ผู้เขียน หัวข้อ: วิกฤตการการศึกษา และการขาดบุคลากรทางการแพทย์  (อ่าน 2258 ครั้ง)

pradit

  • Global Moderator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 322
    • ดูรายละเอียด

จากการที่เด็กไทยอ่านหนังสือไม่ออกมีจำนวนมาก  บางท่านกล่าวว่า  ” เด็กไทยยิ่งเรียนยิ่งโง่ ”

ซึ่งถือว่าเป็นวิกกฤตการการศึกษาของไทย   สาเหตุมาจากหลายเรื่อง เช่น มือถือ  โทรทัศน์  Internet

ติดเกมส์  เลียนแบบดารา  พ่อแม่  ผู้เลี้ยงดู  คุณภาพครู  ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนไม่ได้มาตรฐาน

รวมทั้งความเครียดที่มีอิทธิพลต่อเด็กซึ่งเป็นที่ทราบกัน  ทั้งฝ่ายภาครัฐ  กระทรวงศึกษาธิการได้ทำการพัฒนา

 ปรับปรุง  แก้ไขไปแล้วในระดับหนึ่ง  ส่วนจะแก้ได้ตรงจุด / ดีหรือไม่นั้นจะต้องเฝ้าดูกันต่อไป

            สำหรับการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็น ” สัญญาณเตือนภัย

อันตราย ” มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน  เช่น  การทำงานเสี่ยงภัย  เสี่ยงอันตรายในชีวิตและทรัพย์สิน  เสี่ยงต่อ

ติดเชื้อโรค  ทำงานยุ่งยากซับซ้อน  ความก้าวหน้าในวิชาชีพ  ค่าตอบแทนน้อย  เงินเดือนไม่พอเพียง  มีปัญหา

ครอบครัว ทำงานไม่เป็นเวลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งความความขัดแย้งของร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการ

รับบริการสาธารณสุข พ.ศ........ที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐบาลทำให้ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน  เป็นที่

กล่าวกันในวงกว้างทั่วประเทศในขณะนี้  และเด็กเก่งไทยยุคใหม่จะไม่เลือกเรียนแพทย์  พยาบาล  ซึ่งจะ

เห็นได้จาก Top 5 เด็ก Entrance ปี 2553 ไม่มีใครเลือกเรียน  เหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้มีอิทธิพลต่อการ

โอน / ย้าย / ลาออก ของบุคลากรสาธารณสุขอันเป็นสาเหตุให้ทวีความรุนแรงขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์

มากยิ่งขึ้น                     

                                                   
                จากปัญหาของทั้งสองกระทรวงที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับรัฐบาล  เปรียบเสมือนการทำงานของ

เส้นเลือดแดง  เส้นเลือดดำ  และหัวใจในร่างกายของมนุษย์    ซึ่งหัวใจมีหน้าที่สูบฉีดโลหิตให้ไหลเวียน

ไปตามหลอดเลือด  โดยเส้นเลือดแดงเปรียบเสมือนกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมีเด็ก  และบุคลากรร่างกาย

แข็งแรง  สุขภาพดี  คอยนำออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆทั่วร่างกาย  และมีการรับเอาของเสีย

พร้อมคาร์บอนไดออกไซค์กลับมาทางเส้นเลือดดำ  แล้วส่งต่อไปยังปอดทั้งสองข้างเพื่อฟอก/แลกเปลี่ยน

กับออกซิเจนจากอากาศที่หายใจเข้าสู่ปอดกลายเป็นเลือดดีสีแดงไหลกลับสู่หัวใจห้องบนซ้าย  โดยเส้น

เลือดดำเปรียบเสมือนกระทรวงสาธารณสุข  ซึ่งต้องบำบัดรักษาคนเจ็บป่วยให้ฟื้นหายจากโรค  ส่วนหัวใจ

เปรียบเสมือนรัฐบาลที่จะต้องทำงานตลอดเวลาอย่างรู้จังหวะจะโคน  ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น  เพราะถ้าหาก

หัวใจหยุดทำงานเมื่อไรมนุษย์ก็จะตายเมื่อนั้น  และถ้าหากทั้ง 3 สิ่งนี้ทำงานไม่สัมพันธ์กันก็จะเกิดปัญหา

ทันที   ส่วนกรณีเกิดเส้นเลือดแดงหรือเส้นเลือดดำอุดตันจะก่อให้เกิดโรคหรือปัญหากับร่างกายได้  และ

ถ้าหากเส้นเลือดแดงหรือเส้นเลือดดำฉีกขาดหากไม่ได้รับการรักษาหรือเย็บซ่อมแซม  ก็จะทำให้เลือดไหล

ไม่หยุดจนเกิดภาวะซีด  ช็อก  และตายได้  ยิ่งเกิดกับเส้นเลือดใหญ่บาดแผลกว้างก็ยิ่งทวีความรุนแรงมาก

ยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณอีกหลายเท่าตัว

        ดังนั้นวิกฤตการการศึกษา  และการขาดบุคลากรทางการแพทย์ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข ...ในมุมมอง

ของผู้เขียน  คิดว่าจะแย่พอๆกัน  ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปัจจุบันซึ่งได้นั่งทั้ง 2 กระทรวง

มาแล้ว   กรุณาช่วยประสานฝันพี่น้องชาวสาธารณสุขให้สุขกาย และสุขใจด้วยเถอะค่ะ

 

                                                                                   คนสายตายาว

                                                                            ( ธัญษรัตม์  ประชุมทอง )

                                                                                โรงพยาบาลพัทลุง

                                                                                  10 พ.ย.2553