิด "อาหารไทยไม่ว่าครัวที่ไหน ก็ต้องมีรสชาติไทยเดียวกัน" ที่จัดขึ้นในคืนวันที่ 30 ก.ย.57 ณ โรงแรมโฟร์ซีซัน
สำหรับเครื่องวัดความอร่อยที่เปิดตัวในงานดังกล่าว ได้แก่ เครื่อง e-delicious และเครื่อง ESenS ซึ่งวัดค่าสัมผัสพื้นฐานที่มนุษย์สัมผัสได้จากลิ้นสัมผัส ได้แก่ ความเปรี้ยว ความหวาน ความเค็ม ความเผ็ด รวมถึงองค์ประกอบทางเคมีของกลิ่น
นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สนช.กล่าวถึงโครงการ Thai Delicious ว่าได้เริ่มขึ้นมา 2 ปี โดยมีเป้าหมายสร้างมาตรฐานอาหารไทยแต่ไม่ใช่มาตรฐานตายตัว เพียงแต่ต้องสร้างมาตรฐานระดับหนึ่งขึ้นมาเพื่อไม่ให้รสชาติอาหารผิดเพี้ยนจากต้นตำรับ
ภายใต้โครงการดังกล่าวมี 3 โครงการย่อยเริ่มจากโครงการพัฒนาสูตรและขยายสูตรโดยรับความร่วมมือจาก นายชุมพล แจ้งไพร หรือเชฟชุมพลกระทะเหล็ก ผู้เชี่ยวชาญอาหารไทย และผู้ทรงคุณทางด้านอาหารจากสถาบันการศึกษาต่างๆ โครงการพัฒนาเครื่องวัดความอร่อย และโครงการบริหารจัดการคุณภาพและความปลอดภัยของวัตถุดิบอาหารไทย ซึ่งนายศุภชัยกล่าวว่าเบื้องต้นเริ่มที่กะเพราและพริกก่อน
นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานบริษัท ชคลอลิเท็ค แล็บบอราทอรี่ เซอร์วิส จำกัด ผู้พัฒนาเครื่อง ESenS อธิบายถึงการทำงานของเครื่องว่ามีเซนเซอร์ตรวจวัดที่แปรสัญญาณตรวจวัดเป็นสัญญาณไฟฟ้า และนำไปวิเคราะห์เปรียบเทียบกับฐานข้อมูล สามารถตรวจวัดรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดและรสอูมามิ และบอกข้อมูลเป็นเปอร์เซนต์เทียบค่ามาตรฐาน ซึ่งอาหารที่อร่อยไม่ควรมีค่ารสชาติต่างๆ เกินหรือต่ำกว่ามาตรฐาน 15%
ในส่วนของเครื่อง e-delicious ดร.กฤษณ์ จงสฤษดิ์ กรรมการบริหาร บริษัท โมบิลิส ออโต้มาต้า จำกัด ผู้พัฒนา อธิบายว่า เครื่องดังกล่าวสามารถวัดกลิ่นและรสชาติได้พร้อมกัน โดยการวัดกลิ่นอาศัยการทำงานของจมูกอิเล็กทรอนิกส์ที่มีเซนเซอร์วัดก๊าซชนิดต่างๆ 16 ชนิด และมีเครื่องควบคุมอุณหภูมิที่ 50 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ของอาหารที่เสิร์ฟ และเซนเซอร์วัดรสชาติอาศัยการทำงานของลิ้นอิเล็กทรอนิกส์ที่วัดความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน และรสอูมามิ ของอาหารตัวอย่างและเทียบโครงสร้างรสชาติกับรสชาติมาตรฐานในโครงการ Thai Delicious และบอกค่าวัดเป็นหน่วยของรสชาติต่างๆ
ทั้งนี้ การพัฒนาเครื่องวัดความอร่อย e-delicious ดังกล่าว ดร.กฤษณ์ระบุว่า เป็นผลงานต่อยอดจากงานวิจัยเรื่องจมูกอิเล็กทรอนิกส์ของมหาวิทยาลัยมหิดล และงานวิจัยลิ้นอิเล็กทรอนิกส์โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทยังได้พัฒนาเครื่องวัดความเผ็ดซึ่งนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และร้านอาหารที่มีสาขาเยอะๆ
สำหรับสูตรมาตรฐานอาหารไทยในโครงการ Thai Delicious นั้นได้พัฒนาให้อยู่ในรูปซอสปรุงสำเร็จ 11 ตำรับ ได้แก่ ต้มยำกุ้งน้ำใส ต้มยำกุ้งน้ำข้น ผัดไทย แกงมัสมั่น แกงเขียวหวาน ข้าวซอย ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น่ำพริกอ่อง แกงเหลือง และไก่กอและ
ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
www.nia.or.th/thaidelicious ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2557
