ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.แนะเลี่ยงแต่งงานในหมู่ญาติ ป้องกันลูกปากแหว่งเพดานโหว่  (อ่าน 1128 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9782
    • ดูรายละเอียด
กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนเลี่ยงการแต่งงานในหมู่ญาติ หลังพบเด็กเกิดใหม่พิการปากแหว่งเพดานโหว่ปีละ 1,000 คน เผยสถิติพบได้ 1 ใน 600 ส่วนเพดานโหว่ พบได้ 1 ใน 2,500 ของเด็กแรกเกิด แนะกินผักผลไม้ที่มีโฟเลทสูง...

นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดโครงการผ่าตัดแก้ไขความพิการในเด็กที่มีปัญหาปากแหว่ง เพดานโหว่ และพิการอื่นๆ ที่ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จ.นครนายก ว่า โรคปากแหว่ง (Cleft lip) เพดานโหว่ ( Cleft palate) เป็นความพิการของใบหน้าที่พบมากที่สุดปีละประมาณ 1,000 คน ส่วนใหญ่พบในครอบครัวที่มีฐานะยากจน จากการศึกษาในไทย พบเด็กปากแหว่ง ได้ 1 ใน 600 ของเด็กแรกเกิด ส่วนเพดานโหว่ พบได้ 1 ใน 2,500 ของเด็กแรกเกิด พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุการเกิดเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่นขาดสารอาหาร การสูบบุหรี่ เป็นต้น โดยมีโอกาสเกิดปัญหาซ้ำในครรภ์ถัดไปได้ร้อยละ 3-5

รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า เด็กที่ปากแหว่งเพดานโหว่ จะมีปัญหาหลายอย่าง ได้แก่ การดูดและกลืนนมและอาหารลำบาก จะมีปัญหาปอดติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากการสำลักอาหารเข้าทางเดินหายใจ การรักษาให้ได้ผลดี ต้องผ่าตัดเย็บปิดรอยแหว่งและช่องโหว่ตั้งแต่ยังเล็ก เด็กปากแหว่งควรได้รับผ่าตัดเมื่ออายุ 3-6 เดือน ส่วนเด็กเพดานโหว่ควรผ่าตัดเมื่ออายุ 9 เดือน - 1 ขวบครึ่ง หากได้รับการผ่าตัดช้า จะทำให้การฝึกพูดให้ชัดเจนเหมือนคนปกติ เป็นไปได้ยาก ซึ่งในปี 2555นี้ ได้จัดงบประมาณในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจำนวน 16 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยการผ่าตัด การใส่เพดานเทียม การดูแลจัดฟัน การฟื้นฟูแก้ไขการพูด การได้ยิน จะทำให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตอย่างเป็นปกติ แทบไม่เหลือความพิการให้เห็นเลย ตั้งแต่ปี 2550 -2554 ได้ผ่าตัดรักษาผู้ป่วยประเภทนี้แล้ว 6,901 รายอย่างไรก็ดี

"โรคนี้สามารถป้องกันได้ โดยก่อนตั้งครรภ์ให้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงคือผู้ที่มีประวัติครอบครัว มีพ่อหรือแม่ พี่ น้อง หรือญาติฝ่ายพ่อ ฝ่ายแม่ที่มีปากแหว่งเพดานโหว่ และควรหลีกเลี่ยงการแต่งงานในเครือญาติ" นพ.สุรวิทย์

รมช.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า มีผลการศึกษาวิจัยในหลายประเทศพบว่า กรดโฟลิคหรือโฟเลท ซึ่งเป็นวิตามินชนิดหนึ่ง มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคนี้ หากระดับโฟเลทต่ำ จะเสี่ยงต่อการเกิดความพิการแต่กำเนิด เช่น ภาวะหลอดประสาทพิการและปากแหว่งเพดานโหว่ ดังนั้นในการป้องกันเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ ได้แนะนำให้หญิงวัยเจริญพันธุ์กินกรดโฟลิคเพิ่ม เริ่มตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 เดือน และช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และมีนโยบายสนับสนุนให้คนไทยกินผักผลไม้ให้ได้ครึ่งหนึ่งของอาหารแต่ละมื้อ เนื่องจากกรดโฟลิคจะมีมากในผัก-ผลไม้สด เช่น มะเขือเทศ ผักตระกูลกะหล่ำ แตงกวา แครอท ถั่วฝักยาว ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ส้ม องุ่น

สำหรับโครงการผ่าตัดแก้ไขความพิการในเด็กที่มีปัญหาปากแหว่ง เพดานโหว่ และพิการอื่นๆ เป็นโครงการบริการฟรีของอาสาสมัครแพทย์ พยาบาลไทยและนานาชาติกว่า 60 คน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดศัลยกรรมจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในต่างประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา ในพ.ศ. 2554 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในพ.ศ. 2555 มีเป้าหมายผ่าตัด 200 ราย ดำเนินการที่ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จ.นครนายก และที่โรงพยาบาลชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 6-12 กุมภาพันธ์ 2555 นี้

ไทยรัฐออนไลน์ 8 มีค 2555