วิทยา" เล็งปรับ "30 บาทรักษาทุกโรค" ให้ทันสมัยขึ้น เน้นยาดี ไม่ต้องรอนาน ครอบคลุมโรคเรื้อรัง ตั้งเป้าปีแรก 12 ล้านครัวเรือน คาดครบ 100% ภายในปี 2557 ...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.พ. ที่หอประชุมสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ระบบหลักประกันสุขภาพ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” ในเวทีประชุมของเครือข่าย ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน 8 จังหวัดภาคกลางกว่า 400 คน โดยมี นพ.วีระพล ธีระพันธ์เจริญ ผอ.โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ในปี 2555 รัฐบาลมีเป้าหมายพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคยุคใหม่ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่มีการล้มโครงการอย่างแน่นอน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ใน 2 มาตรา คือมาตรา 51 ว่าด้วยสิทธิการรับบริการสาธารณสุข ที่เหมาะสม มีมาตรฐาน ผู้ยากไร้รักษาไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งการป้องกันโรค ขจัดโรคติดต่ออันตราย และมาตรา 80 (2) ว่าด้วยการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน นำไปสู่การมีสุขภาพดีของประชาชน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคโฉมใหม่ ปี 2555 นี้ จะเน้น 4 เรื่องใหญ่ ได้แก่
1.มีหมอใกล้บ้านใกล้ใจ
2.มียาดีใช้เพียงพอ
3.ไม่ต้องรอรักษานาน
4.จัดการโรคเรื้อรัง
ซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนอยากได้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตามเป้าการพัฒนาครั้งนี้ ประชาชนมีหมอประจำครอบครัว ดูแลสุขภาพถึงบ้าน ปีแรกจะดำเนินการได้ร้อยละ 60 หรือประมาณ 12 ล้านครัวเรือน จากที่มีทั้งหมด 20.3 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ และจะเพิ่มปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ จนครบ 100% ภายในปี 2557 ประชาชนจะได้รับยาดีมีราคาสูงทุกสิทธิไม่แตกต่างกัน และเพิ่มทางเลือกในการรักษาแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกมากขึ้น โดยมีการรณรงค์ การใช้ยา ซึ่งที่ผ่านมาเชื่อว่ายาดีคือราคาแพง ส่วนยาของบัตรทองคือยาราคาถูกไม่มีคุณภาพเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ สัดส่วนการใช้ยาของคนไทยมากกว่าร้อยละ 40 ของค่าใช้จ่ายสุขภาพ ซึ่งสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ
สำหรับการพัฒนาการให้บริการนั้น จะให้รวดเร็วขึ้น ผู้ป่วยนอกร้อยละ 80 จะได้รับบริการภายในเวลา 2 ชม. 50 นาที กรณีป่วยฉุกเฉินบริการในนโยบาย 3 เร็ว 2 ดี จัดช่องทางพิเศษให้ผู้สูงอายุ พระภิกษุ ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ต้อกระจก รอคิวรักษาไม่เกิน 3 เดือน โดยกระทรวงสาธารณสุขนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเชื่อมโยงข้อมูลบริการ ส่วนการจัดการโรคเรื้อรังร้อยละ 80 ของประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการคัดกรองค้นหาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง อีกทั้งเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พอการได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงและการสร้างเสริมสุขภาพเพิ่มขึ้นตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด.
ไทยรัฐออนไลน์ 14 กพ 2555
