8176
ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ / ทบทวนเรื่องราวระหว่างปี กับอธิบดีหญิงคนแรกของกรมการแพทย์
« เมื่อ: 08 มกราคม 2012, 20:53:01 »
"ต้อนรับปีใหม่ 2555 ร่วมคืนรอยยิ้ม ความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชนคนไทย" กับกรมการแพทย์หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์หญิงวิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีหญิงคนแรกของกรมการแพทย์ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า "ดูแลด้วยใจ หายได้ด้วยเทคโนโลยี" กับภารกิจการดำเนินงานด้านการศึกษา วิจัย ประเมิน พัฒนา และเผยแพร่องค์ความรู้/เทคโนโลยีทางการแพทย์ในระดับสากล/การดูแลและพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการรักษาพยาบาลของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน/การถ่ายทอดและเพิ่มพูนทักษะบุคลากรทางการแพทย์ให้มีคุณภาพ/การให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางในระดับตติยภูมิและสูงกว่าอย่างได้มาตรฐาน และการพัฒนานโยบายด้านสุขภาพเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชน ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำทางวิชาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับสากล ที่สมคุณค่าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน
โดยกรมการแพทย์มีค่านิยมองค์กรที่ใช้เป็นหลักในการทำงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุดคือ "HMR" ซึ่ง "H:Harmonization" หมายถึง การประสานที่สอดคล้องกันอย่างดีสำหรับ "M:MiddlePath" หมายถึง ทางสายกลาง ส่วน "R:Respect" หมายถึง การให้เกียรตินับถือซึ่งกันและกัน และ "L:Love to work" หมายถึง รักในงานที่ทำ
ระหว่างปี 54 ที่ผ่านมา กับการดูแลประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีแม้ในช่วงวิกฤติน้ำท่วม
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า ในช่วงปี 54 ที่ผ่านมากับการเกิดมหาอุทกภัยที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศไทย ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งในเรื่องของที่อยู่อาศัยที่เสียหายจากการถูกน้ำท่วม รวมทั้งปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยด้วยโรคและอาการบาดเจ็บต่างๆ กรมการแพทย์เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ได้มีส่วนในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้มีการประชุมร่วมกับทีมผู้บริหารกรมการแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยของประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมทุกวัน เวลา 10.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์และความพร้อมของกรมการแพทย์ และได้มีการตรวจเยี่ยมหน่วยงานเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผู้เจ็บป่วยจาก
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ เช่น
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศูนย์สมเด็จ
พระสังฆราชญาณสังวรเพื่อสูงอายุ
จังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาล
เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง)
สถาบันธัญญารักษ์ จังหวัด
ปทุมธานี โรงพยาบาลนพรัตน
ราชธานี โรงพยาบาลราชวิถี
ฯลฯ รวมทั้งได้มีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ด้วย เปิดศูนย์ฯ ร่วมกับ รพ.ราชวิถี ช่วยเหลือผู้ป่วยจากพื้นที่น้ำท่วม
ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤตินั้น หลายพื้นที่ที่การรักษาพยาบาลเข้าถึงได้ยากมีปัญหาการขาดแคลนยาและเครื่องมือแพทย์ในการรักษา เพราะสถานพยาบาลถูกน้ำท่วมหนัก ถูกตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด แพทย์ พยาบาลไม่สามารถปฏิบัติงานได้ แพทย์หญิงวิลาวัณย์บอกว่าขณะนั้นจำเป็นต้องมีการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย กรมการแพทย์จึงได้เปิด "ศูนย์รับ ผู้ป่วยจากพื้นที่น้ำท่วม หรือ DMS REFERRAL CENTER" ขึ้นที่โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯ สำหรับเป็นหน่วยกลางในการประสานรับ-ส่งต่อผู้ป่วย และได้เตรียมสถานที่สำหรับรองรับผู้ป่วยไว้ถึง 2 จุด คือ โรงยิม และบริเวณชั้น 6 ตึกสิรินธร รพ.ราชวิถี สามารถรองรับผู้ป่วยได้โดยไม่จำกัดจำนวน ช่วยให้ผู้ป่วยมีความเชื่อมั่นว่าต้องได้รับการรักษาทุกราย เปิดสายด่วน 1668 รับแจ้งปัญหาความเดือดร้อนของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม ผู้ป่วยที่เป็น โรคเรื้อรัง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง วัณโรค โรคหัวใจ ฯลฯ ต่างได้รับผลกระทบและมีความยากลำบากในการเดินทาง ไม่สามารถไปโรงพยาบาลตามนัดของแพทย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยยา จำเป็นต้องได้รับยารักษาอย่างต่อเนื่อง หากขาดยาหรือยาที่ใช้อยู่ใกล้หมดหรือทำยาสูญหาย ทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้อาการของผู้ป่วยโรคเรื้อรังกำเริบ หรืออาจทรุดหนักลง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ป่วยที่ประสบปัญหาต่างๆ ในช่วงน้ำท่วมกรมการแพทย์ได้เปิดสายด่วน 1668 รับแจ้งปัญหาผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาล และมีปัญหาขาดยา ซึ่งเมื่อกรมการแพทย์รับเรื่องแล้วจะได้ประสานกับโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อเป็นการประสานในการขอรับยารักษา และติดต่อกลับไปหาผู้ป่วยทันทีภายในวันเดียวกัน เร่งผลิตยาคุณภาพดีเพื่อเสริมทัพการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและทหาร
ผลพวงจากมหาอุทกภัยที่กระจายครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้างทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ประชาชนต้องประสบความเดือดร้อนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม รวมทั้งปัญหาสุขภาพการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ของผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทหาร แพทย์หญิง วิลาวัณย์บอกว่าในช่วงเวลา ณ ขณะนั้นกรมการแพทย์ได้เล็งเห็นปัญหาและตระหนักถึงความทุกข์ยาก หวั่นจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บแทรกซ้อนกับเจ้าหน้าที่ที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัย และไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้ร่วมกับ รพ.ราชวิถีและสถาบันโรคผิวหนัง เร่งผลิตยาเพื่อแจกจ่ายประชาชนผู้เดือดร้อนและทหาร และยังได้ LEO Pharma Thailand เป็นกำลังเสริมสำคัญที่ขอมีส่วนร่วมในการเยียวยาผู้ประสบภัย ด้วยการมอบยาเวชภัณฑ์ ยารักษาแผลติดเชื้อ และยารักษาโรคตาแดงมูลค่ากว่า 1 ล้าน 2 แสนบาท เพื่อให้กรมการแพทย์ได้นำไปรักษาปัญหาการเจ็บป่วยให้กับพี่น้องประชาชน ผู้ประสบภัย เยียวยาจิตใจญาติผู้เสียชีวิตเตรียมพร้อมเคลียร์ห้องเย็นรองรับศพจากพื้นที่อุทกภัย
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า ในยามที่ประชาชนทุกข์ยากจากปัญหาน้ำท่วม และมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ญาติของผู้เสียชีวิตยิ่งทุกข์ใจมากยิ่งกว่า เนื่องจากขณะนั้นมีพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ฌาปนสถานสำหรับประกอบพิธีได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขัง ทำให้ญาติไม่สามารถนำศพออกไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ ศพจึงตกค้างอยู่ตามโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก การเตรียมสถานที่สำรองสำหรับเก็บรักษาศพผู้เสียชีวิตไว้เพื่อรอการฌาปนกิจ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของกรมการแพทย์ โดยได้ร่วมกับมูลนิธิสนับสนุนพยาธิวิทยาในสังกัดสถาบันพยาธิวิทยา จัดการฌาปนกิจศพผู้ป่วยที่ยากไร้และศพไร้ญาติจากโรงพยาบาลราชวิถีและสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีเป็นกรณีพิเศษ ณ วัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) เพื่อเตรียมพร้อมสำรองห้องเย็นสำหรับการเก็บรักษาศพผู้เสียชีวิตไว้เพื่อรอการฌาปนกิจหลังน้ำลด เร่งฟื้นฟูความเสียหายหลังน้ำลด ด้วยกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมผ่านไป การเร่งฟื้นฟูสถานที่ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ซึ่งได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม ด้วยการจัดกิจกรรม ร่วมมือร่วมใจทำความสะอาดครั้งใหญ่ (Big Cleaning Day) ในโครงการ "ทำความดี ถวายในหลวง 84 พรรษา มหามงคล" จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อพลิกฟื้นความพร้อมของการให้บริการทางการแพทย์ให้หน่วยงานในสังกัด ได้กลับมามีศักยภาพสามารถรองรับและให้บริการผู้ที่มีปัญหาการเจ็บป่วยได้ดังเดิม กับการทำงานที่ต่างเก้าอี้แต่ไม่ต่างภาระหน้าที่ของแพทย์หญิงวิลาวัณย์
ก่อนที่แพทย์หญิงวิลาวัณย์จะมานั่งบริหารงานในตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์นั้น เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมาก่อน ในขณะนั้นได้ส่งเสริมให้มีการจัดทำโครงการต่างๆ อยู่หลายโครงการ เพื่อค้นคว้าวิจัยทางด้านสมุนไพรไทย ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เพื่อพัฒนายกระดับการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกใหม่ของไทยให้ก้าวไกลและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ อาทิ การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติเพื่อผลักดันนโยบายของรัฐที่เล็งเห็นความสำคัญในการพึ่งตนเอง ดูแลสุขภาพประชาชนในประเทศด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เป็นการโชว์สมุนไพรหอม เครื่องหอมภูมิปัญญาไทย จัดแสดงยาหอมไทยตำรับโบราณ รวมทั้งต้นไม้สมุนไพร ส่วนการพัฒนาการแพทย์แผนไทยเพื่อก้าวไปเป็นผู้นำอาเซียนนั้น ได้ผลักดันให้มีการวิจัยจนเกิดเป็นบรรทัดฐาน พร้อมเสริมองค์ความรู้ที่เชื่อมต่อทั้งตัวบุคคล และการสนับสนุนจากเครือข่ายภาครัฐหลายๆ ฝ่าย รวมกันให้เกิดความเป็นปึกแผ่นในประเทศ เพราะการที่ประเทศอุดมด้วยทรัพยากรสมุนไพรจึงมีความพร้อมที่จะเดินหน้าเรื่องการแพทย์ดั้งเดิมได้อย่างเต็มสูบ ฯลฯ ถึงแม้ในวันนี้จะต่างกรมฯ ต่างเก้าอี้ แต่แพทย์หญิงวิลาวัณย์บอกว่าภาระหน้าที่ของท่านไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก เพราะจุดหมายปลายทางของการทำงานก็คือ "การดูแลประชาชนคนไทยให้ความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีนั่นเอง" กับคำอวยพรในโอกาสเทศกาลปีใหม่
ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2555 ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตของท่านไม่ว่าจะเป็นด้านร้ายหรือด้านดี ขอสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นบทเรียนที่มีคุณค่าเพื่อให้ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ทั้งด้านหน้าที่การงาน หรือการดูแลสุขภาพ ชีวิตนับจากนี้ไปขอให้ทุกท่านได้รับแต่พรที่เป็นสิริมงคลและอำนวยโชคให้ท่าน และขอให้พรนั้นจงเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกท่านตลอดไป
บ้านเมือง 8 มกราคม 2555
โดยกรมการแพทย์มีค่านิยมองค์กรที่ใช้เป็นหลักในการทำงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุดคือ "HMR" ซึ่ง "H:Harmonization" หมายถึง การประสานที่สอดคล้องกันอย่างดีสำหรับ "M:MiddlePath" หมายถึง ทางสายกลาง ส่วน "R:Respect" หมายถึง การให้เกียรตินับถือซึ่งกันและกัน และ "L:Love to work" หมายถึง รักในงานที่ทำ
ระหว่างปี 54 ที่ผ่านมา กับการดูแลประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีแม้ในช่วงวิกฤติน้ำท่วม
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า ในช่วงปี 54 ที่ผ่านมากับการเกิดมหาอุทกภัยที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศไทย ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งในเรื่องของที่อยู่อาศัยที่เสียหายจากการถูกน้ำท่วม รวมทั้งปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยด้วยโรคและอาการบาดเจ็บต่างๆ กรมการแพทย์เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ได้มีส่วนในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้มีการประชุมร่วมกับทีมผู้บริหารกรมการแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยของประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมทุกวัน เวลา 10.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์และความพร้อมของกรมการแพทย์ และได้มีการตรวจเยี่ยมหน่วยงานเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผู้เจ็บป่วยจาก
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ เช่น
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศูนย์สมเด็จ
พระสังฆราชญาณสังวรเพื่อสูงอายุ
จังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาล
เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง)
สถาบันธัญญารักษ์ จังหวัด
ปทุมธานี โรงพยาบาลนพรัตน
ราชธานี โรงพยาบาลราชวิถี
ฯลฯ รวมทั้งได้มีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ด้วย เปิดศูนย์ฯ ร่วมกับ รพ.ราชวิถี ช่วยเหลือผู้ป่วยจากพื้นที่น้ำท่วม
ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤตินั้น หลายพื้นที่ที่การรักษาพยาบาลเข้าถึงได้ยากมีปัญหาการขาดแคลนยาและเครื่องมือแพทย์ในการรักษา เพราะสถานพยาบาลถูกน้ำท่วมหนัก ถูกตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด แพทย์ พยาบาลไม่สามารถปฏิบัติงานได้ แพทย์หญิงวิลาวัณย์บอกว่าขณะนั้นจำเป็นต้องมีการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย กรมการแพทย์จึงได้เปิด "ศูนย์รับ ผู้ป่วยจากพื้นที่น้ำท่วม หรือ DMS REFERRAL CENTER" ขึ้นที่โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯ สำหรับเป็นหน่วยกลางในการประสานรับ-ส่งต่อผู้ป่วย และได้เตรียมสถานที่สำหรับรองรับผู้ป่วยไว้ถึง 2 จุด คือ โรงยิม และบริเวณชั้น 6 ตึกสิรินธร รพ.ราชวิถี สามารถรองรับผู้ป่วยได้โดยไม่จำกัดจำนวน ช่วยให้ผู้ป่วยมีความเชื่อมั่นว่าต้องได้รับการรักษาทุกราย เปิดสายด่วน 1668 รับแจ้งปัญหาความเดือดร้อนของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม ผู้ป่วยที่เป็น โรคเรื้อรัง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง วัณโรค โรคหัวใจ ฯลฯ ต่างได้รับผลกระทบและมีความยากลำบากในการเดินทาง ไม่สามารถไปโรงพยาบาลตามนัดของแพทย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยยา จำเป็นต้องได้รับยารักษาอย่างต่อเนื่อง หากขาดยาหรือยาที่ใช้อยู่ใกล้หมดหรือทำยาสูญหาย ทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้อาการของผู้ป่วยโรคเรื้อรังกำเริบ หรืออาจทรุดหนักลง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ป่วยที่ประสบปัญหาต่างๆ ในช่วงน้ำท่วมกรมการแพทย์ได้เปิดสายด่วน 1668 รับแจ้งปัญหาผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาล และมีปัญหาขาดยา ซึ่งเมื่อกรมการแพทย์รับเรื่องแล้วจะได้ประสานกับโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อเป็นการประสานในการขอรับยารักษา และติดต่อกลับไปหาผู้ป่วยทันทีภายในวันเดียวกัน เร่งผลิตยาคุณภาพดีเพื่อเสริมทัพการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและทหาร
ผลพวงจากมหาอุทกภัยที่กระจายครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้างทั้งในต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้ประชาชนต้องประสบความเดือดร้อนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม รวมทั้งปัญหาสุขภาพการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ของผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทหาร แพทย์หญิง วิลาวัณย์บอกว่าในช่วงเวลา ณ ขณะนั้นกรมการแพทย์ได้เล็งเห็นปัญหาและตระหนักถึงความทุกข์ยาก หวั่นจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บแทรกซ้อนกับเจ้าหน้าที่ที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัย และไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้ร่วมกับ รพ.ราชวิถีและสถาบันโรคผิวหนัง เร่งผลิตยาเพื่อแจกจ่ายประชาชนผู้เดือดร้อนและทหาร และยังได้ LEO Pharma Thailand เป็นกำลังเสริมสำคัญที่ขอมีส่วนร่วมในการเยียวยาผู้ประสบภัย ด้วยการมอบยาเวชภัณฑ์ ยารักษาแผลติดเชื้อ และยารักษาโรคตาแดงมูลค่ากว่า 1 ล้าน 2 แสนบาท เพื่อให้กรมการแพทย์ได้นำไปรักษาปัญหาการเจ็บป่วยให้กับพี่น้องประชาชน ผู้ประสบภัย เยียวยาจิตใจญาติผู้เสียชีวิตเตรียมพร้อมเคลียร์ห้องเย็นรองรับศพจากพื้นที่อุทกภัย
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า ในยามที่ประชาชนทุกข์ยากจากปัญหาน้ำท่วม และมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ญาติของผู้เสียชีวิตยิ่งทุกข์ใจมากยิ่งกว่า เนื่องจากขณะนั้นมีพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ฌาปนสถานสำหรับประกอบพิธีได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขัง ทำให้ญาติไม่สามารถนำศพออกไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ ศพจึงตกค้างอยู่ตามโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก การเตรียมสถานที่สำรองสำหรับเก็บรักษาศพผู้เสียชีวิตไว้เพื่อรอการฌาปนกิจ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญของกรมการแพทย์ โดยได้ร่วมกับมูลนิธิสนับสนุนพยาธิวิทยาในสังกัดสถาบันพยาธิวิทยา จัดการฌาปนกิจศพผู้ป่วยที่ยากไร้และศพไร้ญาติจากโรงพยาบาลราชวิถีและสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีเป็นกรณีพิเศษ ณ วัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) เพื่อเตรียมพร้อมสำรองห้องเย็นสำหรับการเก็บรักษาศพผู้เสียชีวิตไว้เพื่อรอการฌาปนกิจหลังน้ำลด เร่งฟื้นฟูความเสียหายหลังน้ำลด ด้วยกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ กล่าวว่า หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมผ่านไป การเร่งฟื้นฟูสถานที่ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ซึ่งได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม ด้วยการจัดกิจกรรม ร่วมมือร่วมใจทำความสะอาดครั้งใหญ่ (Big Cleaning Day) ในโครงการ "ทำความดี ถวายในหลวง 84 พรรษา มหามงคล" จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อพลิกฟื้นความพร้อมของการให้บริการทางการแพทย์ให้หน่วยงานในสังกัด ได้กลับมามีศักยภาพสามารถรองรับและให้บริการผู้ที่มีปัญหาการเจ็บป่วยได้ดังเดิม กับการทำงานที่ต่างเก้าอี้แต่ไม่ต่างภาระหน้าที่ของแพทย์หญิงวิลาวัณย์
ก่อนที่แพทย์หญิงวิลาวัณย์จะมานั่งบริหารงานในตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์นั้น เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมาก่อน ในขณะนั้นได้ส่งเสริมให้มีการจัดทำโครงการต่างๆ อยู่หลายโครงการ เพื่อค้นคว้าวิจัยทางด้านสมุนไพรไทย ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เพื่อพัฒนายกระดับการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกใหม่ของไทยให้ก้าวไกลและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ อาทิ การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติเพื่อผลักดันนโยบายของรัฐที่เล็งเห็นความสำคัญในการพึ่งตนเอง ดูแลสุขภาพประชาชนในประเทศด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เป็นการโชว์สมุนไพรหอม เครื่องหอมภูมิปัญญาไทย จัดแสดงยาหอมไทยตำรับโบราณ รวมทั้งต้นไม้สมุนไพร ส่วนการพัฒนาการแพทย์แผนไทยเพื่อก้าวไปเป็นผู้นำอาเซียนนั้น ได้ผลักดันให้มีการวิจัยจนเกิดเป็นบรรทัดฐาน พร้อมเสริมองค์ความรู้ที่เชื่อมต่อทั้งตัวบุคคล และการสนับสนุนจากเครือข่ายภาครัฐหลายๆ ฝ่าย รวมกันให้เกิดความเป็นปึกแผ่นในประเทศ เพราะการที่ประเทศอุดมด้วยทรัพยากรสมุนไพรจึงมีความพร้อมที่จะเดินหน้าเรื่องการแพทย์ดั้งเดิมได้อย่างเต็มสูบ ฯลฯ ถึงแม้ในวันนี้จะต่างกรมฯ ต่างเก้าอี้ แต่แพทย์หญิงวิลาวัณย์บอกว่าภาระหน้าที่ของท่านไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก เพราะจุดหมายปลายทางของการทำงานก็คือ "การดูแลประชาชนคนไทยให้ความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีนั่นเอง" กับคำอวยพรในโอกาสเทศกาลปีใหม่
ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2555 ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตของท่านไม่ว่าจะเป็นด้านร้ายหรือด้านดี ขอสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นบทเรียนที่มีคุณค่าเพื่อให้ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ทั้งด้านหน้าที่การงาน หรือการดูแลสุขภาพ ชีวิตนับจากนี้ไปขอให้ทุกท่านได้รับแต่พรที่เป็นสิริมงคลและอำนวยโชคให้ท่าน และขอให้พรนั้นจงเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของทุกท่านตลอดไป
บ้านเมือง 8 มกราคม 2555