เรื่อง คำสั่งของกระทรวงการคลัง 3 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยข้าราชการที่จำกัดให้ใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติและการให้ผู้ป่วยเรื้อรังเลือกโรงพยาบาล 1 โรค/1 โรง หรือหลายโรค/1 โรง รวมถึงห้ามใช้ยากลูโคซามีนซัลเฟตนั้น ได้มีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
1. การให้แพทย์เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ในการรักษาโรคให้ผู้ป่วยทุกคนที่เป็นข้าราชการต้องเริ่มใช้ยาในบัญชียาหลักแห่งชาติเท่านั้น ถ้าจะใช้ยานอกบัญชี ต้องมีเหตุผล a, b, c, d, e ถ้าไม่มีก็ใช้ข้อ f คือจ่ายเงินเอง จึงถูกผู้ป่วยบางรายที่ใช้ยารักษาโรคประจำตัวมานานแล้วและยาที่ใช้อยู่เป็นยานอกบัญชีจะต้องถูกเปลี่ยนยาเป็นยาในบัญชีที่ผู้ป่วยไม่คุ้นเคย ไม่รู้จัก มีการต่อต้าน ไม่พอใจ บางรายก็ยอมใช้ข้อ f คือจ่ายเงิน แต่ขอยาเดิม
ข้อเสนอแนะ 1: ยกเลิกระบบเบิกจ่ายตรง ใช้การสำรองจ่ายเงินออกใบเสร็จไปเบิกต้นสังกัดเหมือนเดิม เหตุผลคือ ปัญหาที่ค่าใช้จ่ายพุ่งอย่างรวดเร็วเกิดจากการใช้ระบบนี้ (ต้นตอของปัญหาที่แท้จริง)
ข้อดี: คนไข้จะขอรับยาจำกัดตามวงเงินที่มี ใช้ยาอย่างสมเหตุผลและเห็นคุณค่า ไม่ shopping around อีกต่อไป ค่าใช้จ่ายยาผู้ป่วยนอกจะลดลงมากอย่างชัดเจน
ข้อเสนอแนะ 2: ถ้าไม่กล้ายกเลิกระบบเบิกจ่ายตรง ก็ทำระบบ IT ให้ครบวงจร แพทย์ทุกโรงพยาบาลสามารถเห็นข้อมูลที่ผู้ป่วยไปรับยาย้อนหลังได้ทั้งหมด
ข้อดี: คนไข้จะไม่สามารถ shopping around ได้อีกต่อไป และผู้สแกนนิ้วสำรองจะไม่มาเบิกยาซ้ำกับผู้ป่วยตัวจริงได้ ลดปัญหาทุจริตของคนไข้หรือตัวสำรองคนไข้ได้อย่างสมบูรณ์
ข้อเสนอแนะ 3: ประกาศให้ทราบไปทุกกระทรวงว่ารัฐบาลยังให้สิทธฺรักษาของข้าราชการเต็มที่ แต่ถ้าใครจงใจทุจริต จะถูกตัดสิทธิการรักษาข้าราชการตลอดชีวิต
ข้อดี: เป็นการป้องปรามที่ทำครั้งเดียวจบ ไม่เปิดโอกาสให้ทุจริตซ้ำในคนเดิม
ข้อเสนอแนะ 4: ขอให้มีการจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกระทรวงการคลัง ข้าราชการจากทุกกระทรวง แพทย์จากทุกกระทรวงที่มีโรงพยาบาล ให้หาวิธีการที่นิ่มนวล ไม่ทำร้ายความรู้สึกของคนไข้และแพทย์ และกระทรวงการคลังเข้าใจประเด็นปัญหาทั้งในแง่คนไข้และแง่ของแพทย์
ข้อดี: จะได้ความร่วมมืออย่างราบรื่นและยั่งยืน
ข้อเสนอแนะ 5: ให้บัตรทองครอบคลุมข้าราชการทุกคนในสิทธิพื้นฐาน และต่อยอดด้วยค่ารักษาของสิทธิข้าราชการ แต่จำกัดเพดานต่อหัวต่อปี ถ้าเกินในปีนั้นต้องจ่ายเงินเอง
ข้อดี: สามารถควบคุมยอดรวมต่อปีได้อย่างแน่นอน กระทรวงการคลังและรัฐบาลจะได้ยอดค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนแน่นอน และรู้เพดานขั้นสูง ประหยัดงบได้อย่างแน่นอน
ข้อเสนอแนะ 6: กระทรวงการคลังเหมาจ่ายให้ข้าราชการทุกคนเป็นรายเดือน (1,000 บาทต่อคน) หรือรายปี (12,000 บาทต่อคน) ในอัตราที่จ่ายปัจจุบัน ไม่เพิ่มไปกว่านี้ ให้ตัวข้าราชการรับผิดชอบค่ารักษาเอง เป็นเงินสด จ่ายส่วนเกินเองตามอัธยาศัย
ข้อดี: จำกัดค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนทุกปี
ข้อเสนอแนะ 7: ข้าราชการใช้ระบบรักษาของประกันสังคม มี 3 ฝ่ายร่วมจ่าย ส่วนเกินจ่ายเอง
ข้อดี: จำกัดค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนทุกปี
2. ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่จำกัดให้ 1 โรค/1 โรง หรือหลายโรค/1 โรงนั้นมีข้อเสนอแนะดังนี้
ข้อเสนอแนะ: ให้ใช้สิทธิเหมือนเดิมตามความสะดวกของคนไข้ แต่ต้องแก้ไขวิธีของข้อ 1 ให้เรียบร้อยก่อน เพราะคนไข้เป็นคน ย่อมต้องเดินทางไปพื้นที่อื่น อาจโดยลักษณะงาน ฯลฯ ไม่ควรถูกจำกัดเช่นนี้ และไม่ต้องให้คนไข้มากระจุกตัวอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ที่เดียวในแต่ละจังหวัด เพราะข้าราชการส่วนใหญ่มีรถส่วนตัว เดินทางสะดวก จึงน่าจะเลือกสิทธิที่โรงพยาบาลจังหวัดของตนเองมากกว่าโรงพยาบาลอำเภอ เป้นการสวนกระแสนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เกิดปัญหาทั่วประเทศในการดูแลรักษาแน่นอน จึงไม่ควรมีข้อนี้อย่างยิ่ง
3. กรณียากลูโคซามีนซัลเฟต
ข้อเสนอแนะ: ให้ผู้ป่วยที่ใช้ยานี้ได้ผลได้มีโอกาสเลือกใช้ยานี้เหมือนเดิม และถ้าไม่ได้ผลก็คงไม่เลือกใช้อยู่แล้ว ไม่ควรห้ามไปหมดทุกคน
.........................................................................