ผู้เขียน หัวข้อ: 3 โหรฟันธงเพชฌฆาตยฤกษ์ “การเมืองวิบัติ-ผู้คิดคดชาติ” หมดสิทธิ์ลอยนวล!  (อ่าน 1441 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9763
    • ดูรายละเอียด
 3 โหรชื่อดังฟันธง!! ดวงเมืองปีหน้าแรงสุดๆ ส่งผลให้ปีหน้าเศรษฐกิจทรุดหนัก ระวังวงการการเงิน-การคลังปั่นป่วน ตลาดทุนหุ้นกระฉูดเร็วแต่ตกแรง พร้อมเตือน นักการเมือง ผู้นำทางธุรกิจ ทหาร ตำรวจที่เคยหมกเม็ดเรื่องลับๆ จะถูกเปิดเผย ชี้เรื่องอุบัติภัย วาตภัย อุทกภัยยังคงมีผลกระทบ ขณะที่การเมืองร้อนระอุอาจจะมีการเปลี่ยนขั้วอย่างน้อย 2 ครั้ง ส่วนคนที่ทำผิดต่อบ้านเมืองจะถูกแรงของ “ดาวเสาร์-ดาวพฤหัสฯ” ให้ต้องโทษทัณฑ์ตามกฎหมายแน่นอน
       
       หลังจากที่ประเทศไทยต้องบอบช้ำอย่างหนักจากการเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวิติศาสตร์ ทำให้ประชาชนจำนวนมากยังคงเก็บความบอบช้ำนั้นไว้ และอาจจะมีหลายคนที่ตั้งคำถามว่าเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในปี 2554 จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในปี 2555 “ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์” มีคำตอบจากผู้คร่ำหวอดในวงการโหราศาสตร์ซึ่งถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากประชาชนทั่วไปมาอย่างยาวนานว่ามีความถูกต้อง แม่นยำไม่แพ้ศาสตร์ทางวิชาการสมัยใหม่
       
       ปี 2555 “การเงิน-การคลัง” ร่อแร่

       อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหาราศาสตร์นานาชาติ ได้นำปรากฏการณ์การเกิดอุปราคามาอธิบายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับดวงเมืองของประเทศเป็นรายแรกของประเทศ โดยบอกว่านั่นคือการเกิดสุริยุปราคา และจันทรุปราคา มาผูกกับดวงเมืองเพื่อทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นถือเป็นวิชาเก่าแก่สืบทอดกันมานานนับพันปี จึงถือว่าการทำนายด้วยการใช้อุปราคาเป็นการทำนายที่มีความถูกต้องแม่นยำเช่นเดียวกับการนำปรากฏการณ์การโคจรของดวงดาวมาทำนาย ซึ่งดวงเมืองในปี 2555 จะมีอุปราคาเกิดขึ้น 5 ครั้ง โดยแบ่งเป็นสุริยุปราคา 2 ครั้ง จันทรุปราคา 2 ครั้ง และอุปราคาที่ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์อีก 1 ครั้ง
       
       สำหรับอุปราคาครั้งแรกจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เวลา 06.48 น.ในช่วงเช้าเช้าตรู่ในระยะ 6 องศา 19 ลิปดา แนวคราสเป็นวงแหวนผ่านประเทศจีน ญี่ปุ่น และตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมไปถึงรัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศไทยจะเห็นได้ยกเว้นภาคใต้ของประเทศ การเกิดอุปราคาครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่นานแต่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยค่อนข้างนาน
       
       ในทางโหราศาสตร์ สุริยุปราคาครั้งแรกนี้เกิดขึ้นในราศีพฤษภ เป็นราศีธาตุดินชนิดสถิรราศี ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวผู้นำประเทศ ผู้นำทางด้านการปกครอง ผู้นำในวงการการเงิน การคลัง ตลาดทุน เพราะเกิดขึ้นกับดวงอาทิตย์ซึ่งหมายถึงผู้นำหรือเบอร์ 1 ในภาคส่วนต่างๆ อาจจะทำให้ผู้นำเหล่านั้นเผชิญปัญหาในองค์กรที่ตัวเองรับผิดชอบ โดยเฉพาะราศรีพฤษภนั้นอยู่ในภพที่ 2 ของดวงเมือง หมายถึงเรื่องของการเงิน การคลัง เศรษฐกิจ ซึ่งผู้นำต่างๆ ต้องระวังเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับระบบการเงิน การคลังของประเทศให้จงหนัก ตลาดเงินจะเกิดการผันผวน การปริวรรตเงินตราเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว จนรัฐบาลผู้รับผิดชอบใหญ่โดยตรงไม่สามารถจะควบคุมและแก้ไขได้ และจะทำให้ประชาชนในประเทศส่วนใหญ่เกิดความเดือดร้อน เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันจะพุ่งสูงทำให้การดำรงชีวิตของประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก
       
       สำหรับการเกิดอุปราคาที่ 6 องศา ตกอยู่ในเขตของโจโรฤกษ์ และยังอยู่ในเรือนการเงินจะส่งผลต่อการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการเงิน เกิดการคอร์รัปชันกันอย่างหนัก เกิดการฉกชิงวิ่งราวชนิดที่ตำรวจไม่สามารถช่วยเหลือได้ จะมีคดีความเกี่ยวกับการเงินเข้าไปสู่ศาลเพิ่มมากขึ้นจนผิดปกติ
       
       นอกจากนี้ ราศีพฤษภาซึ่งเป็นราศีธาตุดินจะทำให้เกิดผลกระทบต่อภัยทางธรรมชาติ ประเภทดินถล่ม แผ่นดินไหว ดินทรุดตัว ตึกถล่ม ภูเขาไฟระเบิดได้ แม้จะไม่เกิดขึ้นโดยตรงกับประเทศไทย แต่จะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนไทยแน่นอน
       
       อุปราคาครั้งที่ 2 เป็นจันทรุปราคาบางส่วน เกิดขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2555 เวลา 18.13 น. ตรงกับระยะ 20 องศา 12 ลิปดา อยู่ในราศีพิจิกธาตุน้ำ แนวคราสเต็มดวงผ่านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย และทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศไทยเห็นได้บางส่วนในเวลาพลบค่ำ จันทรุปราคาครั้งนี้จะส่งผลต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบทางจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกทางจิตวิทยาสังคม ที่สำคัญราศีพิจิกเป็นราศีธาตุน้ำต้องระวังเกี่ยวกับน้ำ ทั้งน่านน้ำ อาณาเขตประเทศที่ติดกับน้ำ การคมนาคมทางน้ำ อุบัติภัยเกี่ยวกับน้ำ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับน้ำ น้ำมันและก๊าซ จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะช่วงนี้จะมีความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกี่ยวกับน้ำปรากฏขึ้น
       
       โดยช่วงที่เกิดจันทรุปราคานั้นตกอยู่ในภพมรณะของดวงเมือง จะส่งผลทำให้เกิดความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชนอันเนื่องมาจากน้ำแบบฉับพลันทันใด หรือแบบไม่มีใครคาดคิด ซึ่งอาจจะหมายถึงการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศอื่นแล้วเกิดสึนามิในประเทศไทย หรือเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากเรือล่ม โป๊ะขนาดใหญ่แตก บ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำเกิดการทรุดตัว ที่สำคัญการเกิดอุปราคาครั้งนี้ยังเกิดในเขตของสมโณฤกษ์ ซึ่งหมายถึงผู้นำทางศาสนา ผู้นำทางจิตวิญญาณ หรือคนที่ได้รับการยอมรับนับถือจากสังคม การเกิดในเขตนี้จะทำให้ต้องสูญเสียผู้นำทางศาสนา เกจิอาจารย์ชื่อดังหรือเกิดความวุ่นวายในวงการสงฆ์ได้
       
       ครั้งที่ 3 เป็นการเกิดสุริยุปราคาชนิดเต็มดวง เกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา 05.09 น. ตรงกับ 27 องศา 54 ลปดา ในราศีตุลย์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม เป็นราศีที่ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง รวดเร็ว และผ่านไปอย่างรวดเร็ว แนวคราสเต็มดวงผ่านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย แม้ประเทศไทยจะไม่สามารถมองเห็นการเปิกอุปราคาในครั้งนี้แต่ผลกระทบที่จะได้รับนั้นจะมีความรุนแรงไม่แพ้การเกิดครั้งแรก วึ่งครั้งนี้สิ่งที่เราจะได้เห็นชัดเจน คือ การเกิดลมกระโชกแรง เกิดลมพายุหมุน เกิดวาตภัยและนำไปสู่การเกิดอุทกภัยเหมือนปี 2554
       
       นอกจากนี้ อุปราคายังเกิดในภพที่ 7 ของดวงเมืองซึ่งเกี่ยวข้องกับการลงนาม สนธิสัญญาระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านจะเกิดข้อพิพาทที่ลุกลามบานปลายไปสู่สงครามขนาดใหญ่ ที่สำคัญอุปราคาครั้งนี้ยังเล็งเข้าไปสู่ดวงอาทิตย์ของดวงเมืองซึ่งหมายผู้นำประเทศ ผู้นำองค์กรที่มีความสำคัญต่อความมั่นคง การเงิน การคลังของประเทศจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยแบบไม่รู้สาเหตุ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหันกับตัวผู้นำ
       
       “ที่สำคัญการเกิดอุปราคาครั้งนี้ เกิดในเขตของเพชฌฆาตฤกษ์ ทำให้เราต้องพบกับผู้นำที่จะต้องนำมากฎหมายออกมาควบคุมและบังคับใช้อย่างเด็ดขาด รุนแรงซึ่งบอกไม่ได้ว่าเป็นกฎหมายที่เกิดจาก “คณะปฏิวัติ” หรือไม่ แต่ขอบอกว่ารุนแรงเด็ดขาดมาก”
       
       ครั้งที่ 4 เกิดจันทรุปราคาเงามัว เกิดในวันที่ 28 พฤศจิกายน2555 ตรงกับราศีพฤษภ เวลา 21.46 น. ตรงระยะ 12 องศา 44 ลิปดา การเกิดครั้งนี้จะมีผลต่อสภาพจิตใจของประชาชนไม่มีความรุนแรงมากนักแต่กลับจะรุนแรงกับการเงิน การคลังอีกครั้งหนึ่งเพราะเกิดในเขตภูมิปาโลฤกษ์เป็นฤกษ์ของการปกครองของแผ่นดิน ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะเกิดขึ้นชัดเจนที่สุดในช่วงนี้ สาเหตุเพราะปัญหาการเงิน การคลังที่สะสมมาตั้งต่อต้นปีจะเริ่มปรากฏผลกระทบที่ชัดเจนที่สุด
       
       ครั้งที่ 5 เกิดอุปราคาจากดาวศุกร์บังดวงอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งดาวศุกร์นั้นเป็นดาวที่หมายถึงการเงิน การคลังและเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อโคจรไปบังดวงอาทิตย์ที่หมายถึงตัวผู้นำ จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวกับการเงิน การคลังและเศรษฐกิจ สถาบันที่มีความสำคัญ รัฐสภา ทหาร ตำรวจ ผุ้นำองค์กรเหล่านี้อาจจะเกิดความสูญเสีย
       
       “การเกิดจันทรุปราคาทั้งสองครั้งนั้น เกิดตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 และวันเพ็ญเดือน 12 ซึ่งมีความหมายมากเพราะเหตุการณ์ที่กล่าวมาแล้วจะมีความรุนแรงมากกว่าเท่าตัวเรารู้แล้วจึงควรระวังตัวให้มากอย่าประมาทที่สำคัญหมั่นทำบุยเจริญวิปัสนากรรมฐานให้สม่ำเสมอจะช่วยให้ประเทศไทยเรารอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ดี”
       
       ปี 55 ดวงเมืองพิฆาตนักการเมือง

       ขณะที่อาจารย์ทศพร ศรีตุลา โหรชื่อดังอีกรายบอกว่า ปี 2554 ว่าดวงเมืองแตกและแรงแล้ว ขอบอกว่าปี 2555 นั้นจะแรงมากกว่านี้มาก เพราะช่วงปีนี้ดาวเสาร์ และดาวพฤหัสฯ โคจรมาพบกัน ซึ่งหมายถึงการปรากฏความจริงจากการปิดบังซ่อนเร้นโดยเฉพาะปัญหาการเงินและการคลังนั้นหนักหนามาก ปี 2554 เกิดอุทกภัยว่ามีความรุนแรงแล้วแต่การเงินและเศรษฐกิจของประเทศยังคงเดินไปได้แต่ปี 2555 นับจากวันเกิดประเทศคือวันที่ 13 เมษายนเป็นต้นไป เราจะเห็นปรากฏการณ์ “ต้มยำกุ้ง” เกิดขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้จะรุนแรงมากกว่าปี 2540 เสียอีก
       
       “ที่กล้าพูดอย่างนั้นเพราะจุดเปลี่ยนของดาวเสาร์ในปี 2555 เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ปี 2554 เกิดขึ้นมาแล้วในเดือนธันวาคม เราได้เห็นข่าว “ปลัดซ่อนเงิน” มาแล้วในปีนี้จะเห็นข่าวประเภทซ่อนเงื่อนปรากฏความจริงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักการเมืองที่มีนอกมีใน ดาวเสาร์ซึ่งจะย้ายตัวเองในวันที่ 5 เมษายน 2554 เป็นครั้งแรกของปีและอีกครั้งในวันที่ 7 กันยายน 2555 จะส่งผลต่อดวงการงานของดวงเมืองโดยตรง ทำให้เกิดผลสะเทือนต่อการทำงานของรัฐบาล การบริหารบ้านเมืองจะเกิดปัญหา ซึ่งน่าจะมีการเตรียมตัวที่จะรับสถานการณ์อย่างนี้ไว้แต่เนิ่นๆ จะได้ไม่บอบช้ำมากนัก โดยเฉพาะการบริหารงานด้านการเงินของประเทศจะต้องมีความระมัดระวังให้มาก จะเกิดปัญหาเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินตรา ค่าเงินบาทผันผวน คนที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ส่งออกจะ “บักโกรก” แบบสุดๆ ทีเดียว นอกจากนี้ ในวงการหุ้นไม่ใช่ปีที่หุ้นจะตก แต่เป็นปีที่หุ้นจะทะลุแต่จะตกด้วยความรวดเร็วนักลงทุนรายเล็กที่มีเงินน้อยจะเจ็บตัวมาก ดังนั้นจึงต้องระวังตัวเองให้ดี
       
       อย่างไรก็ตาม จังหวะที่ดาวเสาร์ย้ายอาจจะมีความรุนแรงทางด้านการเมืองกระแสนี้จะเริ่มครุกรุ่นตั้งแต่เดือนมีนาคมและเกิดอีกครั้งในเดือนสิงหาคมและกันยายน ซึ่งต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เราอาจจะได้รัฐบาฃใหม่ก็เป็นได้ เพราะดาวเสาร์ย้ายสองครั้งในหนึ่งปีจะเกิดขึ้ทุก 30 ปี ครั้งนี้เราจะได้เห็น “เซอร์ไพรส์” โดยเฉพาะการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองจะเห็นอย่างน้อยต้อง 2 ครั้งแน่นอน ที่สำคัญปีนี้เป็นปีมะโรงธาตุน้ำ เราจะได้เห็นปรากฏการณ์ของน้ำอีกครั้งแต่ครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่าที่ควรเพราะธรรมชาติของมนุษย์เมื่อมีประสบการณ์ก็จะสามารถรับมือได้ดีกว่าเดิม
       
       “ขอบอกว่าปีนี้เป็นปีที่ความจริงจะปรากฏ ประชาชนทั่วไปจะหูตาสว่าง นักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการที่มีวาระซ่อนเร้น บิดบัง มีความลับ ความลับนั้นจะถุกเปิดเผยสู่สายตาประชาชนเพราะปีนี้ดวงเมืองก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเดิม แม้จะเกิดความวุ่นวายต่อเนื่องแต่ในความงามวุ่นวายนั้นจะได้เห็นสัจธรรมที่ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วคนที่วันนี้ยังพ้นเงื้อมมือกฎหมาย แต่ปีมะโรงนี้รับรองว่าไม่รอดอย่างแน่นอน”
       
       การเมืองวุ่น-การเงินทรุด ประชาชนอดอยาก

       อาจารย์ธนกร สินเกษม นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ บอกว่า ในปีมะโรง 2555 ดาวเสาร์โทษทุกข์เล็งดาวอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวของดวงเมือง หมายถึง ความวุ่นวายแรงๆทางการเมืองจะกลับมาอีกมีความพยายามที่จะใช้ยุทธวิธีล้มล้างกันทำทุกอย่างเพื่อหาคะแนนนิยมเข้าพรรคแล้วโยนบาปให้พรรคคู่ศัตรู ดาวเสาร์อยู่ในราศีตุลย์เป็นอุจจึงทำให้ดีกรีความร้อนแรงทางการเมืองที่สูงมาก
       
       การเงินของประเทศในปีนี้อยู่ในภาวะที่ทุดแล้วทรุดอีกคือแย่มาก เพราะดาวอังคารเป็นกาลีอยู่ในเรือนกดุมภะซึ่งเป็นเรือนการเงินทำให้ประเทศชาติและประชาชนต้องเดือดร้อนเรื่องการเงิน หนี้สิน มาก ซ้ำร้ายในปี 2555 ประเทศไทยจะยังคงประสบปัยหาทางภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งวาตภัย อุทกภัยอีกครั้ง
       
       นอกจากนี้ ดาวจันทร์เป็นอุตสาหะ ก็หมายถึงประเทศไทยจะต้องวุ่นวายในการสกัดกั้นอุทกภัยครั้งใหม่จากดวงเมืองกาลีอยู่ในเรือนกฎุมพะก็จะทำให้ประเทศไทยใช้เงินลงทุนแก้ปัญหาภับพิบัติทางธรรมชาติมหาศาล ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความรู้สึกหดหู่ ไม่มีกำลังใจเพราะดาวเสาร์ยังถอยหลังไปสู้เรือนอริทำให้เกิดเป็นหนี้สิน สำหรับราษฎรจากทุกพรรคการเมืองจะถูกเปิดเผยความลับที่ปกปิดมานาน เราจะได้เห็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่า “มันเป็นไปได้อย่างไร” อยู่บ่อยครั้งแน่นอน

ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์    29 ธันวาคม 2554