My Community

หมวดหมู่ทั่วไป => ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: story ที่ 06 กันยายน 2010, 18:00:39

หัวข้อ: วิปรัฐบาลคว่ำ(ร่างพรบ.คุ้มครองฯขอโทษไม่ใช่ฉบับนี้)กฎหมายสตง.ระบุให้อำนาจมากไป
เริ่มหัวข้อโดย: story ที่ 06 กันยายน 2010, 18:00:39
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 6 กันยายน 2553

วิปรัฐบาลแถลงคว่ำร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ้นดิน ระบุให้อำนาจสตง.มากเกินไป เชื่อไม่เป็นอุปสรรคสรรหาผู้ว่าสตง.คนใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) มีมติไม่นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ...(พ.ร.บ.สตง.) เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม กรรมการ กล่าวว่า ตามที่วุฒิสภา มีมติให้ร่างฯดังกล่าวตกไปในชั้นวุฒิสภา เพราะเสียงลงมติให้ความเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 75เสียงขึ้นไป แต่วุฒิสภา กลับลงมติแค่ 70 เสียงเท่านั้น ซึ่งวิปรัฐบาลมีมติว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)เสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เข้ามาใหม่

"ร่างฯที่มีอยู่เป็นการให้อำนาจแก่ สตง.มาก เกินไป เพราะสามารถไต่สวน สรุปสำนวนเอง และหากสำนักงานอัยการสูงสุดไม่เห็นชอบก็มีอำนาจฟ้องศาลได้โดยตรงและยังให้ อำนาจในการลงโทษแก่ข้าราชการมากเกินไป"

ตามร่างดังกล่าวหากสตง.ตรวจ สอบแล้วหากพบว่า ข้าราชการมีความผิด ผู้บังคับบัญชาของข้าราชการไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบข้าราชการในสังกัดว่าทำผิด จริงหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่าการคว่ำร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะไม่กระทบต่อการสรรหาผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาได้วินิจฉัยไว้แล้ว ว่าสามารถดำเนินการสรรหาผู้ว่าฯ สตง.ได้เลย โดยไม่ต้องรอ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่คว่ำ ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะกลัวอำนาจในการตรวจสอบนักการเมืองใช่หรือไม่ นพ.วรงค์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ สาเหตุที่คว่ำร่างฯเพราะการออกกฎหมายดังกล่าวมันขัดกันเองกับสาระสำคัญ สตง. ซึ่งมีอำนาจเพียงแค่ตรวจสอบเรื่องเงิน เรื่องการคลัง แต่ไม่มีอำนาจในการมาลงโทษทางวินัย และทางอาญา จึงเป็นการทำงานที่เกินขอบเขต และหากผ่านร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ออกไป อาจทำให้หมิ่นเหม่และนำไปสู่การร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกด้วย ทำให้เสียเวลา