ผู้เขียน หัวข้อ: ภาค ปชช.แนะ สธ.ทบทวนดึงงบป้องกันโรค  (อ่าน 655 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ภาค ปชช.แนะ สธ.ทบทวนดึงงบป้องกันโรค
« เมื่อ: 26 ธันวาคม 2012, 22:10:22 »
 หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พุธที่ 26 ธันวาคม 2555 00:00:31 น.
นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงแรกๆ ของระบบ เคยกันงบไว้ที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้หน่วยบริการทำงานส่งเสริมป้องกันโรค แต่ความถนัดของกระทรวงสาธารณสุขคือการรักษา และการคัดกรองโรค ผนวกกับปัญหาเรื่องกำลังคนที่ไม่เพียงพอ หน่วยบริการจึงไม่ได้ทำงานส่งเสริมป้องกันโรคได้เท่าที่ควร คนที่เสียประโยชน์คือประชาชนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมป้องกันโรคอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาการจัดการงบส่งเสริมป้องกันโรคของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงจัดสรรเพื่อให้ครอบคลุมประชาชนทุกคน โดยแบ่งเป็นงบระดับประเทศไว้จัดซื้อวัคซีน และการป้องกันระดับประเทศ ส่วนหนึ่งไว้ที่หน่วยบริการสำหรับการส่งเสริมป้องกันโรคตามชุดสิทธิประโยชน์ และส่วนสำคัญคือ กันไว้ระดับเขตและระดับตำบล เพื่อให้ประชาชนและภาคส่วนต่างๆ ทำโครงการส่งเสริมป้องกันโรคด้วยตนเอง


 
"อยากให้ทบทวนแนวคิดที่จะดึงงบส่งเสริมป้องกันโรคกลับไปที่กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ว่าที่ผ่านมาเกิดปัญหาอะไรที่ทำไม่ได้ จึงต้องจัดสรรงบเพื่อให้เจ้าของปัญหา ให้ประชาชนเข้ามาร่วมคิดร่วมทำ ช่วยกันทำงาน แล้วจะพัฒนาแนวทางการส่งเสริมป้องกันโรคได้อย่างไร" นายนิมิตร์ กล่าว

ด้านนางเรณู ภู่อาวรณ์ ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพ ภาคประชาชน จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานคนสู้โรค โดยใช้งบส่งเสริมป้องกันโรคระดับเขต เป็นการเข่งขันกันระหว่างคนที่เป็นโรคเรื้อรังอย่างน้อย 2 โรคมาสมัคร ทุกอำเภอมีผู้สมัคร รวมทั้งสิ้น 90 คน โดยตัดสินจากผลตรวจประจำตัว จากโรงพยาบาลว่าน้ำตาลในเลือด ความดัน และไขมันลดไหม เมื่อเริ่มโครงการให้ความรู้เรื่องโภชนาการกินที่เหมาะสม การกินที่ถูกต้อง แล้วให้แต่ละคนตั้งเป้าหมายของตัวเอง กลับไปกินผักที่ตัวเองปลูก ออกกำลังกายผ่านกิจวัตรประจำวัน แต่มีเป้าหมายมากขึ้น โดยมีโค้ชในระดับอำเภอคอยให้คำแนะนำ คอยให้กำลังใจ ทั้งหมดนี้ไม่ได้แข่งกันเพื่อของรางวัล แต่แข่งกันเพื่อสุขภาพตัวเอง ทั้งโค้ช ทั้งผู้เข้าแข่งขันต่างก็มีสุขภาพดีขึ้น หากได้รางวัลชนะก็เป็นความภูมิใจของอำเภอด้วย

"งานนี้ถือเป็นนวัตรกรรมและความร่วมมือการทำงานส่งเสริมป้องกันโรคที่เห็นได้ชัด มีประชาชนสนใจเป็นจำนวนมาก เมื่อภาคราชการเห็น มีโรงพยาบาลส่งเสริมป้องกันโรคเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหลายส่วนก็กล่าวว่า การทำงานแบบนี้ภาคราชการเองก็มีข้อจำกัดในเรื่องเวลา กฎระเบียบและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคที่ทำไม่ได้เอง แต่พร้อมจะให้ความ ร่วมมือ ทำงานด้วยกัน" นางเรณู กล่าว