ทุกวันนี้เรามักได้ยินผู้ใหญ่บ่นกันหนาหูมากขึ้นเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็ก บ้างก็ตำหนิว่าเด็กยุคนี้เอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจสังคมรอบข้าง ไม่ช่วยเหลืองานบ้าน ทักษะชีวิตแย่ เล่นแต่เกม เมื่อหันมามองในด้านของพ่อแม่กันบ้าง ปฏิเสธไม่ได้ว่า พ่อแม่ก็ได้รับเสียงตำหนิด้วยเช่นกัน จากการสร้างปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทอดทิ้งลูก ทารุณกรรม มีชู้ เสพยาเสพติด ติดการพนัน ฯลฯ
บางที ปัญหาดังที่กล่าวข้างต้นอาจเกิดจากสิ่งเล็ก ๆ อย่างการขาดความใกล้ชิดสนิทสนมกันระหว่างพ่อแม่ลูกก็เป็นได้ วันนี้เราจึงรวบรวมข้อดีของการอยู่ใกล้ชิดกันในครอบครัวมาฝากท่านผู้อ่าน เผื่อว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้จะได้ลองหากิจกรรมดี ๆ ทำร่วมกัน และใช้เวลาสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูกค่ะ ซึ่งประโยชน์ทั้ง 5 ข้อจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ
ประโยชน์ข้อที่ 1 เพื่อความสำเร็จของลูก
พ่อแม่ทุกคนต่างต้องการเห็นลูกประสบความสำเร็จในชีวิต ได้ทำงานที่รัก และมีความสุขความพึงพอใจในชีวิตความเป็นอยู่ การให้ความใกล้ชิดกับลูกช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกไปถึง "ความสำเร็จ" นั้นได้มากกว่าเด็กที่พ่อแม่ห่างเหิน อีกทั้งยังมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ว่าการที่พ่อแม่มีความใกล้ชิดผูกพันกับลูกสามารถช่วยให้ลูกรู้จักใช้จ่ายเงินเมื่อโตขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ข้อที่ 2 ใกล้ชิดกับลูกช่วยลดปัญหา
เด็กที่พ่อแม่ดูแลใกล้ชิด มีความสนิทสนม ไว้วางใจ สามารถปรึกษาปัญหากับพ่อแม่ได้ตลอดเวลานั้น มักมีปัญหาในชีวิตน้อยกว่าเด็กที่พ่อแม่ทอดทิ้ง หรือไม่ใส่ใจ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่ลูกจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว ติดยาเสพติด หรือปฏิเสธสังคมได้อีกด้วย
ประโยชน์ข้อที่ 3 ใกล้ชิดกับลูกช่วยฝึกกระบวนการคิด
การพูดคุยกับลูกเป็นการฝึกกระบวนการคิดของเด็กได้ดีวิธีหนึ่ง ซึ่งใคร ๆ ทำก็คงไม่เหมือนพ่อแม่ทำ แต่ก็มีพ่อแม่บางส่วนไม่อยากชวนลูกคุย เพราะไม่ต้องการตอบคำถามของลูก เกรงว่าจะมีคำถามที่ตนเองตอบไม่ได้ เช่น คำถามเกี่ยวกับการเรียน แต่จริง ๆ แล้ว หากพ่อแม่ละทิ้งความกังวลในจุดนั้นเสีย กิจกรรมการพูดคุยกันระหว่างพ่อแม่ลูกก็จะมีประโยชน์กับเด็กมากกว่าค่ะ ยกตัวอย่างหัวข้อที่สามารถชวนลูกคุยได้เช่น การหยิบข่าวที่มีเด็กถูกลักพาตัวมาพูดคุยกับลูก รวมถึงตั้งคำถามว่าหากมีคนมาคุยกับลูก ชักชวนไปเล่นเกม กินขนม ลูกจะทำอย่างไร ฯลฯ ก็ได้เช่นกัน
ประโยชน์ข้อที่ 4 ส่งต่อทักษะชีวิตจากพ่อแม่
ไม่มีพ่อแม่คนไหนต้องการให้ลูกผิดพลาดซ้ำรอยตนเอง การถ่ายทอดประสบการณ์ บทเรียนที่พ่อแม่พบเจอมาผ่านการพูดคุยก็อาจสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก ๆ ได้ หรืออย่างน้อย หากลูกเจอเหตุการณ์เหมือนเช่นที่พ่อแม่เคยประสบมา พวกเขาอาจฉุกคิด และสามารถเอาตัวรอดได้
ประโยชน์ข้อที่ 5 เป็นตัวอย่างให้ลูกเมื่อเขาต้องเป็นพ่อแม่ในอนาคต
การที่ลูกได้รับความอบอุ่น และความใกล้ชิดจากพ่อแม่เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้จะฝังลงไปในส่วนลึกของจิตใจ และเมื่อเขาเป็นพ่อแม่ ก็มีแนวโน้มว่าเขาจะหยิบตัวอย่างดี ๆ ที่พ่อแม่เคยทำกับเขามาใช้เช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่คุณทำวันนี้ไม่เพียงแต่มีผลต่อลูก ๆ เท่านั้น มันอาจส่งผลยาวไปถึงรุ่นหลานของคุณเลยก็ว่าได้ค่ะ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเห็นคุณค่าในทุกวินาทีที่ยังมีชีวิตอยู่น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนในครอบครัวตระหนักร่วมกัน เพราะสุดท้ายแล้ว มนุษย์ทุกคนต้องจากกันในวันใดวันหนึ่ง หากเราใช้ชีวิตในทุกวันที่ทุกคนยังอยู่กันพร้อมหน้าให้เต็มที่ ทำดีต่อกันให้ถึงที่สุด อย่างน้อย เมื่อถึงวันที่ต้องลาจาก ภาพทุกภาพในความทรงจำของครอบครัวก็จะยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้ระลึกถึงนั่นเอง
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มีนาคม 2555