ผู้เขียน หัวข้อ: ยาแอคติเฟด"เกือบ4แสนเม็ดหายจาก รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เผย1เม็ดทำ"ยาบ้า"ได้3เม็ด  (อ่าน 1162 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9784
    • ดูรายละเอียด
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานว่า ได้เกิดกระแสวิพากวิจารณ์ว่ายาหลายชนิดของโรงพยาบาลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้หายออกจากคลังเก็บยาไปจำนวนมาก อีกทั้งยาจำนวนดังกล่าวถูกระบุว่าสามารถนำไปผลิตเป็นสารตั้งต้นยาเสพติดได้หลายชนิด จึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนายแพทย์สุพัฒน์ ธาตุเพชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกมลาไสย  ซึ่งนายแพทย์สุพัฒน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบยาพบว่ายาได้หายไปจากห้องเก็บยาของโรพยาบาลกมลาไสยจริง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ายาหายไปจำนวนเท่าไหร่ ชนิดใดบ้าง มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพราะทางผู้ใหญ่ไม่อยากให้เป็นข่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่เบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.กมลาไสย เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้ที่ลักลอบนำยาออกมาดำเนินคดี ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบห้องจ่ายยาเป็นคนนำยาออกไป แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร จนกว่าสำนวนการสืบสวนจะแล้วเสร็จ

ด้าน พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลกมลาไสย โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้เข้ามาแจ้งความกับ ร.ต.อ.มณี สารขันธุ์ ร้อยเวร สภ.กมลาไสย เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ว่ายาสูตรแอคติเฟดชนิดเม็ดของโรงพยาบาลกมลาไสยได้หายไป ขอให้ตำรวจช่วยดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว พร้อมกับสอบปากคำนายแพทย์สุพัฒน์ ธาตุเพชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกมลาไสย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่อยากเป็นข่าว ทั้งนี้ คาดว่าพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนคดีให้กับ ป.ป.ท.ได้ภายใน 1 สัปดาห์ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ

ขณะที่ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว โดยทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลกมลาไสยได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่ายาสูตรแอคติเฟด ชนิดเม็ดของโรงพยาบาลกมลาไสยได้หายไปจำนวน 356,535 เม็ด แต่ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำออกไป จึงได้กำชับให้ ผกก.สภ.กมลาไสยและพนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างคาดว่าน่าจะรู้ตัวผู้ที่กระทำผิดในเร็วๆ นี้

ด้าน นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไว้แล้ว ในกรณีนี้จะต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกคือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐ นั่นคือยาหาย ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบก็ต้องชี้แจงมา ในส่วนของยาที่หายไป จะหายไปไหนก็จะต้องให้ทางตำรวจติดตาม ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจริงก็จะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัย ในส่วนของอาญาก็จะต้องขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ยาสูตรแอคติเฟดชนิดเม็ดเป็นยากลุ่มยาแก้แพ้ บรรเทาโรคภูมิแพ้ทางจมูก เป็นยาช่วยลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลและแก้หวัด ซึ่งไม่มีจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป โดยผู้ป่วยที่รับประทานได้แพทย์จะต้องเป็นผู้สั่งจ่ายยาเท่านั้น และต้องมีลายเซ็นแพทย์อย่างน้อย 3 คน และที่สำคัญยาแอคติเฟด 1 เม็ด สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบผลิตยาบ้าได้ 3 เม็ด ซึ่งหากนับจำนวนที่หายไปมากกว่า 3 แสนเม็ด หากมีการนำไปผลิตยาบ้าจริง ก็จะได้ยาบ้ามากกว่า 1 ล้านเม็ด ซึ่งการลักลอบออกไปครั้งนี้ เกรงว่าจะนำไปผลิตยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่

มติชนออนไลน์  15 มีนาคม พ.ศ. 2555