รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอครม.3มาตรการใหม่ ลดอุบัติเหตุทางถนน
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการป้องกันปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ตำรวจ คมนาคม สาธารณสุข ปภ. สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือสสส. เพื่อประเมินผลการลดอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยเมื่อเทียบเทศกาลสงกรานต์ในปี 2554 พบว่าปีนี้ทั้งจำนวนการเกิดอุบัติเหตุและจำนวนผู้บาดเจ็บลดลง แต่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 18
เนื่องจากอุบัติเหตุมีความรุนแรงมากขึ้น สาเหตุอันดับหนึ่งเกิดมาจากปัญหาเมาแล้วขับ ร้อยละ 39 รองลงมาได้แก่ขับรถเร็วร้อยละ 22 ปัญหาง่วงหลับใน มีวัตถุอันตรายอยู่ข้างทางถนน และการไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกันหรือลดความรุนแรงการบาดเจ็บ คือหมวกนิรภัย เข็มขัดนิรภัย จะต้องเพิ่มการความเข้มงวดมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดปี เพื่อให้ไทยก้าวสู่เป้าหมายลดการเจ็บตายให้เหลือครึ่งหนึ่งตามเป้าหมายองค์การสหประชาชาติในพ.ศ. 2563 และตามนโยบายของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายวิทยา กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีข้อเสนอในการควบคุมป้องกันปัญหาอุบัติเหตุจราจร 2 ประการ ประการแรกคือเน้นหนักแก้ไขปัจจัยเสี่ยงหลัก 4 เรื่องที่มีอยู่เดิมแล้วอย่างเข้มงวด ได้แก่ 1. การรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย ตั้งเป้าให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อปี ซึ่งข้อมูลล่าสุดพบประชาชนใช้น้อยมากเพียงร้อยละ 46 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไม่สวมมากกว่าร้อยละ 80 2.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ปลอดเหล้า ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 3.การคาดเข็มขัดนิรภัย 4.ไม่ขับรถเร็ว และประการที่สอง คือการเพิ่มมาตรการใหม่ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
นายวิทยา กล่าวต่อว่า มาตรการใหม่ที่จะเสนอเพิ่มเติมนั้น ที่ประชุมได้เสนอ 3 เรื่อง ได้แก่
1.เพิ่มกฎหมายใหม่ โดยบังคับให้รถตู้สาธารณะ รถทัวร์ ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ก่อนต่อทะเบียน โดยให้กรมการขนส่งทางบกเร่งดำเนินการออกเป็นกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ.2552
2.เสนอให้ท้องถิ่นนำเงินค่าปรับผู้กระทำผิดกฎจราจรมาใช้จัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วรถให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมายังมีไม่เพียงพอ และ
3.ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ห้ามขาย ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดบนทางสาธารณะ ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด
รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขจะออกกฎกระทรวงเพิ่มห้ามดื่มบนยานพาหนะ เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีและที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ประกาศใช้ต่อไป
ทั้งนี้ ในการกระตุ้นให้ประชาชนใช้เข็มขัดนิรภัยและหมวกนิรภัย จะเสนอให้ทุกส่วนราชการปฏิบัติเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข จะให้เป็นหน่วยงานนำร่อง บังคับใช้ในผู้ขับขี่รถเข้าออกกระทรวงฯ และหน่วยงานในสังกัดที่อยู่ในภูมิภาคทุกแห่ง โดยจะเริ่มรณรงค์ในเดือนพฤษภาคมนี้ นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้สสส.จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากประชาชน ผู้ใช้รถทุกประเภท เพื่อหาแนวทางแก้ไข รวมทั้งให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยทางถนน ให้มีการแจ้งจุดเสี่ยง จุดอันตราย ทั้งนี้เพื่อให้การป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรได้ตรงจุดที่สุด นายวิทยากล่าว
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 29 เมษายน 2555