น.พ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุม "การถ่ายทอดยุทธศาสตร์การบริการพยาบาลระดับประเทศ พ.ศ.2556-2560" แก่หัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ศูนย์/สถาบันสังกัดกรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต โรงพยาบาลสังกัดภาครัฐอื่น ได้แก่ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม ทบวงมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 750 คน เกี่ยวกับการเตรียมพยาบาลเข้าสู่ประชาคมอาเซียนว่า ตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล มีนโยบายสนับสนุนให้ภาครัฐ เช่น โรงเรียนแพทย์ เป็นศูนย์กลางผลิตบุคลากรคุณภาพ และมีวิทยาการทางการแพทย์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างภาพพจน์ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้า สามารถแสดงให้เห็นว่ามีการผ่าตัดยากๆ หรือรักษาโรคที่ยากๆ ในประเทศได้ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ และเดินทางเข้ามารักษาในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนในเรื่องของเมดิคัล ฮับ ทางอ้อมด้วย
"ต่อไปเราอยากให้คนในภูมิภาคนี้ คิดถึงว่าจะรักษาอะไรยากๆ ต้องมาประเทศไทย ไม่ต้องบินไปรักษาในต่างประเทศ ประเทศไทยเป็นยุทธศาสตร์ สิ่งที่เราจะทำคือสร้างชื่อเสียงให้ประเทศว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้" น.พ.ประดิษฐ์ กล่าว
น.พ.ประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ในการพัฒนาก้าวไปสู่เป้าหมายดังกล่าว จะต้องมีการวางแผน กำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศก่อนว่า ในความก้าวหน้าทางการแพทย์ สิ่งที่เราจะสร้างนั้น เราต้องหาจุดขายของประเทศก่อน เช่น ประเทศเกาหลีสร้างยุทธศาสตร์ในเรื่องความงามหรือคอสเมติก ส่วนของไทยอาจจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีการรักษาโรคยากๆ จะต้องมาประเทศไทย เนื่องจากเรามีแพทย์ผู้ชำนาญ จากนั้นจึงวางแผนเรื่องงบประมาณและเทคโนโลยีตามยุทธศาสตร์นั้นๆ ซึ่งเราคงไม่สามารถสร้างประเทศไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยีทุกด้านได้
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555