สธ.เร่งเอกซเรย์ พื้นที่หลังน้ำลดป้องกันโรคระบาด คุมเข้มน้ำเน่าที่ท่วมขังและขยะ เล็งงัด กม.สิ่งแวดล้อมมาบังคับ ใช้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐ มนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณ สุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประ ชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่าตนได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเอกซเรย์พื้นที่น้ำลดทุกตำบลทุกจังหวัด เพื่อเฝ้าระวังโรคระบาด หลังน้ำลด หน่วยงานที่ต้องปฏิบัติ หน้าที่เฝ้าระวังได้แก่ กรมอนามัย, กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งมีอสม.ทุกหมู่บ้านดำ เนินการสำรวจข้อมูลในสถาน การณ์พื้นที่จริง รวมทั้งสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคระบาด เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชิงลึก และวางแผนความพร้อมป้อง กันควบคุมอย่างเข้มข้นไม่ให้เกิดโรคระบาด และหากจำเป็นให้นำกฎหมาย พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งอยู่ในความดูแลของ สธ. มาใช้เพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมภายหลังน้ำท่วม เพื่อให้การควบคุมโรคบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะปัญหาขยะและน้ำเน่าเสีย ซึ่งมีจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล
นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วมจะสร้างความเสียหายให้ กับหน่วยบริการสาธารณสุขเป็น จำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูจำนวน 660 ล้านบาท โดยเงินจำนวนดัง กล่าวจะขอจากงบประมาณกลาง ประมาณ 400 ล้านบาทเพื่อดูแล พื้นที่หลัก เช่นที่ รพ.พระนคร ศรีอยุธยา, รพ.พระนั่งเกล้า และจะของบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประมาณ 250 ล้านบาท เพื่อดูแลฟื้นฟู รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล, สถานีอนามัย
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.ได้จัดทำแผนพื้นฟูหลังน้ำลดทั้งหมดแล้ว วัตถุประสงค์หลักคือ ป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาดที่สำคัญ 10 โรค เช่น โรคอุจจาระร่วง, โรคฉี่หนู, โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคตาแดง เป็นต้น.
ไทยโพสต์ 17 พฤศจิกายน 2554