นึกถึง "เห็ด" ก็เห็นภาพอาหารสุขภาพทันตา มันมีโปรตีนสูง และสารอาหารต้านอนุมูลอิสระนานา เลยขึ้นทำเนียบชั้น "ยาอายุวัฒนะ" ทันที
นึกถึง "เห็ด" ก็เห็นภาพอาหารสุขภาพทันตา มันมีโปรตีนสูง และสารอาหารต้านอนุมูลอิสระนานา เลยขึ้นทำเนียบชั้น "ยาอายุวัฒนะ" ทันที
"เห็ด" ถูกโหวตให้เป็น "แชมป์" ตัวเลือกประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะมันเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากธรรมชาติ ซึ่งจัดเป็นอาหารประเภทผักที่ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี
ยิ่งกว่านั้น มันยังมีกรดอะมิโนกลูตามิกเป็นองค์ประกอบ โดยกรดอะมิโนตัวนี้ จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นประสาทการรับรู้รสอาหารของลิ้นให้ไวกว่าปกติ และทำให้มีรสชาติคล้ายกับเนื้อสัตว์ แต่พวกเราอาจยังไม่รู้ว่า "เห็ด" ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและนิยมบริโภคกันมายาวนานนับพันปี และมีจำนวนมากกว่า 140,000 สายพันธุ์นั้น มีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่สามารถรับประทานได้และให้สารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเต็มที่ รวมถึงมีผลในการป้องกัน และรักษาโรคตามตำราการแพทย์โบราณ
ต่อมาจึงมีผู้คิดค้นและค้นคว้าเห็ดที่มีคุณสมบัติดังกล่าว มาใช้ในทางการแพทย์ (Medicinal Mushrooms) ที่ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและปลอดภัย เช่น เบต้ากลูแคน โพลีแซคคาไรด์ ไกลโคโปรตีน เลคติน และเทอร์ปีนอยด์
และสารเหล่านี้เอง ก็มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในการเป็น สารต้านจุลชีพ สารต้านเชื้อรา ปรับสมดุลความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด และที่สำคัญคือ การยกระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ทั้งนี้ วารสารเห็ดทางการแพทย์นานาชาติ (International Journal of Medicinal Mushrooms) เผยว่าเห็ดเหล่านี้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว เพื่อปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับการต่อต้านเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง จึงเปรียบเทียบได้กับการ "ยกระดับภูมิคุ้มกัน" ให้กับร่างกาย
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เหมือนกับเป็นการเสริมสร้างเกราะป้องกันร่างกายที่แข็งแรงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเช่น โรคติดเชื้อ โรคภูมิแพ้ และโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ จึงถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและร่างกายแข็งแรงตลอดจนมีสุขภาพที่ดีอย่างยืนยาว
อดใจไม่ไหวแล้ว อยากรู้ว่าเจ้าเห็ดแบบไหนเล่า ถูกขนานนามว่าเป็น "เห็ดคุณหมอ"
ต่อไปนี้เป็นแค่ตัวอย่างของเห็ดทางการแพทย์ที่เราๆ ท่านๆ อาจคุ้นหูคุ้นตาหรือไม่รู้จักเลย
อันดับหนึ่งต้องหลีกทางให้ราชาแห่งเห็ด (King of Mushroom) อย่าง เห็ดไมตาเกะเห็ดสมุนไพรขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูง นักวิชาการทางการแพทย์ได้ศึกษาถึงประโยชน์ของเห็ดไมตาเกะว่า มันสามารถป้องกันและการรักษาโรคไลฟ์สไตล์ผิดๆ อาทิ มะเร็ง ความดันโลหิตสูง โรคเอดส์ เบาหวาน โรคอ้วน และระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้
และ เห็ดที่มีสรรพคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะช่วยรักษามะเร็ง รวมไปโรคกระเพาะและระบบลำไส้ มันคือเห็ดยมาชิตาเกะ' บูชิตาเกะเห็ดหาได้ยากชนิดหนึ่งที่มีเฉพาะบางท้องถิ่นของญี่ปุ่น จนต้องขนานนามว่า "เห็ดหุบเขาล้นลับ"
ส่วนพระเอกของเห็ดทางการแพทย์ ต้องยกให้เห็ดหลินจือ ซึ่งพวกเราต่างก็รู้ว่ามันสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก และกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ ส่วนสารโพลีแซคคาไรด์ในเห็ดหลินจือ ยังเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ มีความสามารถในการขจัดอนุมูลอิสระ และมีประสิทธิภาพในการปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด อีกด้วย หรือจะลองเห็ดชิตาเกะ ซึ่งอุดมด้วยสารอาหารคือ ธาตุเหล็ก เกลือแร่ เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โปตัสเซียม ซีลีเนียม วิตามินบี 2,5,6 ไนอะซิน และมีแคลอรีต่ำมาก (น้อยกว่า 50 แคลอรีต่อ 100 กรัม) ไม่เพียงแค่เห็ดไฮไลต์ที่นำเสนอไปแล้วเท่านั้น แต่ยังมีเห็ดน้องใหม่ ชื่อแปลกตา ซึ่งนักวิจัยทางการแพทย์กำลังขมีขมันค้นคว้าตัวยาอยู่ อย่างเห็ดแครง ปัจจุบันมีการสกัดเอาสารสำคัญในกลุ่ม เบต้ากลูแคนเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์แล้ว
หรือถั่งเฉ้า จัดเป็นเห็ดทางการแพทย์อีกชนิดหนึ่งที่หาได้ยากยิ่ง เนื่องจากสรรพคุณทางการแพทย์ที่ได้ถูกบรรจุอยู่ในตำราการแพทย์แผนจีนมาตั้งแต่ราชวงศ์จีนสมัยโบราณ ปัจจุบันราคาของมันก็ยังสูงอยู่ถึงหลักแสนบาทต่อกิโล นอกจากนั้น ยังมีเห็ดหางไก่งวง ซึ่งมีประวัติการใช้เป็นเห็ดทางการแพทย์มานานนับพันปีแล้ว หรือเห็ดฮิเมะมัตสึทาเกะที่พบในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นด้วย
กรุงเทพธุรกิจ 16 กันยายน 2554