ผู้เขียน หัวข้อ: ช็อค!นักวิจัยชี้'ลิปสติก'ทำให้เกิดสารพัดโรค  (อ่าน 864 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
                           20 ส.ค.55 เว็บไซท์แท็บลอยด์ เดลี่เมล ของอังกฤษ รายงานว่า ผู้หญิงจำนวนมาก รู้สึกเหมือนตัวเองเปลือยเปล่าถ้าไม่ได้ทาลิปสติก แต่ผู้หญิงเหล่านี้อีกเช่นกัน ที่ไม่ทราบถึงความลับที่อันตรายของลิปสติกเหล่านี้

 
                           รายงานผลวิจัยที่น่าเป็นห่วงล่าสุด ระบุว่า ลิปสติกสีสดใสที่ติดปากได้นานแสนนาน มีส่วนผสมของสารเคมีนานาชนิด ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และยังเพิ่มความน่าวิตกขึ้นเรื่อยๆว่า อาจมีส่วนโยงใยกับปัญหากล้ามเนื้อ ,รบกวนการทำงานของฮอร์โมน และโลหะหนักที่ทำให้เกิดพิษต่อร่างกาย รวมถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ หรือแม้แต่โรคข้อต่ออักเสบด้วย
                           ในจำนวนส่วนผสมที่น่าเป็นห่วง ได้รวมถึงสารเคมีนานาชนิด เช่น พาราเบน หรือ สารกันบูดในเครื่องสำอาง ,เมธอะคริเลท ที่ใช้ในการทำพลาสติก ,สารตะกั่ว และแคดเมียม ซึ่งเป็นธาตุโลหะชนิดหนึ่ง และล่าสุดได้มีการพบสารไตรโคซาน ซึ่งผลวิจัยระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อและหัวใจ และยังก่อให้เกิดความวิตกว่าจะเป็นสาเหตุทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะ และกลายเป็นซูเปอร์บั๊ค หรือ แบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะทุกชนิด
                           การวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับไตรโคซาน พบว่าอาจมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อที่ได้รับคำสั่งจากสมอง รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจด้วย ศาสตราจารย์ ไอแซ็ค เพสซาห์ นักวิจัยด้านโมเลกุล ได้ค้นพบในห้องทดลองว่า สารไตรโคซานสามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจของหนู ภายในเวลา 20 นาที และมีหลักฐานที่ชัดเจนว่า อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ และยังลดความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออีกด้วย
                           จากรายงานในวารสาร ฮาซซาดุส แมททีเรียล เมื่อปี 2553 พบว่าสารเคมีในลิปสติกบางยี่ห้อมีส่วนผสมของโลหะหนัก เช่น แคดเมียมและโครเมียม ที่นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ , เกิดแผลพุพองที่ผิวหนัง และอาจทำลายไตในระยะยาว ผลการศึกษายังชี้ด้วยว่า กว่าสารเหล่านี้จะออกไปจากร่างกาย ต้องใช้เวลานานถึง 40 ปี
                           ส่วนผสมของ เมธอะคริเลท ในลิปสติก มีผลให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังเช่นกัน และยังสามารถพัฒนาไปเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรือ เอสแอลอี ซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีการตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมไวเกินกว่าปกติ เป็นผลให้เกิดการอักเสบขึ้นตามผิวหนังและอาจลามไปถึงอวัยวะภายใน รวมทั้งไตด้วย
                           มีผลการวิจัยจาก ทัฟส์ เมดิคัล เซ็นเตอร์ เมื่อปี 2541 ระบุว่า การทาลิปสติกติดต่อกัน 3 วันต่อสัปดาห์ อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เป็นโรคเอสแอลอี ผู้หญิงที่เริ่มทาปากตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 16 ปี จะมีความเสี่ยงในระดับที่สูงกว่าผู้หญิงที่ทาปากทุกวัน เพราะสารเคมีอาจถูกดูดซึมผ่านเนื้อเยื่อที่อ่อนไหว ที่เป็นส่วนประกอบชองแก้ม ด้านหลังริมฝีปาก ที่รู้จักกันในชื่อ เยื่อบุช่องปาก และถ้า
ร้ายกว่านั้น อาจถึงขั้นสมองและประสาทถูกทำลายได้ด้วยเช่นกัน
                           สำนักงานบริหารอาหารและยาของสหรัฐ หรือ เอฟดีเอ เปิดเผยว่า ลิปสติกส่วนใหญ่จากทั้งหมด 400 ชนิด ที่นำมาศึกษาพบว่าปนเปื้อนสารตะกั่ว และอาจอยู่ในระดับที่พบระหว่างปี 2552 ถึง 2554 ถึง 2 เท่า