เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30เม.ย.) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันปราบปราม ฟื้นฟูและเยียวยาด้านยาเสพติด เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน และได้หารือกรณีที่คณะอนุกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพิจารณากรณีซูโดอีเฟดรีนได้เรียกนายพสิษฐ์ และคณะทำงานไปให้ข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา
โดยว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ โฆษกคณะทำงานฯ กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการฯเรียกคณะทำงานฯไปชี้แจงเรื่องซูโดอีเฟดรีนแต่แทนที่จะมุ่งเฉพาะเรื่องนี้หรือการทุจริต แต่กลับมุ่งเรื่องเอกสารรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ที่พบใน รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พูดจาในลักษณะดิสเครดิตคณะทำงานฯ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้ตนเป็นผู้แทนไปดำเนินการกับใครก็ตามที่พูดพาดพิงคณะทำงานหรือบุคคลในคณะทำงานให้เกิดความเสียหาย ส่วนกรณีที่กรรมาธิการฯบางคนระบุว่าเอกสารดังกล่าวมีความพยายามเผยแพร่ผ่านทางอีเมลนั้น คณะทำงานฯไม่เคยส่งเอกสารทางอีเมล แต่เมื่อไปตรวจสอบถึงรู้ว่า เอกสารดังกล่าวส่งจากคณะทำงานบางคนจริง แต่ยืนยันว่าคณะทำงานฯทั้งหมดไม่รู้เรื่อง จึงเป็นการกระทำส่วนตัว ซึ่งได้ขอให้ทางผู้รับอีเมล์ฉบับดังกล่าวไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานว่าตัวเขาไม่ได้เป็นคนส่ง
นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในฐานะคณะทำงานฯ กล่าวยืนยันว่า เป็นคนพบเอกสารชิ้นดังกล่าว เย็บติดอยู่ในสมุดคล้ายบัญชีเบิกจ่ายยา ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 5 เล่ม และเป็นผู้แกะกระดาษแผ่นดังกล่าวออกมา
ด้านนายพสิษฐ์ กล่าวว่า ที่ต้องแจ้งปัญหานี้ให้คณะทำงานฯทราบ เพราะปัญหาจะไม่จบแค่นี้ ปัญหาจะไปไกลกว่านี้ ความจริงเมื่อไปตรวจเจออะไรจะไม่พูดก็ไม่ได้ เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าเป็นเอกสารจริง นายพสิษฐ์ กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องและเป็นคนพบเอกสารได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่ขอพูดหรือออกความเห็นอะไรอีก อีกทั้งไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวตั้งแต่ต้น และเอกสารทั้งหมดได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอไปแล้ว โดยในสัปดาห์นี้จะทำรายงานทั้งหมดนำเสนอ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯต่อไป โดยที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิมก็ขอให้คณะทำงานฯทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่
ส่วนภก.ประพนธ์ อางตระกูล ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวรายงานที่ประชุมว่า ขณะนี้ร้านขายยา คลินิก หรือ รพ.เอกชนที่ไม่ประสงค์จะครอบครองยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสมพาราเซตามอลให้ส่งคืนแก่ผู้ผลิตและนำเข้าภายในวันที่ 3 พ.ค. นี้ ปรากฎว่ามีการคืนยามาแล้วประมาณ 6 ล้านเม็ด จากที่คาดว่ามีทั้งหมดประมาณ 10 ล้านเม็ด โดยได้ประสานไปรษณีย์อำนวยความสะดวกในการส่งคืนยาได้ อย่างไรก็ตามในอนาคตทาง อย.คงจะมีการทบทวนยาสูตรผสมไม่ให้ผลิตและจำหน่ายแล้ว และคงจะหายาตัวอื่นทดแทน โดยอาจต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยวยังคงให้ใช้ต่อไปได้ แต่ระบบการควบคุมจะเข้มงวดมากขึ้น
ภก.ประพนธ์ ยังชี้แจงต่อที่ประชุมกรณีมีข่าวว่า นอกจากซูโดอีเฟดรีนแล้วยังมียาอีก 5 ชนิดที่วางจำหน่ายในร้านขายยาเป็นกลุ่มเสี่ยงที่คนคิดไม่ดีอาจจะนำไปผลิตยาเสพติด คือ ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของไดเฟนไฮดรามีน หรือโปรเมธาซีน สเตรียรอยด์ เด็กโตรเมโธแฟน และยาแก้ปวดบางชนิด ว่า ทั้ง 5 ชนิดที่เป็นข่าวนั้นไม่สามารถนำมาผลิตยาเสพติดได้แต่อย่างใดเพราะไม่สามารถนำมาสังเคราะห์ได้ อย่างไรก็ตามยาที่ถูกนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาบ้าในขณะนี้มีเพียง 5 ชนิด คือ อีเฟดรีน ซูโดอีเฟดรีน และพีพีเอ แต่อีก 2 ชนิดไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย.
เดลินิวส์ 30 เมษายน 2555
