ผู้เขียน หัวข้อ: แพทย์แผนไทยชี้นวดกษัยแก้เซ็กซ์เสื่อมไม่ได้ แต่ช่วยรักษาต่อมลูกหมากโต  (อ่าน 1741 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
       กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ย้ำ การนวดกษัยไม่ได้ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศและรักษาโรคเซ็กซ์เสื่อม แต่ช่วยรักษาต่อมลูกหมากโต ชี้นวดที่ “ก้นกบ” ไม่ได้นวดที่ “อวัยวะเพศชาย” โดยตรง เผยปี 2556 เตรียมศึกษาเคลียร์ผลลัพธ์นวดไทยแก้เซ็กซ์เสื่อมจริงหรือไม่ พร้อมโชว์เคสในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ที่อิมแพ็ค 5-9 ก.ย.นี้
       
       วันนี้ (22 ส.ค.) ที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์ฯ กล่าวภายหลังแถลงข่าว “งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 9” ภายใต้แนวคิด “นวดไทย มรดกไทย สู่มรดกโลก” ว่า การนวดไทยจัดเป็น 1 ใน 4 สาขาวิชาชีพที่ทางกรมฯ มีการรับรอง ประกอบด้วย สาขาเวชกรรม สาขาเภสัชกรรม สาขาผดุงครรภ์ และสาขาการนวดไทย โดยปัจจุบันมีหมอนวดที่ได้รับใบประกอบโรคศิลปะรวมแล้วเกือบ 2,000 ราย ซึ่งในเรื่องการนวดนั้น มีทั้งนวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อการรักษา โดยหมอนวดที่ผ่านการรับรองของกรมฯ จะต้องได้รับการอบรมไม่ต่ำกว่า 300 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ช่วยหมอนวดต้องผ่านการอบรมไม่เกิน 60 ชั่วโมง ซึ่งหากต้องการรักษาด้วยการนวด สิ่งสำคัญต้องพิจารณาก่อนว่า หมอนวดดังกล่าวมีใบประกอบโรคศิลปะสาขาการนวดไทยหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันมีการนวดหลายประเภท


ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต

       นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า การนวดกษัย หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าสามารถช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ หรือแก้โรคเซ็กซ์เสื่อมได้ แต่จริงๆ แล้วการนวดกษัย เป็นการนวดรักษาต่อมลูกหมากโต แก้ปัญหาไต แต่ไม่ใช่นวดที่อวัยวะเพศชายโดยตรง ซึ่งปัญหาเซ็กซ์เสื่อมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เกิดจากหลายปัจจัย การนวดอาจช่วยในแง่การไหลเวียนโลหิตมากกว่า ซึ่งในระดับภูมิปัญญาชาวบ้านมีการนวดลักษณะนี้เช่นกัน แต่ไม่มีงานวิจัยรองรับ และไม่ใช่นวดเพื่อแก้เซ็กซ์เสื่อมโดยเฉพาะ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจน ตนจึงได้มอบหมายให้กลุ่มงานการนวดไทย สถาบันการแพทย์แผนไทย ไปจัดทำโครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการนวดไทยสู่ปัญหาสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากปัจจุบันไม่ได้มีหมอนวดเฉพาะ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เปิดกว้างอย่างแพร่หลาย เป็นการบอกปากต่อปาก ประสิทธิภาพเป็นอย่างไรจึงไม่มีใครทราบ จึงให้ทางกลุ่มงานการนวดไทยไปศึกษาว่าจะดำเนินการได้หรือไม่อย่างไร คาดว่า จะมีความคืบหน้าในช่วงปี 2556
       
       “การที่สนับสนุนการศึกษาเรื่องนี้เพื่อต้องการให้เกิดความชัดเจนว่ามีประสิทธิภาพอย่างไร และปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน เพราะปัจจุบันมีหมอนวดที่ไม่ผ่านการอบรม และไม่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง แต่มีการโฆษณา จึงอยากเตือนประชาชนพึงระวัง” อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์ฯ กล่าว
       
       นางรัชนี ราษฎร์จำเริญสุข หัวหน้ากลุ่มงานการนวดไทย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำโครงงานศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งจะศึกษาร่วมกับการแพทย์ปัจจุบัน โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ว่า การนวดไทยสามารถช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้จริงหรือไม่ จริงๆ การนวดไม่ได้ช่วยเรื่องเพิ่มสมรรถภาพทางเพศโดยตรง แต่ช่วยในแง่โรคต่อมลูกหมากโต เนื่องจากเมื่อป่วยด้วยโรคนี้อาจมีผลต่อสมรรถภาพทางเพศได้ ดังนั้น หากรักษาโรคก็จะช่วยให้เซ็กซ์กลับคืน สำหรับการนวดขอย้ำว่า ไม่ได้นวดบริเวณอวัยวะเพศชาย แต่จะนวดบริเวณด้านหลัง คือ ก้นกบ ส่วนด้านหน้าจะนวดไล่ลงมาบริเวณหัวหน่าว กดตามเส้นเฉพาะ ตรงนี้ต้องใช้หมอนวดที่เชี่ยวชาญจริงๆ เบื้องต้นจะมีการเสวนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ในวันที่ 5 กันยายน และจะมีการโชว์เคสตัวอย่างประมาณ 6 รายถึงผลลัพธ์หลังการนวดด้วย
       
       ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้าโครงการสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สำหรับภูมิปัญญาไทยที่ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ ที่ได้รับการยอมรับมากคือ การใช้สมุนไพร เนื่องจากการนวดอาจไม่ใช่โดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่สมุนไพรมีการใช้มานานมาก และปัจจุบันก็ยังยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นเครือเขาแกลบ รางแดง หญ้านางหนุ่ม ม้าแม่กล่ำ ม้ากระทืบโรง ฯลฯ โดยนิยมทำเป็นยาดอง ยาต้ม ในการเพิ่มกำลัง วังชา
       
       ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรชำนาญการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า การนวดรักษาอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ทำกันมานาน ซึ่งหลักๆมีการนวดหลายรูปแบบ อาทิ การนวดเหยียบเหล็กแดง โดยหมอนวดต้องมีความเชี่ยวชาญและมีเทคนิคมากๆ ในการเหยียบเหล็กจากเตาร้อนๆ และมาเหยียบบนตัวผู้ป่วย ซึ่งการนวดวิธีนี้ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย บางรายรักษาเพียง 2 เดือน อาการก็ดีขึ้น แต่บางรายอาจใช้เวลาเป็นปี ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการสาธิตการนวดแก้อัมพฤกษ์ อัมพาตด้วย