ผู้เขียน หัวข้อ: วัยรุ่นไทย 1 ใน 3 รับเคย “สวิงกิ้ง” สธ.เร่งรณรงค์ สวมถุงยาง  (อ่าน 1038 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9785
    • ดูรายละเอียด
พบเยาวชนไทย 1 ใน 3 รับเคยสวิงกิ้ง ด้าน สธ.เร่งรณรงค์ใช้ “ถุงยางอนามัย” ทุ่มงบ 67 ล้านบาท ซื้อแจก หวั่นยอดผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ เอดส์ พุ่ง เตรียมจุดพลุวันวาเลนไทน์จัดกิจกรรม “รักปลอดภัย ถุงยางอนามัย...เอาอยู่”
       
       วันนี้ (9 ก.พ.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการเป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ เนื่องในวันวาเลนไทน์ประจำปี 2555 ว่า ปัญหาที่ สธ.ให้ความสำคัญขณะนี้มี 2 เรื่องใหญ่ คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมทั้งเอดส์ และปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เยาวชนควรเก็บเรื่องเพศสัมพันธ์ไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม และหากมีเพศสัมพันธ์จะต้องมีการป้องกัน โดยใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดเดียวเท่านั้นที่ป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ทุกชนิดและการตั้งครรภ์ที่ได้ผลดีที่สุด ทั้งนี้ เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจพฤติกรรมการใช้และการเข้าถึงถุงยางอนามัยของเยาวชน อายุ 12-24 ปี ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,014 คน พบว่า เยาวชนไทยร้อยละ 69 ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ส่วนในกลุ่มที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ระบุว่า เริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 14-15 ปี ในจำนวนนี้ใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 52 ข้อมูลที่สำคัญพบว่า มีเยาวชนประมาณ 1 ใน 3 ยอมรับว่า เคย “สวิงกิ้ง” หรือเปลี่ยนคู่นอน ขณะที่ในเรื่องของทัศนคติของเยาวชนที่มีต่อถุงยางอนามัย พบเพียงร้อยละ 43 เห็นว่า ถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ โดยเยาวชน ร้อยละ 89 ไม่พกถุงยางอนามัย
       
       ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบัน พบว่า อัตราการติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน อายุ 15-19 ปีเพิ่มจากร้อยละ17.33 ในปี2548 เป็นร้อยละ 19.31 ในปี 2553 และมีการใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 53.2 นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจคือจำนวนผู้ป่วยหนองในมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2543 มีอัตราผู้ป่วยโรคนี้จาก 22.3 รายต่อแสนประชากร แต่เมื่อปี 2553 พบว่า มีอัตราผู้ป่วยหนองในเพิ่มเป็น 42.2 รายต่อแสนประชากร ซึ่งเป็นข้อบ่งถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
       
       ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า กลุ่มเยาวชนมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย หากไม่เร่งป้องกัน จะทำให้ประเทศไทยเผชิญกับการระบาดของเอดส์ระลอกใหม่ ทั้งนี้ ตั้งแต่เชื้อเอชไอวีเข้ามาในประเทศมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีสะสมขณะนี้รวมประมาณ 1.1ล้านคน ในจำนวนนี้มีประมาณ 6 แสนคน ที่ยังมีชีวิตอยู่
       
       ด้านนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปีนี้จะมีการจัดงานรณรงค์พร้อมกันทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “รักปลอดภัย ถุงยางอนามัย...เอาอยู่” สำหรับ กทม.จัดงานรณรงค์ในวันที่ 14 ก.พ.2555 เวลา 11.00-18.00 น.ที่ลานกิจกรรม เอ็มบีเค อเวนิวชั้น 1 ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เพื่อสร้างกระแสให้สังคมตื่น การสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกต่อการซื้อ การพก และการใช้ถุงยางอนามัย รวมถึงการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเอดส์ที่ถูกต้องและเหมาะสมในวันวาเลนไทน์นี้ นอกจากนี้ทางกรมควบคุมโรคยังได้งบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข และกองทุนโลก 67 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อถุงยางอนามัยได้ประมาณ 60 ล้านชิ้น แจกจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้มีการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย

ASTVผู้จัดการออนไลน์    9 กุมภาพันธ์ 2555