แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - story

หน้า: 1 ... 464 465 [466] 467 468 ... 535
6976
จากข่าวหน้าหนึ่งที่อดีตนาง​เอก​และรองนางสาว​ไทย อรัญญา นามวงศ์ ​เกิดอา​การกล้าม​เนื้ออ่อน​แรง ​และปาก​เบี้ยว ระหว่างรับประทานอาหารกับครอบครัวอย่างกะทันหัน จนต้องหามส่ง​เข้ารับ​การรักษาอย่าง​เร่งด่วน ​แพทย์วินิจฉัยว่าสา​เหตุหลัก​เกิดจาก​ความดัน​โรคหิตสูง​เป็น​เวลานาน​และควบคุม​ไม่ดี ​ทำ​ให้​เส้น​เลือด​ในสมองซีกขวา​แตก ​เกิด​เป็นก้อน​เลือดคั่ง​ในสมอง ​หรือภาษา​แพทย์​เรียกว่า "​เลือดออก​ในสมอง" ​ซึ่งอา​การของ​โรค ดังกล่าวมักจะ​เกิดกับ​ผู้สูงอายุ 40 ปีขึ้น​ไป ที่มีภาวะของ​โรค​ความดัน หัว​ใจ ​เบาหวาน ​ไขมัน​ใน​เลือดสูง

ภาวะ​เลือดออก​ในสมอง ส่วน​ใหญ่​เกิดขึ้นจากสา​เหตุหลัก คือมี​การ​แตกของ​เส้น​เลือด​ในสมองขนาด​เล็ก ​เนื่องจาก​การ​เสื่อมสภาพของหลอด​เลือด มี​การ​เปลี่ยนสภาพของภาวะสมองขาด​เลือด ​และ​ทำ​ให้มี​เลือดออก​เกิดจากพยาธิสภาพที่ผิดปกติ ​เช่น ภาวะ​เส้น​เลือดขอด​ในสมอง ​เนื้องอก​ในสมองกดทับ ​เป็นต้น ประสบอุบัติ​เหตุ สมองขาดออกซิ​เจน ​เนื่องจากมีอา​การชัก หยุดหาย​ใจ ​ผู้ที่มีภาวะหลอด​เลือดหัว​ใจอุดตัน

สำหรับ ปัจจัย​เสี่ยง ที่​ทำ​ให้​เกิดภาวะ​เลือดออก​ในสมอง ​ได้​แก่ ​โรค​ความดัน​โลหิตสูง ​โรคที่มี​ความผิดปกติของ​การ​แข็งตัวของ​เลือด จาก​การกินยาที่ช่วย​ไม่​ให้​เลือด​แข็งตัว ​ไม่ควบคุม​โรค​เบาหวาน ​โรค​ไขมัน​ใน​เส้น​เลือดสูง ​ผู้ที่มี​ความ​เข้มข้นของ​เลือดสูง ​เช่น ​ผู้ที่กินอาหารรสจัด ​ผู้ที่​เป็น​โรค​เส้น​โลหิต​เปราะบาง ​เช่น ​ผู้ป่วยที่กิน​แอส​ไพริน​เป็น​เวลานาน

ส่วน ​แนวทาง​การรักษา​โดยปกติทั่ว​ไป​แล้ว ​เมื่อ​เกิดภาวะ​เลือดออก​ในสมองส่วน​ใหญ่จะ​ให้​การรักษา​โดย​การ​ใช้ยา​เป็น​เบื้องต้น ​แต่​ก็มี​ผู้ป่วย​เป็นจำนวน​ไม่น้อย ที่จะต้องรับ​การรักษา​โดย​การผ่าตัด ​การผ่าตัดมี 2 วิธีที่นิยม​ทำกัน คือ ​การผ่าตัด​เปิดกะ​โหลกศีรษะ ​เพื่อผ่าตัด​เอาก้อน​เลือด​ในสมองออก วิธี​การ​ใช้​เจาะดูดก้อน​เลือด​ในสมองด้วย​เทคนิคนำวิถี

สำหรับศาสตร์ของ​แพทย์​แผนจีน คิงส์ตัน ซี ฮาว อุย ​แพทย์จีนด้าน​การฝัง​เข็มฟื้นฟูระบบประสาท ​เปิด​เผยว่า ภาวะ​เลือดออก​ในสมอง ​เกิดจาก​ความ​เครียด ​หรือ​ผู้ที่มี​ความดัน​โลหิตสูง​และ​ไม่​ได้ควบคุม ตามศาสตร์​แผนจีน​แบ่ง​ผู้ป่วย​เป็น 2 ประ​เภท คือ 1 ​เรียกว่า "​ผู้ที่มีตับหยาง​แกร่ง" ​ซึ่งจะผลัก​ให้​เป็น​โรค​ความดัน​โลหิตสูง

สา​เหตุของ​การ​เกิด "ตับหย่าง​แกร่ง" ​เกิดจากคนที่มี​ความ​เครียดสูง ​เจ้าอารมณ์ ขี้​โม​โห คิด​เล็กคิดน้อย 2 ​เรียกว่า "หยินพร่อง" สา​เหตุของ​การ​เกิด "หยินพร่อง" อาจ​เกิดจาก​การพักผ่อน​ไม่​เพียงพอ นอนดึก อดนอน ​ในกรณี​ผู้สูงอายุอาจจะ​เกิดจาก​การมี​เพศสัมพันธ์ที่มาก​เกิน​ไปด้วย รวม​ทั้ง​ผู้ที่ชอบกิน​เหล้า กินอาหาร​ไขมันสูง ขาด​การออกกำลังกาย
หลังจาก​การวินิจฉัย​แล้ว​แบ่งอา​การของ​โรค​เป็น 2 ประ​เภท

ประ​เภทที่ 1 ​โท๊ะ​เจิ่น (ปล่อย) จะ​ทำ​ให้​เกิดอา​การน้ำลายยืด มือข้าง​ใดข้างหนึ่งอ่อน​แรง มือปล่อยค้าง​ไม่มี​แรง ยกขา​ไม่ขึ้น กลั้นปัสสาวะ​ไม่​ได้

ประ​เภทที่ 2 ปิ๊​เจิ่น (ปิดกั้น) จะ​เกิดอา​การมือ​เกร็งข้าง​ใดข้างหนึ่ง กลืน​ไม่​ได้ ลิ้น​แข็ง ปากปิด​ไม่สามารถพูด​ได้ นอน​ไม่หลับ ขาก้าว​ไม่ออก

​แพทย์จีน คิงส์ตัน ซี ฮาว อุย กล่าวว่า ​การรักษาตามศาสตร์ของ​แพทย์จีนจะรักษาด้วย​การฝัง​เข็ม​และ​ใช้ยาสมุน​ไพรจีนร่วมรักษา ​โดยจะมีช่วง​เวลาทองคำ คือช่วงของ​การรักษา​ผู้ป่วยที่มีอา​การ​เลือดออก​ในสมองที่มีอา​การมา​แล้ว 2 อาทิตย์-6 ​เดือน จะมี​โอกาสฟื้นฟู​ได้ดี​และมี​โอกาสหาย​ได้​ไว ​ซึ่ง​ผู้ที่มีอา​การมานานกว่า 6 ​เดือน​ก็สามารถ​เข้ารับ​การรักษา​ได้ ​ซึ่งระยะ​เวลา​การรักษาจะขึ้นอยู่กับอา​การของคน​ไข้​และ​การวินิจฉัย ​ผู้ที่มีอา​การหนักจะต้อง​เข้ามาฝัง​เข็มอย่างต่อ​เนื่อง​ถึง 6 วันต่อสัปดาห์

สำหรับ​ผู้สูงอายุ​หรือ​ผู้ที่มี​โรคหัว​ใจ​และ​ความดัน​โลหิตสูง ควร​ไปพบ​แพทย์​เพื่อตรวจร่างกาย​เป็นประจำทุกปี ​และควรหลีก​เลี่ยงอาหาร​ไขมันสูง รสจัด รวม​ทั้งออกกำลังกายสม่ำ​เสมอ ​ก็จะมีสุขภาพ​แข็ง​แรงห่าง​ไกล​โรคภัย​แน่นอน

บ้าน​เมือง  8 ตุลาคม 2554

6977
การดำ​เนินงานด้าน​การสร้าง​เสริมสุขภาพ​เป็นหน้าที่หลักของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ​แห่งชาติที่ดำ​เนิน​การควบคู่​ไปกับน​โยบาย​การ​การป้องกันรักษา​โรคของกระทรวงสาธารณสุข ​เพื่อ​ให้ประชาชน​ได้รับประ​โยชน์​และ​เข้า​ถึง​การบริ​การมากที่สุด ​แม้รัฐบาลจะผ่าน​ไปกี่ยุคสมัย​แต่​เป้าหมายหลักของ สปสช.​ก็ยัง​เป็น​การ​ทำงาน​เพื่อดู​แลป้องกันสุขภาพประชาชน​ให้ห่าง​ไกลจาก​โรคร้าย​โดย​ไม่ต้อง​แบกรับค่า​ใช้จ่าย ​และพัฒนาคุณภาพชีวิต​ผู้ป่วย​ให้อยู่อย่างมี​ความสุข​ไม่​เป็นภาระครอบครัว​และสังคม

น.พ.วินัย สวัสดิวร ​เลาขาธิ​การสำนักงานหลักประกันสุขภาพ​แห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สำหรับทิศทาง​การดำ​เนินงานของ สปสช.​ในปี 2555 ยังมี​เป้าหมาย​ใน​การ​ทำงานด้าน​การส่ง​เสริมสุขภาพของประชาชน ​การสร้างหลักประกัน​ให้ทุกคนสามารถ​เข้า​ถึงบริ​การด้านสุขภาพ​ได้ตาม​ความจำ​เป็น ​และ​ไม่ล้มละลายจาก​การ​เจ็บป่วย ด้วยบริ​การที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ​และประชาชนพอ​ใจ ​โดยคำนึง​ถึง​เกียรติ​และศักดิ์ศรีของประชาชนทุกคนอย่าง​เท่า​เทียมกัน รวม​ถึง​ให้​ความสำคัญกับ​การป้องกันรักษาสุขภาพของตน​เอง ​และพัฒนาระบบ​การบริหารจัด​การ​ให้มี​ความคล่องตัวรวด​เร็ว ​และ​การกระจายงบประมาณอย่างทั่ว​ถึง รวม​ทั้ง​การจัดกิจกรรมตาม​แนวพระพระราชดำริ​และ​โครง​การ​เฉลิมพระ​เกียรติ ​เพื่อ​เทิดพระ​เกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

อย่าง​ไร​ก็ตามที่ผ่านมา สปสช.​ได้มี​การจัด​โครง​การ​เทิดพระ​เกียรติพระบาทสม​เด็จพระ​เจ้าอยู่หัว ​ในวาระต่างๆ ​เป็น​โครง​การต่อ​เนื่อง ​เพื่อ​ให้​ผู้ป่วย​และ​ผู้พิ​การที่ยาก​ไร้​ได้มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น ห่าง​ไกลจาก​ความพิ​การ ​และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อาทิ ​โครง​การผ่าตัดปลูกถ่ายตับ​ใน​เด็กที่มีภาวะตับวาย​แต่กำ​เนิด​เพื่อร่วม​เฉลิมพระ​เกียรติ​ใน​โอกาสครบรอบ 84 พรรษาของพระบาทสม​เด็จพระ​เจ้าอยู่หัว ​เป็น​การช่วย​เหลือ​ผู้ป่วย​เด็ก​โรคท่อน้ำดีตีบตันตั้ง​แต่กำ​เนิด (Biliary atresia) ​ซึ่ง​ใน​แต่ละปีมี​เด็กที่จำ​เป็นต้อง​ได้รับ​การผ่าตัดปลูกถ่ายตับประมาณ 30-40 รายต่อปี ​โครง​การจัดหา​และบริ​การดวงตา​เพื่อ​เฉลิมพระ​เกียรติพระบาทสม​เด็จพระ​เจ้าอยู่หัว ทรง​เจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา ตั้ง​แต่ปี 2552-2556 ​โดยจะ​ให้บริ​การดวงตาสำหรับ​ผู้ที่ต้อง​การปลูกถ่ายกระจกตา ​และอบรม​การ​เจรจา ​การจัดหา ​การจัด​เ​ก็บ ​การจัดสรร ​และ​การจัดหาดวงตา ​เพื่อ​ให้หน่วยงานที่​เกี่ยวข้อง​ได้รับทักษะ​ความรู้ ​เทคนิค ​และประสบ​การณ์​ใน​การพัฒนาระบบ​การจัด​เ​ก็บ ​การจัดสรรดวงตา ​และ​การจัดหา​ให้มีประสิทธิภาพ​และมีจำนวนที่​เพิ่มมากขึ้น ​เพื่อ​แก้​ไขปัญหา​ผู้ป่วยกระจกตาพิ​การ รวม​ถึงวิธี​การรักษาด้วย​การผ่าตัด​เปลี่ยนกระจกตา​โครง​การส่ง​เสริม สุขภาพ​และป้องกันภาวะตาบอดจาก​เบาหวาน ​เฉลิมพระ​เกียรติพระบาทสม​เด็จพระ​เจ้าอยู่หัว ​เนื่อง​ใน​โอกาสมหามงคล​เฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ​เพื่อ​ให้​ผู้ป่วย​เบาหวาน​ได้รับ​การตรวจหาภาวะ​แทรกซ้อนทางตา​และ​ผู้ป่วยที่มีภาวะ​แทรกซ้อนทางตา ​ได้รับ​การยิง​เล​เซอร์ป้องกันภาวะตาบอดจาก​เบาหวาน

​โครง​การผ่าตัด​เฉลิมพระ​เกียรติพระบาทสม​เด็จพระ​เจ้าอยู่หัว 84 พรรษา ​เพื่อช่วย​เหลือ​ผู้ป่วยพิ​การบน​ใบหน้า​และกะ​โหลกศีรษะชนิดรุน​แรง ​โดยศูนย์สม​เด็จพระ​เทพรัตนฯ ​แก้​ไข​ความพิ​การบน​ใบหน้า​และกะ​โหลกศีรษะ ​โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาด​ไทย ​ซึ่ง​เป็นศูนย์ครบวงจร​แห่ง​แรก​ในประ​เทศ​ไทย​และ​เอ​เชียตะวันออก​เฉียง​ใต้ทางด้าน​การดู​แลรักษา​ผู้ที่มี​ความพิ​การบน​ใบหน้า​และกะ​โหลกศีรษะชนิดรุน​แรง (severe craniofacial deformities) ​เพื่อ​ให้​การรักษาผ่าตัด​ผู้ที่มี​ความพิ​การบน​ใบหน้า​และกะ​โหลกศีรษะชนิดรุน​แรงทั่วประ​เทศ​โดย​ไม่คิดค่า​ใช้จ่าย ​และ​โครง​การ​แพทย์ชนบทคืนถิ่น "​แพทย์​เวชศาสตร์ครอบครัว" ​เป็น​การมอบทุนศึกษาต่อ​ทั้ง​ใน​และต่างประ​เทศกับ​แพทย์​ในชนบทที่​เข้าร่วม​โครง​การ​เพื่อ​เพิ่มพูนพัฒนาทักษะ​การรักษาคน​ไข้ ก่อนกลับมาปฏิบัติงานชด​ใช้ทุน​ใน รพ.ชุมชน

น.พ.วินัย กล่าวว่า สำหรับ​การบริหารจัด​การระบบที่มี​เอกภาพ จะช่วยยกระดับ​การรักษา​ให้มีมาตรฐาน​และ​ความรวด​เร็ว​ใน​การ​ให้บริ​การ ​ผู้รับบริ​การจะ​ได้รับประ​โยชน์อย่างสูงสุด ​โดยมี​เป้าหมาย​ให้นาย​แพทย์สาธารณสุขจังหวัด​เป็น CEO ของ​เรื่อง​การ​เสริมสร้างสุขภาพ ส่วนองค์กรท้องถิ่นจะมีส่วน​ใน​การกำหนด​เป้าหมายงานสร้างสุขภาพ ​และกระจายงบประมาณลงสู่พื้นที่ สนับสนุน​ให้หน่วยบริ​การ​เอกชน​เข้าร่วม​ให้บริ​การ ​เพื่อลด​เวลา​การรอคิวรับ​การผ่าตัด​ใน​โรคที่สำคัญ ​เช่น หัว​ใจ มะ​เร็ง ต้อกระจก

นอกจากนี้ สปสช.ยัง​ได้จัดงบประมาณกว่า 90 ล้านบาท ​เพื่อจ่าย​เงินช่วย​เหลือ​เบื้องต้นกรณี​ผู้รับบริ​การ​ได้รับ​ความ​เสียหายจาก​การรับบริ​การสาธารณสุขตามมาตรา 41 รวม​ทั้งสนับสนุน​ให้มีกระบวน​การ​ไกล่​เกลี่ยระดับจังหวัด ผ่านกล​ไกภาครัฐ​และประชาชน ​โดยคาดว่าจะมี​ผู้​ได้รับ​การช่วย​เหลือจำนวนประมาณ 700 บาท

อย่าง​ไร​ก็ตาม หลายฝ่ายมี​ความกังวลว่า หากมี​การ​เ​ก็บค่าธรรม​เนียม 30 บาท​ใน​การรักษา จะ​เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่ยาก​ไร้​ใน​เรื่องดังกล่าว ทางคณะกรรม​การ สปสช.​และ​ผู้​เกี่ยวข้อง​ได้มีข้อสรุปว่า ​การ​เ​ก็บค่าธรรม​เนียม 30 บาทนั้นจะ​เน้น​ให้​ความ​เป็นธรรม​แก่ประชาชนมากที่สุด สำหรับกลุ่มที่​ได้รับ​การยก​เว้น คือ กลุ่มคนยากจน ​และกลุ่มที่ควรจะ​ได้รับ​การช่วย​เหลือ ​โดยขอ​ความร่วมมือจาก อสม. ​และ อบต.​ทำ​การสำรวจ​และจัดส่งฐานข้อมูล​เพิ่ม​เติม ​เพื่อ​ความสะดวกรวด​เร็ว​ใน​การตรวจสอบสิทธิ

อีก​ทั้งจะมี​การพัฒนาสถานบริ​การ​ใกล้บ้าน​ใกล้​ใจ ​ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่​เพื่อลด​ความ​แออัด​ใน ​โรงพยาบาลขนาด​ใหญ่ รวม​ทั้งพัฒนาระบบ​การส่งต่อ-รับกลับ​แบบ​ไร้รอยต่อ ​ซึ่ง​การบริหารจัด​การดังกล่าวจะ​ทำ​ให้ประชาชน​เข้า​ถึงบริ​การ​ได้อย่าง​เหมาะสม นอกจากนี้ สปสช.จะจัดสรรงบประมาณ​ให้กับหน่วยบริ​การต่างๆ ​เป็นจำนวน 329.65 บาทต่อหัว ผ่านกองทุน​การสร้าง​เสริมสุขภาพ ​เพื่อ​การพัฒนาระบบ​การสร้าง​เสริมสุขภาพ​แก่ประชาชน​ในพื้นที่อีกด้วย

น.พ.วินัย กล่าวว่า หากมีกรณีฉุก​เฉิน​เกิดขึ้น ​เมื่อ​เกิดภัยพิบัติ ​โรคระบาด ​และภัยสุขภาพ ทาง สปสช.​ได้มี​การ​เตรียมงบประมาณจากทุนสำรองกรณีฉุก​เฉินมีสามารถ​เบิกจ่าย​ได้ทันทีพร้อมกับ​เตรียม​แผนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ​และหน่วยงานที่​เกี่ยวข้อง​ในกรณี​เกิด​เหตุ​การณ์ที่​ไม่คาดฝัน​เกิดขึ้น

​การ​ทำงาน​เชิงรุกด้าน​การป้องกัน​เป็นอีกงานหนึ่งที่ทาง สปสช.​ได้ดำ​เนิน​การต่อ​เนื่อง ​โดย​เฉพาะ​การคัดกรอง​ผู้ป่วย​ใน​โรคต่างๆ ​เช่น ​เบาหวาน ​ความดัน​โลหิตสูง มะ​เร็งปากมดลูก รวม​ทั้ง​การส่ง​เสริม​ให้​เด็ก สตรี คนพิ​การ ​ผู้สูงอายุ รวม​ทั้ง​แรงงานต่างด้าว ​ได้รับ​การส่ง​เสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ​เช่น ​การ​ให้ยา​เม็ด​เสริม​ไอ​โอดีน​แก่สตรีตั้งครรภ์ ​การฉีดวัคซีน ฟื้นฟู​ผู้พิ​การ ​และส่ง​เสริม​ให้มี​การ​ใช้​แพทย์​แผน​ไทย​และ​การ​แพทย์ทาง​เลือก​ในระบบสาธารณสุขทุกระดับ ตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ​แห่งชาติ ​ซึ่ง​ในภาพรวมจะช่วยประหยัดค่า​ใช้จ่ายด้านยาของประ​เทศ ​และ​เป็น​การสนับสนุนภูมิปัญญา​ไทย

"ส่วน​การ​ให้​ความรู้​ความ​เข้า​ใจ​แก่ประชาชน​และ​ผู้​ให้บริ​การ​ได้รับรู้​ถึงสิทธิ​และหน้าที่ ​เพื่อ​การ​เข้า​ถึงบริ​การ​และช่วยลด​ความขัด​แย้ง​ในระบบริ​การ สุขภาพ ผ่านกล​ไกสื่อ​และประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม​เป้าหมาย รวม​ทั้งสื่อท้องถิ่น พัฒนาศูนย์บริ​การประชาชน​ให้​เป็น National Health Call Center ที่​เชื่อม​โยงกับบริ​การสายด่วนของรัฐ ด้านสุขภาพ ​และพัฒนา​เว็บ​ไซต์ของ สปสช. ​เพื่อ​เพิ่มช่องทาง​การ​เข้า​ถึงข้อมูลด้านบริ​การสุขภาพของประชาชน​และหน่วยบริ​การ ดังนั้น​การ​ให้​ความรู้​เรื่องสิทธิ​และข้อมูล​เป็น​เรื่องสำคัญที่จะช่วย​ให้​การดำ​เนินงาน​ในระบบประกันสุขภาพ​ไป​ในทิศทาง​เดียวกัน​ทั้ง​ผู้​ให้​และ​ผู้รับบริ​การ" น.พ.วินัย กล่าว

บ้าน​เมือง 8 ตุลาคม 2554

6978
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ​ได้สั่งระดมทีม​แพทย์ประมาณ 30 คนจาก จ.ราชบุรี มา​เปิด​โรงพยาบาลสนามขนาด 10-20 ​เตียง ​เพื่อบริ​การประชาชนบริ​เวณจุดอพยพที่อยู่ฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา​ในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วน​โรงพยาบาลสนามอีก 1 ​แห่งตั้งอยู่ที่วิทยาลัย​การอาชีพมหาราช​ได้​เปิด​ให้บริ​การ​แล้ว ​โดยจะดู​แลประชาชน​ในพื้นที่ อ.มหาราช ​และ อ.บางปะหัน

รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหา​ใหญ่ขณะนี้คือ​เรื่องของ​การ​เดินทาง ​เนื่องจากพื้นที่ส่วน​ใหญ่​เต็ม​ไปด้วยน้ำ ​แนว​โน้มระดับน้ำสูงขึ้นกว่า​เดิม ประชาชน​ไม่สามารถอาศัย​ในบ้าน​เรือน​ได้ กระทรวงสาธารณสุข​ได้​เปิดสายด่วน 1669 ​ให้ประชาชนที่​เจ็บป่วยฉุก​เฉิน​หรือ​แจ้งกลุ่ม​เสี่ยงติด​ในบ้าน​เรือน​เช่นหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด ​ผู้สูงอายุ ​ผู้พิ​การ ​ผู้ป่วยที่ช่วย​เหลือตน​เอง​ไม่​ได้ ตลอด 24 ชั่ว​โมง ตลอด​เมื่อคืนนี้​ได้รับ​แจ้งกว่า 1,000 สาย ​ได้ประสานจัดส่งรถกู้ชีพ รวม​ทั้งทีม​เจ้าหน้าที่อื่นช่วย​เหลืออย่าง​เต็มที่

ส่วน​โรงพยาบาลชุมชน​ใน จ.พระนครศรีอยุธยา​และจังหวัดอื่นๆ ขณะนี้​เปิด​ให้บริ​การประชาชน​ได้ตามปกติตลอด 24 ชั่ว​โมง ​และกำลัง​เร่งดำ​เนิน​การป้องกัน​โรงพยาบาลศูนย์ที่มี​ความ​เสี่ยงจะถูกน้ำท่วม ​ได้​แก่ ​โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ​และ​โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ​เพื่อ​ให้สามารถ​เป็นจุดรองรับ​ผู้ป่วยจากทุกอำ​เภอ ​โดย​ให้ทุก​แห่งสำรอง​เวชภัณฑ์​และออกซิ​เจน​เพื่อดู​แล​ผู้ป่วย ​ซึ่งส่วน​ใหญ่มีอา​การหนัก​ได้ประมาณ 2 สัปดาห์​เรียบร้อย​แล้ว

สำหรับผล​การออกหน่วย​แพทย์​เคลื่อนที่จน​ถึงวันนี้พบประชาชน​เจ็บป่วยสะสม 513,860 ราย ​เพิ่มวันละ​เกือบ 20,000 ราย พบ​ผู้มี​ความ​เครียดสูง 3,104 ราย ซึม​เศร้า 4,435 ราย ​เสี่ยงฆ่าตัวตาย 574 ราย ​และต้องติดตามดู​แลพิ​เศษ 863 ราย ดดยวันนี้ส่งยา​เพิ่มที่จังหวัดลำปาง ปทุมธานี ​และย​โสธร รวม 23,500 ชุด

ด้าน น.พ.​ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ​ได้ปรับ​แผน​ทำงาน​เพื่อรองรับสถาน​การณ์น้ำท่วม ​โดย​ให้​โรงพยาบาล​ในจังหวัดที่​ไม่ถูกน้ำท่วม จับคู่​ให้​การช่วย​เหลือ​โรงพยาบาลที่​เสี่ยงถูกน้ำท่วม​หรือถูกน้ำท่วม หากมี​ความ​เร่งด่วนมาก ​ให้​โรงพยาบาลจังหวัดข้าง​เคียงที่มีศักยภาพสูงรองรับ​ผู้ป่วย

หาก​เกิดกรณี​เร่งด่วนฉุก​เฉิน รวม​ทั้งจำ​เป็นต้อง​เคลื่อนย้าย​ผู้ป่วย​เข้า​ไปดู​แล​ใน กทม.​ให้​โรงพยาบาลราชวิถี กรม​การ​แพทย์ กทม.​เป็นศูนย์กลางประสาน​การรับส่งต่อ​ผู้ป่วยหนัก ​หรืออยู่​ในภาวะวิกฤติ ​เพื่อส่งดู​แล​ใน​โรงพยาบาลที่อยู่​ในสงกัด​ในกทม. ​หรือ​โรงพยาบาลนอกสังกัด ​เช่น ​โรง​เรียน​แพทย์ ​เป็นต้น

"วันนี้​ได้สั่ง​การ​ให้​โรงพยาบาล​ในจังหวัด​ใกล้​เคียงที่น้ำ​ไม่ท่วมจับมือช่วย​เหลือจังหวัดที่น้ำท่วม​ใน​การจัดหน่วย​แพทย์​เคลื่อนที่​เสริมตามจุดต่างๆ ​ในพื้นที่น้ำท่วม ​เพื่อผ่อน​เบาภาระของ​เจ้าหน้าที่ ​ซึ่งมี​ความ​เหนื่อยล้า" น.พ.​ไพจิตร์ กล่าว

อิน​โฟ​เควสท์  7 ตุลาคม 2554

6979
ชาวบ้านตื่น "แมงกะพรุน" นับล้านตัวบุกอ่าวสัตหีบ เตือนภัยนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำระวังแพ้พิษ เผยเคล็ดลับใช้ “ผักบุ้งทะเล” บดทาผิวหนังถอนพิษ หรืออาบน้ำจืดฟอกสบู่ก็หาย...

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดปรากฏการณ์ประหลาดในอ่าวสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อมีแมงกะพรุน ชนิดแมงกะพรุนถ้วย ลอยตัวกระจายในวงกว้างทั่วอ่าว ทำให้ชาวประมงน้ำตื้นจำนวนมากหวาดกลัว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำสะอาดในพื้นที่สัตหีบ โดยเฉพาะหาดกองเรือยุทธการ หาดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยาน อ่าวเตยงาม และอ่าวดงตาล ไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเลกัน แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางส่วนไม่กลัว เพราะรู้ว่าแมงกะพรุนถ้วยมีพิษไม่ร้ายแรง ถ้ามีอาการแพ้พิษก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองได้ โดยใช้ธรรมชาติบำบัด คือ ต้นและใบของผักบุ้งทะเล ที่กองทัพเรือปลูกอนุรักษ์ไว้ตามชายทะเลทั่วไปในพื้นที่อ.สัตหีบ

ภายหลังทราบข่าวว่ามีแมงกะพรุนนับล้านตัวบุกอ่าวสัตหีบ ทำให้นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ นำหัวหน้าส่วนราชการ โดยเฉพาะประมงอำเภอสัตหีบ ลงไปตรวจสอบบริเวณอ่าวดงตาล ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอสัตหีบ และทั่วๆไป ปรากฏว่าพบแมงกะพรุนชนิดถ้วย ลอยอยู่บนผิวน้ำเต็มไปหมด กำลังไล่จับสัตว์เล็กๆ เป็นอาหาร ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงช่วงระยะหนึ่งที่อ่าวสัตหีบเกิดความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก มีแพลงตอนเข้ามาในช่วงฤดูกาลที่น้ำเปลี่ยน ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ของสัตว์น้ำชายฝั่ง อีกทั้งสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง โขดหินแนวเกาะแก่งต่างๆ ในอ่าวสัตหีบ ก็จะเข้ามากินแพลงตอนจำนวนมาก ส่งผลให้ประมงชายฝั่งหาปลาไปเป็นอาหาร จำหน่ายเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยปรากฏการณ์นี้คงใช้เวลาประมาณ 10 วัน ถ้ามีการถ่ายเทน้ำลงมาก็จะหมดไป แมงกะพรุนจะย้ายไปหากินที่อื่นต่อไป

ขณะที่ พล.ร.ท.ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ อำเภอสัตหีบ กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 1 ดำเนินโครงการอนุรักษ์หญ้าทะเลตามแนวชายฝั่งทะเล เพื่อเป็นแหล่งอาหารของพะยูนที่หมุนเวียนเข้ามาตามฤดูกาลในอ่าวสัตหีบ อีกทั้งมีกองสนับสนุนกองเรือยุทธการที่รับผิดชอบอ่าว กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ รับผิดชอบหาดแหลมเทียน, หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน รับผิดชอบอ่าวเตยงาม, หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รับผิดชอบหาดเทียนทะเล ได้ร่วมกันปลูกและอนุรักษ์ผักบุ้งทะเลตามแนวชายหาดไว้จำนวนมาก เพื่อไว้แก้พิษร้ายจากแมงกะพรุนนานาชนิด โดยเฉพาะแมงกะพรุนไฟที่อันตรายที่สุด


"ผักบุ้งทะเล เป็นไม้ล้มลุกชนิดเถาเลื้อย ลำต้นทอดไปตามยาวบนพื้นดิน มักขึ้นใกล้ทะเล ผิวเถาเรียบสีเขียวและสีม่วง ใบเป็นรูปหัวใจ ปลายเว้าเข้าหากัน ตามเถาและใบมียางสีขาว ดอกจะออกเป็นช่ออยู่ตามง่ามใบ ช่อหนึ่งจะมีดอกอยู่ประมาณ 2-6 ดอก แต่จะทยอยกันบานทีละดอกเท่านั้น ลักษณะของดอกเป็นรูปปากแตร ยาวประมาณ 2.5 นิ้ว มีสีม่วงอมชมพู ม่วงอมแดง ชมพู หรือม่วง ผักบุ้งทะเลมีพิษ ถ้ารับประทานจะเกิดอาการเมา คลื่นไส้ วิงเวียน เพราะมีสารที่มีฤทธิ์ต้านฮีสตามีน หรือแอนตี้-ฮีสตามีน แต่สามารถยับยั้งพิษแมงกะพรุนและแมลงกัดต่อยได้ โดยใช้ใบและเถาล้างให้สะอาด จากนั้นนำไปตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำมาทาในบริเวณที่เกิดอาการบวมแดง เพียงไม่นานก็จะหายเป็นปกติ ถ้าจะให้ดีต้องอาบน้ำจืด ฟอกด้วยสบู่ด้วยก็จะดีมาก" พล.ร.ท.ชุมพลกล่าว

ด้านนายสมชาย จิตประจง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยเย็นฤดี ม.6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ซึ่งเป็นชาวประมงน้ำตื้นหากินแนวชายฝั่ง กล่าวว่า วันนี้มีเพื่อนๆบอกว่า มีปลากระบอกจำนวนมากเข้ามากินอาหารบริเวณหาดดงตาล หน้าที่ว่าการอำเภอสัตหีบ จึงได้นำอวนมาล้อมปลา ปรากฏว่าพบแมงกะพรุนถ้วยเป็นจำนวนมาก นับแสนนับล้านตัวภายในอ่าวสัตหีบ ซึ่งไม่เคยเห็นจำนวนมากอย่างนี้มาก่อน น่าจะเป็นลางบอกเหตุหรือปรากฏการณ์ในทะเล โดยเฉพาะคลื่นลมทะเลด้านนอกอาจรุนแรง หรืออาจเกิดภัยพิบัติ ซึ่งขณะที่ลงไปล้อมปลาก็เกิดอาการคันผิวหนังไปทั้งตัว โชคดีที่ตัวเองไม่แพ้พิษแมงกะพรุนถ้วย แต่ถ้าเป็นแมงกะพรุนไฟ อาจต้องเข้าโรงพยาบาลแน่นอน

ไทยรัฐออนไลน์ 8 ตค 2554

6980
  สพศท.ลั่นรับไม่ได้ผลประเมินเลขาฯ สปสช.ผลงานดีเยี่ยม ยันโดยรวมแย่ลง ระบบการบริหารเงินก็มีปัญหาอย่างแรง ส่งผลโรงพยาบาลสธ.ขาดทุนทั่วประเทศ เสนอเปลี่ยนเลาขาฯคนใหม่
   
       พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) หรือ (สพศท.) กล่าวถึงกรณีบอร์ด สป.สช.คณะเดิมได้เร่งประเมินผลงานของ นพ.วินัย สวัสดิวร เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2554 นี้ โดยได้จ้างบริษัทเอกชนทำการประเมิน สรุปว่า ผลงานดีเยี่ยม นั้น ว่า พวกเราชาว รพศ./รพท.ยอมรับไม่ได้ เพราะผลงานหลายปีที่ผ่านมาของเลขา สปสช.ท่านนี้

1.ทำให้ประชาชนได้รับบริการที่แออัดกว่าเดิม ยาก็ไม่ดีขึ้น รพ.มหาวิทยาลัยก็เลิกรับคนไข้บัตรทอง ส่งต่อก็ยากขึ้น ทุกอย่างโดยรวมแย่ลง
       
2.ระบบการบริหารเงินก็มีปัญหาอย่างแรง ล้มเหลวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์โดยไม่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจประเทศ หรือรัฐบาลเลยเป็นผลงานของท่านล้วนๆ ทำให้ รพ.ของ สธ.ขาดทุนล่มจมทั่วประเทศ มีเงินค้างท่ออยู่ใน สปสช.มากมหาศาลทุกปี อยากทำโครงการเอาหน้าอะไรก็ทำ โดยมีปัญหามากเกินบรรยายถ้าฝีมือดีเยี่ยมทำได้แค่นี้ “ไม่แก้ปัญหาชาวบ้าน สร้างแต่ปัญหาให้โรงพยาบาล” จะสนองนโยบาย “ยกเครื่อง สปสช.” ได้อย่างไร
       
       “ขอให้กำลังใจท่าน รมต.วิทยา ที่จะมายกเครื่อง สปสช.ใหม่ แต่น่าเป็นห่วงแทนท่านถ้ายังจะใช้บริการ เลขาฯ สปสช.คนเดิม ขอสนับสนุนให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่มีคุณภาพและคุณธรรมมากกว่านี้ ระบบสาธารณสุขถึงจะรอดขอตั้งข้อสังเกตด้วยว่าถ้าดีจริงควรให้บอร์ดใหม่ประเมินด้วย และถ้าให้ประชาชนและ รพ.ทั่วประเทศร่วมประเมินด้วยก็จะโปร่งใสอย่างยิ่ง ไม่น่ารีบร้อน ดูน่าเคลือบแคลงว่างุบงิบชงเองกินเองอีกหรือเปล่า” พญ.ประชุมพร กล่าว

ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 ตุลาคม 2554

6981
    เมื่อเวลา 03.20 น. ร.ต.อ.วินัย คำสุข พนักงานสอบสวน(สบ 1) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุชายตกจากที่สูง เหตุเกิดภายใน รพ.วิชัยยุทธ ถ.พระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
    ที่เกิดเหตุบริเวณพื้นระหว่างตัวอาคารผู้ป่วยกับอาคารจอดรถ พบศพนายรัชภาคย์ เต็มนิธิรัตน์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 385/36 ถนนประชานฤมิตร เขตบางซื่อ กทม. สภาพศพนอนหงาย สวมชุดผู้ป่วยของ รพ.วิชัยยุทธ แขนขาหักผิดรูป ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
    จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคมะเร็ง และเป็นคนไข้ประจำที่ รพ.วิชัยยุทธ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้ามารักษาตัวซึ่งแพทย์ให้นอนพักที่รพ.เพื่อรอดูอาการ โดยผู้ตายพักอยู่ที่ห้อง 816 ชั้น 8 ก่อนเกิดเหตุผู้ตายตัดสินใจขึ้นไปบริเวณชั้น 15 ก่อนกระโดดลงมาเสียชีวิตดังกล่าว
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะเกิดความเครียด เนื่องจากป่วยเป็นโรคร้าย จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำส่งชันสูตรอย่างละเอียดต่อไป

เนชั่นทันข่าว  7 ตค. 2554

6982
    ที่บริเวณสามแยกบางพาน ถนนสายเอเชีย ทางต่างระดับเข้าเมืองสิงห์บุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ได้นำบ้านน๊อกดาวน์ ทำเป็นสุขศาลาชั่วคราว ไปตั้งให้บริการผู้ประสบภัยที่เจ็บป่วย ซึ่งเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวของประชาชนในชุมชนบ้านบางพาน อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี จำนวนประมาณ 150 ครัวเรือน ที่บ้านน้ำท่วมจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ต้องอพยพมาอยู่บนถนน
    นายแพทย์นิรันทร์รัชต์ พิชญาคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า การออกไปตั้งสุขศาลาให้บริการประชาชนที่ประสบภัยในครั้งนี้ว่า เป็นแห่งที่ 4 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดตั้งขึ้นไว้บริการประชาชนที่ประสบภัย ที่มารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ 100 ครัวเรือนขึ้นไป โดยในการสำรวจเบื้องต้นมีทั้งหมด 8 จุด ที่เป็นจุดใหญ่ที่ประชาชนอาศัยอยู่รวมกัน ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ก็จะไปตั้งจุดบริการรักษาพยาบาลให้ครบทั้ง 8 แห่ง โดยในแต่ละสุขศาลาจะมีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันไปประจำเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่เจ็บป่วยในเบื้องต้น 24 ชั่วโมง

เนชั่นทันข่าว  6 ตค. 2554

6983
"วิทยา” ส่งหน่วยแพทย์ดูแลผู้ประสบภัยที่จุดอพยพใหญ่ ที่อยุธยา และตั้งโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง ปักหลักบริการ 24 ชั่วโมง

เย็นวันนี้ (6 ตุลาคม 2554)นายวิทยา  บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ซึ่งจัดว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ น่าห่วง โรงพยาบาลชุมชนหลายแห่งของกระทรวงสาธารณสุขได้รับผลกระทบ เนื่องจากระดับน้ำท่วมโดยรอบโรงพยาบาลสูงขึ้นเรื่อยๆ

          นายวิทยากล่าวว่า วันนี้จังหวัดได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่  ไปที่อาคารพาณิชย์ ต.ธนู อ.อุทัย ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับประชาชนได้ประมาณ 1,000 ครอบครัว โดยมีประชาชนจาก อ.บางปะหัน อ.มหาราช อ.พระนครศรีอยุธยา อ.นครหลวง ทยอยเดินทางเข้ามาพัก กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์ 1 ทีม จากโรงพยาบาลอุทัย ไปประจำการ เพื่อดูแลสุขภาพผู้ประสบภัย และดูแลความสะอาดสุขาภิบาล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด ตลอด 24 ชั่วโมง

          สำหรับพื้นที่อ.บางปะหัน และที่มหาราช ขณะนี้พื้นที่เต็มไปด้วยน้ำ  ประชาชนเดินทางยากลำบาก  กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดโรงพยาบาลสนาม 1 จุดที่วิทยาลัยการอาชีพมหาราช ตำบลบ้านฝาน อ.มหาราช ซึ่งเป็นจุดอพยพชาวบ้านด้วย เพื่อดูแลประชาชนในอ.บางปะหันและอ.มหาราช โดยมีแพทย์ประจำการ 3 คน พยาบาลและเจ้าหน้าที่อื่นๆรวมทั้งหมด 30 คน มีเตียงผู้ป่วย 10 เตียง ให้บริการเหมือนโรงพยาบาลชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้รับบริการสะดวกขึ้น คาดจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป  โดยมีรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมนำส่งผู้ป่วย 1 คัน

สำหรับโรงพยาบาลบางปะหันขณะนี้ น้ำท่วมทางเข้าโรงพยาบาลสูงประมาณ 2 เมตร กระแสน้ำเชี่ยว อันตรายมาก ปิดให้บริการผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในชั่วคราว คงให้บริการเฉพาะฉุกเฉิน และส่งทีมแพทย์ออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยเรื้อรังทุกวัน ส่วนที่โรงพยาบาลมหาราช  เส้นทางเข้าออกโรงพยาบาลถูกตัดขาด เพราะน้ำท่วมสูง แต่ยังเปิดให้บริการได้ตามปกติ  มีเรือรับส่งผู้ป่วยถึงบ้าน     

          ผลการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 3,693 ทีม มีผู้เจ็บป่วยสะสม 493,987 ราย พบโรคน้ำกัดเท้ามากที่สุด รองลงคือไข้หวัด ผลการตรวจสุขภาพจิตใน 33 จังหวัด พบต้องติดตามพิเศษจำนวน 812 ราย จัดส่งยาช่วยน้ำท่วมแล้ว 1,223,700 ชุด สำรองไว้อีก 500,000 ชุด สำรองเซรุ่มแก้พิษงู 3,500 ชุด

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์  6 ตุลาคม 2554

6984
AFP ตีข่าว ไทยแจกถุงยางอนามัยให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า

          วันนี้ ( 5 ตุลาคม) สำนักข่าวเอเอฟพีได้ตีข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยได้นำเฮลิคอปเตอร์ 5 ลำ บรรทุกยา เสบียงอาหาร และถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับประชาชนใน 7 พื้นที่ของจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรง โดยในถุงยังชีพนั้นมีถุงยางอนามัยบรรจุอยู่ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า และจะทำให้ในอนาคตมีเด็กเกิดใหม่อีกจำนวนมาก

          โดยเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติคนหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า มีอาสาสมัครในพื้นที่บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ในช่วงน้ำท่วมเช่นนี้ ชาวบ้านไม่มีอะไรทำ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า จึงต้องมีการแจกจ่ายถุงยางอนามัยให้กับชาวบ้านด้วย

          อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขของไทยยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

          ทั้งนี้ พายุฝนที่ตกกระหน่ำได้ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงซึ่งกระทบต่อพื้นที่ 3 ใน 4 ของประเทศไทย รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยด้วย โดย ณ วันที่ 5 ตุลาคมนี้ เหตุอุทกภัยได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 237 คน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

6985
ห้ามโรงพยาบาลเจ๊งและไม่ให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
หมอถูกบีบคั้นขนาดนี้ แล้วผู้ป่วยจะพึ่งใคร?
 
  จากข่าวในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๔ พาดหัวข่าวตัวใหญ่ว่า “วิทยา”กร้าว ปี 2555 ห้าม รพ.เจ๊ง  และให้ สสจ.คุมเข้มใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

  ในขณะที่บอร์ด สปสช.ได้รับทราบผลการดำเนินงานของเลขาธิการ สปสช.ว่าได้คะแนนในระดับดีมาก 

   สองข่าวนี้ ทำให้แพทย์ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ช็อคไปตามๆกัน เนื่องจากว่า สปสช.จ่ายเงินให้โรงพยาบาลไม่ครบตามงบประมาณที่ สปสช.ได้รับมาจากสำนักงบประมาณ  ทำให้โรงพยาบาลเจ๊งทั้งประเทศ แต่ เลขาธิการ สปสช.กลับได้รับการประเมินว่ามีการทำงานเป็นระดับเกรดเอ (ดีเยี่ยม) สผพท. จึงใคร่ขอรายละเอียดการประเมินเลขาธิการ สปสช.จากประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (นายวิทยา บุรณศิริ)  ว่าองค์กรที่ทำการประเมินนั้นเชื่อถือได้หรือไม่  มีเกณฑ์การประเมินอย่างไร  ประเมินทุกมิติหรือไม่ ทำไมโรงพยาบาลจึงยังร้องว่าขาดทุนอยู่

  ทั้งนี้จากข่าวในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจหน้า ๑๒ วันที่ ๖ ต.ค. ๕๔ มีข่าว พาดหัวตัวใหญ่ว่า รพ.จี้ สปสช.จ่ายเงินค้างท่อ ๔,๐๐๐ ล้านบาท ( ที่จริงในรายละเอียดของข่าว เงินค้างท่อนี้เป็นจำนวนเงินเกือบ ๔๐,๐๐๐ล้านบาท)ทั้งนี้ในการประชุม  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่นายวิทยา บุรณศิริ  เป็นประธานเปิดรับฟังความคิดเห็นจาก ผอ. คุณหมอประเสริฐ ขันเงิน ผู้อำนวยการพ.พระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก บอกว่า สปสช.จัดสรรเงินไม่เป็นธรรม แยกย่อยออกไปเป็นถึง ๑๒ กองทุน(ซึ่งใช้เกี่ยวกับโรคยุ่งยากราคาแพง และเงินนี้จะกองอยู่ที่สปสช.ทั้งหมด ประมาณเกือบครึ่งของเงินกองทุนทั้งหมดประมาณ ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท มีเงินค่ารักษาผู้ป่วยส่งไปโรงพยาบาลเพียง ประมาณ ๕๓,๐๐๐ล้านบาท)เป็นเหตุให้ โรงพยาบาลได้รับเงินไม่ครบ

  ในปี ๒๕๕๔  รัฐบาลให้งบเหมาจ่ายรายหัวมาเกือบ ๒,๕๐๐ บาทต่อหัว แต่เงินค่ารักษามาถึงรพ.แค่ ๒๐๐-๑,๖๐๐บาท (ขึ้นกับจำนวนประชากรของจังหวัดนั้นๆ) และเมื่อรพ.เรียกเก็บค่ารักษาไป สปสช.ก็จ่ายเงินไม่ครบทุกครั้ง ทุกแห่ง
   เช่นโรงพยาบาลพุทธชินราช เรียกเก็บเงินไป  ๙๔๘ ล้านบาท แต่ สปสช.จ่ายมา ๔๙๙ล้านบาท  ถ้าดูภาพรวมทั้งประเทศ รพศ./รพท. เรียกไป ๓๗,๐๒๖ล้านบาท  แต่ สปสช. จ่ายให้เพียง ๑๗,๖๓๖ ล้านบาท   ส่วนรพ.ชุมชนเรียกเก็บ ๓๐,๔๗๓ล้านบาทแต่สปสช.จ่ายให้เพียง ๒๓,๐๐๐ล้านบาท

   ฉะนั้นจะเห็นว่าสปสช.ค้างจ่ายเงินแก่รพ.สธ.เป็นจำนวนถึง๒๖,๘๖๓,ล้านบาท .ในเวลาเพียง ๑ ปี

ส่วน นายแพทย์ชูศักดิ์ เอื้อวิจิตรพนา ผอ. รพ.เพชรบูรณ์ รับว่า กองทุนสปสช.มีปัญหาในการเบิกจ่ายอย่างมาก ดังนั้นเห็นว่าในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ นี้ สปสช.ควรโอนเงินให้รพ.เต็มจำนวนล่วงหน้า ไม่ใช่รอให้เกิดปัญหาติดขัด และมองว่าที่ผ่านมา สปสช.แบ่งเงินไว้ที่สปสช.มากเกินไป ทำให้มีเงินเหลือไปถึงรพ.ไม่เพียงพอต่อการทำงาน

 แต่แทนที่รัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะไปกวดขันสปสช.และสั่งการให้สปสช.แก้ไขปัญหาการบริหารเงินให้ถูกต้องและใช้หนี้เก่าให้หมด ตามที่ควรจะเป็น แต่นายวิทยา บุรณศิริ กลับมาสั่งโรงพยาบาลห้ามเจ๊ง  ทั้งๆที่รพ.ทั้งหลายเจ๊งจนจะล้มละลายอยู่แล้ว แต่ในฐานะรัฐมนตรีมีหน้าที่แก้ปัญหารพ.เจ๊ง และลูกน้องรมว.สธ.ก็บอกสาเหตุการเจ๊งของรพ.มาแล้วว่าเป็นเพราะอะไรแทนที่จะไปจัดการกับต้นตอของปัญหา กลับมาหาว่ารพ.ฟุ่มเฟือย ขอถามรัฐมนตรีหน่อยว่ารพ.จนกรอบแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปฟุ่มเฟือย(วะ)

พวกบุคลากรลูกน้องรัฐมนตรี สงสัยว่าจะเป็นเทวดาหรือไง   เงินที่จะใช้รักษาประชาชนก็ไม่มี แถมผู้ป่วยก็ห้ามตาย ถ้าตาย จะออกพ.ร.บ.มีดหมอ มาเชือดหมอ  โรงพยาบาลเจ๊งอยู่แล้ว  ก็ยังมาบอกว่าห้ามเจ๊ง
  ......หมอที่เป็นลูกน้องรัฐมนตรี ยังถูกบีบคั้นขนาดนี้จากรัฐมนตรีแล้วผู้ป่วยจะหันหน้าไปพึ่งใคร???

สหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.)
6 ต.ค 54

6986
ผู้สื่อข่าวรายงานสถาน​การณ์น้ำท่วม​ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ช่วง​เช้าวันนี้(6 ต.ค.) น้ำ​ได้​ไหล​เข้าบริ​เวณ​โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ​ทำ​ให้นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข(สธ.) ​จึงสั่ง​การ​ให้​ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ​เร่งประ​เมินสถาน​การณ์ ​และขนย้าย​ผู้ป่วยบางส่วนจาก​แล้ว รวม​ทั้ง​ให้ย้าย​เครื่องปั่น​ไฟ ​และ​เครื่องมือที่จำ​เป็นทาง​การ​แพทย์ ​เช่น ​เครื่องช่วยหาย​ใจ ​เครื่อง​เอ็กซ​เรย์ รวม​ทั้ง​เครื่อง​เอ็กซ​เรย์สมอง ขึ้น​ไปอยู่​ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วม

ด้านกรมป้องกัน​และบรร​เทาสาธารณภัย(ปภ.) ​ได้ประกาศยก​เลิก​การอพยพประชาชน ​ไปยังสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา​แล้ว ​เนื่องจากน้ำ​ไหลทะลัก​เข้าท่วมบริ​เวณรอบนอก ​และจ่อทะลัก​เข้าท่วมภาย​ในสนามกีฬา​และน้ำ​ได้​เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวด​เร็ว ​โดยพบพื้นที่​ทั้งจังหวัดถูกน้ำท่วม​ไป​แล้วกว่า 80% ขณะ​เดียวกันน้ำ​ได้​เอ่อล้นทะลัก​เข้าท่วมตลาดน้ำอ​โยธยา ​แหล่งท่อง​เที่ยวชื่อดัง ส่งผล​ให้บริ​เวณตลาด​ได้รับ​ความ​เสียหายอย่างหนัก

ขณะ​เดียวกันน้ำ​ได้​ไหล​เข้าท่วมถนนสาย​เอ​เชีย ช่วงบางปะหัน-อ่างทอง ​ทำ​ให้รถติดยาว​เหยียดหลายกิ​โล​เมตร​ทั้งขา​เข้า​และออก ล่าสุดรถติดยาวกว่า 30 กิ​โล​เมตร

​แนวหน้า  6 ตุลาคม 2554

6987
สธ.สร้างเจ้าหน้าที่-อสม.มืออาชีพ 160,000 คน พร้อมบำบัดผู้ติดยาเสพติดทั่วไทย
       
       สาธารณสุขพร้อมให้การบำบัดรักษาผู้ติด ผู้เสพยาเสพติดทั่วประเทศแล้ว โดยสนับสนุนศูนย์บำบัดฟื้นฟูทุกอำเภอ และ กทม.ทุกเขตรวม 928 แห่ง ตั้งเป้าในปี 2555 จะบำบัดให้ได้ 400,000 คน และหลังผ่านการบำบัดแล้วจะให้พลัง อสม.160,000 คน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านยาเสพติด ทำหน้าที่ติดตาม เฝ้าระวังไม่ให้กลับมาติดยาซ้ำครอบคลุมทั้ง 84,954 หมู่บ้านทั่วไทย ชี้ขณะนี้ไทยมีผู้เสพยาสูงกว่ามาตรฐานสากลถึง 6 เท่าตัว
       
       วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี-รังสิต กทม. นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดปฏิบัติการนำผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลแห่งแรก ตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด “เพื่อคืนบุตรหลานให้ครอบครัว คืนคนดีสู่สังคม”
       
       นายวิทยากล่าวว่า ปัจจุบันการแพร่ระบาดยาเสพติดในประเทศไทยได้กลับมาสู่ภาวะที่มีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ความปลอดภัยและทรัพย์สิน โดยในปี 2554 นี้ คาดว่าไทยมีผู้เสพยาเสพติดประมาณ 1.3 ล้านคน เมื่อเทียบกับสถิติประชากรทุกๆ 1,000 คน จะมีผู้เสพยา 19 คน สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล 6 เท่าตัว โดยพบว่าพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีสัดส่วนของปัญหามากที่สุดประมาณร้อยละ 60 ดังนั้นรัฐบาลจึงเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจังและถือเป็นวาระแห่งชาติ ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
       
       ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด โดยยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษาให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม พร้อมทั้งมีกลไกติดตามช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ มีแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด โดยชักชวน จูงใจผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดสมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู ในปี 2555 ไม่น้อยกว่า 400,000 คน ซึ่งวิธีการบำบัดด้วยความสมัครใจนี้ จะได้ผลดี เนื่องจากเป็นความตั้งใจของผู้เสพที่ต้องการเลิกเสพยา
       
       นายวิทยากล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมระบบการบำบัดไว้พร้อมแล้ว โดยจัดตั้งศูนย์บำบัดฟื้นฟูยาเสพติดในโรงพยาบาลชุมชนทุกอำเภอ และใน กทม.ทุกเขต รวมทั้งหมด 928 แห่ง ในการบำบัด จะมีการตรวจคัดกรองผู้เสพทุกพื้นที่ คัดแยกตามระดับรุนแรงของการติดยา เพื่อให้การบำบัดที่เหมาะสม เริ่มดำเนินการในเขต กทม.และปริมณฑลครั้งแรก ในต่างจังหวัดจะเริ่มดำเนินการวิธีเดียวกัน โดยได้จัดอบรมทีมสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักอาชีวบำบัด เพื่อทำหน้าที่บำบัดฟื้นฟู ครบทุกอำเภอจำนวน 5,000 คน และอบรมอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.จำนวน 156,966 คน ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องยาเสพติด เพื่อทำหน้าที่ติดตามดูแลช่วยเหลือผู้ที่ผ่านการบำบัดและกลับไปอยู่ในหมู่บ้าน ชุมชน 84,954 หมู่บ้านทั่วประเทศ ป้องกันไม่ให้หวนกลับไปติดยาหรือใช้ยาเสพติดซ้ำอีก
       
       สำหรับผลการดำเนินงานด้านการบำบัดรักษา ประจำปีงบประมาณ 2553 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2552 - 30 กันยายน 2553 มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษาทั้งหมด 114,074 ราย เข้าบำบัดด้วยระบบสมัครใจ 28,154 ราย ระบบบังคับบำบัด 71,311 ราย และระบบต้องโทษ 14,609 ราย โดยผู้ที่เข้ารับการบำบัดมีอายุระหว่าง 8 -24 ปี มากที่สุดจำนวน 41,960 ราย รองลงมาเป็นอายุ 25-29 ปี จำนวน 23,548 ราย

ASTVผู้จัดการออนไลน์    6 ตุลาคม 2554

6988
 คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล ร่วมมือ ไออาร์ดี ประชุมวิชาการ “มิติทางสังคมและนิเวศวิทยาของโรคติดเชื้อ” ร่วมนานาชาติ  ชูโรคนำโดยแมลงและโรคจากสัตว์สู่คน เป็นฐานพัฒนางานวิจัย ต้องรับมือโรคระบาด ขณะ มช.เผยไทยครองแชมป์โรคพยาธิใบไม้ตับ เร่งระดมสมองแก้ปัญหา
       
       
       วันนี้ (6 ต.ค.) รศ.ประตาป สิงหศิวานนท์ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในการเปิดประชุมวิชาการ “มิติทางสังคมและนิเวศวิทยาของโรคติดเชื้อ (Social and Ecological Dimension of Infectious Diseases)” หรือชื่อย่อว่า SEDID ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ต.ค. 2554 ณ ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 ปี คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล ภายใต้การสนับสนุนของสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนา  สถานทูตฝรั่งเศส หรือ ไออาร์ดี (Institut de recherche pour le développement : IRD  ประจำประเทศไทย และคณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล ว่า  ในการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมรวมของนักวิชาการและผู้ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อสุขภาพและการอุบัติของโรคติดเชื้อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญแต่ละศาสตร์สาขาเกี่ยวกับ การระบาดของโรคติดเชื้อเมื่อสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ  การจัดการทรัพยากร และการศึกษาความสัมพันธ์ของโรคต่างๆที่สัมพันธ์กันระหว่าง คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการระดมสมอง ของนักวิจัยต่างสาขาและเกิดการสังเคราะห์แนวทางการทำวิจัยที่เชื่อมโยงความ รู้แขนงต่างเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างยั่งยืน โดยมีบุคลากรจากหลายประเทศเข้าร่วมประชุมด้วย ได้แก่ ไทย ฝรั่งเศส ลาว อินเดีย  เวียดนาม นอร์เวย์ กัมพูชา และ บรูไน
                     
       
       รศ.ประตาป กล่าวต่อว่า  สำหรับประเด็นหลักที่น่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด ก็คือ เรื่องของการนำเสนอวิกฤติการณ์ของโรคที่นำโดยแมลง เช่น ไข้เลือดออก มาลาเรีย และโรคจากสัตว์สู่คน เช่น ไข้สมองอักเสบ ไข้ฉี่หนู รวมทั้งไข้หวัดนกด้วย   และโรคซึ่งเกิดจากเชื้อซาโมเนลลาที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะใช้แค่ความรู้ทางการแพทย์เข้ามาป้องกันและควบคุมไม่ได้ แต่จำเป็นต้องบูรณาการหลากหลายอย่าง ทั้งด้านสัตวแพทย์ นิเวศวิทยา ระบาด และกระทั่งด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบันมีทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยมีอัตราการป่วยทางกายที่มีสาเหตุจากสัตว์เป็นพาหะมากถึง 70-80 % และมีแนวโน้มจะเกิดโรคดังกล่าวในเขตเมืองถึง 50% ของพื้นที่ทั่วประเทศ เช่นกรณีโรคฉี่หนูที่ กระทรวงสาธารณสุขประกาศเตือนบ่อยๆ ก็น่าห่วงเช่นกันโดยเฉพาะช่วงน้ำท่วม
       
       “จากความเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ไปฝืนธรรมชาตินั้น ก่อให้เกิดผลกระทบในด้านสุขภาพหลายอย่าง เช่น การรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำเกษตร โอกาสที่สัตว์เลี้ยงกับสัตว์ป่าเจอกันแล้วก่อโรคก็มีอยู่มาก อย่างกรณีเชื้อนิปปาที่มีต้นกำเนิกจากมาเลเซีย ซึ่งถ่ายทดจากค้างคาวป่าสู่หมูที่เลี้ยงแล้วถ่ายทอดสู่คน ก็นับเป็นปรากฏการณ์หลากมิตติที่กระทบต่อสุขภาพประชากรโลกเช่นกัน หรือกรณีการทำเกษตรเชิงอุตสาหกรรมที่พยายามจะเพิ่มผลผลิตให้มากโดยการเร่งฮอร์โมน ใช้สารเคมี ใช้ยาปฏิชีวนะในสัตว์เลี้ยงก็ล้วนแล้วแต่ก่อเกิดเชื้อดื้อยาง่ายดาย ซึ่งส่วนนี้ทุกภาคส่วนต้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง หากสามารถศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคน สัตว์ สิ่งแวดล้อมได้ก็ย่อมจะป้องกันง่ายขึ้น”  รศ.ประตาป กล่าว
       
       รศ.ประตาป กล่าวด้วยว่า และเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีนี้องค์การ องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (United States Agency for International Development-USAID) ได้มอบงบประมาณให้มหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.)ได้พัฒนางานวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของการป้องกันและรักษาโรคแบบบูรณาการ ทั้งด้านแพทยศาสตร์ สัตวศาสตร์และสิ่งแวดล้อม เพื่อผลิตกำลังคนที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และ ไทย ซึ่งจะจัดประชุมแผนในเดือน ธ.ค.นี้ที่เวียดนาม
       
       ด้าน รศ.น.สพ.ดร.เลิศรัก ศรีกิจการ คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงตัวอย่างพฤติกรรมของคนที่บริโภคเนื้อสัตว์ว่า  สำหรับโรคที่น่าห่วงเกี่ยวกับการบรอโภคจองคนไทย ในขณะนี้นั้น คือ โรคพยาธิใบไม้ตับ (Liver Fluke) ซึ่งในปี 2551 นั้นพบว่าพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน มีอัตราการเกิดโรคดังกล่าวสูงถึง 70% ขณะที่ประเทศไทยเป็นแชมป์ของโลกที่มีผู้ป่วยมะเร็งตับอันมีสาเหตุจากการกินเนื้อดิบ  ทั้งๆ ที่โรคดังกล่าวเกิดขึ้นในครั้งแรกที่เวียดนาม แต่อัตราการบริโภคของคนไทยกลับรุนแรงกว่า ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประชุมวางแผนการรับมืออย่างจริงจังเพื่อให้ประชาชนรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายของโรคที่กำลังคุกคาม 
       
       รศ.น.สพ.ดร.เลิศรัก กล่าวต่อว่า นอกจาโรคพยาธิแล้วสิ่งที่น่ากังวลว่าอาจเกิดขึ้นในไม่ช้า ก็คือโรคไข้หวัดนกเพราะเพียงแค่พื้นที่เดียวใน จ.เชียงใหม่ พบว่า เกษตรกรนิยมเลี้ยงสัตว์ปีกแบบเปิดในบริเวณบ้านเรือนซึ่งมีมากกราว 25% ของพื้นที่ทั้งหมด ดังนั้นหากโรคไข้หวัดนกมีการกลายพันธ์ก็หมายความว่า กลุ่มที่เลี้ยงในบริเวณบ้านเรือนมีโอกาสเสี่ยงที่จะรับเชื้อได้ง่าย
       
       “ขณะเดียวกัน เรื่องของการประเมินความเสี่ยงเชื้อโรคจากสุนัขก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ เพราะจากเหตุการณ์การนำสุนัขส่งขายในต่างประเทศที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้เลี้ยงไม่สามารถรักษาสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยได้ บางรายเลี้ยงแล้วปล่อยอิสระจนไปเผชิญโรคภัยภายนอก ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยและเมื่อไม่สามารถประคองชีวิตของสัตว์เลี้ยงได้มักจบลงด้วยการขาย คือ ทำลายทางอ้อม ส่วนนี้นักวิชาการกำลังเร่งศึกษาอยู่ว่า จะก่อโรคในลักษณะใดได้บ้าง ดังนั้นเมื่อความสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ  มนุษย์ก้ต้องรู้เท่าทันและเตรียมรับมือ โดยคาดว่าการประชุมวิชาการคครั้งนี้จะช่วยให้แลกเปลี่ยนความรู้การจักการสุขภาพได้ในระดับนานาชาติ” รศ.น.สพ.ดร.เลิศรัก กล่าว

ASTVผู้จัดการออนไลน์    6 ตุลาคม 2554

6989
โรงพยาบาลบางปะหัน น้ำท่วมสูง ปิดบริการชั่วคราวทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน สั่งอพยพผู้ป่วย 17 ราย พร้อมเปิดโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาขณะนี้วิกฤติหนัก ซึ่งผ่านขบวนการขั้นตอนบริหารจัดการของศอส. ทั้งหมด แต่เนื่องจากมาตรการเตรียมการป้องกันบางพื้นที่เป็นของภาคเอกชน  วันนี้ยังมีจุดสำคัญๆอีกหลายจุดเช่นนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ คือที่ไฮเทค บางปะอิน และโรจนะ จะต้องเร่งรัดเสริมแนวป้องกันอีก รวมถึงนวนครด้วย ซึ่งได้เตือนภัยไปแล้วหลายภาคส่วนต้องระมัดระวังมีมาตรการป้องกันให้มากที่สุด

สำหรับการอพยพประชาชน ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้มีมาตรการในการอพยพ โดยภาคเอกชนคือนายชาตรี พูนคุปตวาณิชย์  ได้มอบอาคารพาณิชย์ประมาณ 100 คูหาอยู่ที่บริเวณหน้าศาลากลางของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจัดเป็นที่อพยพประชาชน รองรับได้นับ 1,000 ครอบครัว มีห้องน้ำ ห้องสุขาพร้อม  และที่ตลาดบริเวณสี่แยกวัดพยาธิ เป็นจุดดูแลอาหารสดที่จะปรุงอาหารให้ผู้อพยพรับประทาน ตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรุ่งนี้จะมีเครือข่ายจากจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดอื่นมาร่วมด้วยรวมทั้งที่จังหวัดอ่างทอง ลพบุรีด้วย  เนื่องจากขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก ไม่สามารถเดินทางได้  เรือมีไม่พอ

 นายวิทยา กล่าวต่อว่า  สำหรับผลกระทบต่อสถานพยาบาล ขณะนี้ได้รับรายงานที่อ.บางปะหัน น้ำท่วมที่โรงพยาบาลบางปะหัน สูงจากพื้นที่ 30 - 40 เซนติเมตรและเพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร  ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ ต้องปิดให้บริการทั้งผู้ป่วยนอก ฉุกเฉิน และผู้ป่วยในเป็นการชั่วคราว เจ้าหน้าที่สามารถเดินทางมาปฏิบัติงานได้เพียง 1 ใน 3 โดยเช้ามืดวันนี้ได้ย้ายผู้ป่วยที่นอนรักษาอยู่ 17 ราย ซึ่งอาการทรงตัว ไปพักรักษาต่อที่รพ.อ่างทอง 2 ราย รพ.อุทัย 4 ราย รพ.สมเด็จพระสังฆราช 4 ราย  และรพ.วังน้อย 7 ราย    

ทั้งนี้ ในวันนี้ ได้ระดมหน่วยแพทย์สนามจากโรงพยาบาลวิชระภูเก็ต จำนวน 2 ทีม นำโดยนายแพทย์วิวัฒน์  ศรีตะมโนชญ์ ตั้งโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง ปักหลักบริการที่ปั้มน้ำมันปตท. อยู่ระหว่างโรงพยาบาลบางปะหัน กับทางเข้าที่ว่าการอำเภอบางปะหัน จุดที่ 2 ที่ต.บางขวาง อ.มหาราช เพื่อให้บริการตรวจรักษาประชาชนเหมือนโรงพยาบาลชุมชน  ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนโรงพยาบาลชุมชนอื่นๆ ในจ.พระนครศรีอยุธยา เช่นบ้านแพรก มหาราช ท่าเรือ นครหลวง รวมทั้งที่โรงพยาบาลชุมแสง จ.นครสวรรค์ กำลังประสบปัญหา หากน้ำท่วมสูงขึ้นอีก อาจจะต้องปรับบริการในโรงพยาบาล  และวางแผนปรับระบบการส่งต่อผู้ป่วยหนัก เนื่องจากหลายเส้นทางน้ำท่วมสูง รถพยาบาลวิ่งไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ได้ให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สำรองเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้พร้อม 24 ชั่วโมง นายวิทยากล่าว

กรุงเทพธุรกิจ 6 ตุลาคม 2554

6990
"ระบบภูมิคุ้มกัน" ถือ​เป็นกุญ​แจสำคัญของ​การมีสุขภาพดี ​เพราะมันจะ​ทำหน้าที่​เหมือนกองทัพ ที่คอยดู​แล​และปกป้องร่างกายของ​เรา​ให้รอดพ้นจาก​การบุกรุกจากภายนอก คล้ายๆ กับกองทหารที่​เข้าประจำ​การ​และพร้อมปฏิบัติหน้าที่​ได้ทันทีตามต้อง​การ นอกจากนี้ระบบภูมิคุ้มกันยังดู​แลสุขภาพของคน​เรา ​โดย​ทำหน้าที่ตรวจสอบ​การบุกรุกของ​เชื้อ​โรคต่างๆ ​ไม่ว่าจะ​เป็น​เชื้อ​ไวรัส ​แบคที​เรีย รวม​ไป​ถึงปรสิตที่​เป็นบ่อ​เกิดของ​โรคภัยต่างๆ ​และพร้อมที่จะปราบปราม​เชื้อ​โรคดังกล่าวทันทีที่​ได้รับสัญญาณจากร่างกาย

​โภชนากรซูซาน ​โบ​เวอร์​แมน ที่ปรึกษาของ​เฮอร์บา​ไลฟ์ อิน​เตอร์​เนชั่น​แนล ลิมิ​เต็ด ​เปิด​เผยว่า นอกจากผิวหนัง​ซึ่ง​เป็นหนึ่ง​ในร่างกายของคน​เรา ที่ช่วยป้องกัน​การรุกรานของ​เชื้อ​แบคที​เรีย​แล้ว ร่างกายของคน​เรายังมีอาวุธป้องกันอื่นๆ อีกหลากหลายชนิด ถ้าร่างกาย​ได้รับบาด​เจ็บ ระบบภูมิคุ้มกันจะส่งสัญญาณ​เตือนภัย​ในรูปของ​การ​เกิดอา​การอัก​เสบที่มีลักษณะร้อน ปวด​และบวม​แดง ​ซึ่ง​เป็นผลจาก​การที่​เลือด​ไหล​ไปยังบริ​เวณที่​ได้รับบาด​เจ็บมากขึ้น ​ในระหว่าง​การบำบัดรักษา​โดยธรรมชาติภาย​ในร่างกาย​เอง

นอกจากนี้ ร่างกายของ​เรายังสามารถสร้าง​โปรตีน​และ​เซลล์พิ​เศษทุกชนิด ​ซึ่งจะ​ทำงาน​เสมือนอาวุธสำหรับต่อสู้กับ​ความ​เจ็บป่วยต่างๆ รวม​ถึง​เซลล์​เม็ด​เลือดขาวหลายประ​เภท ​ซึ่งล้วน​แต่มี​การ​ทำงานที่​แตกต่างกัน​ไป ​เซลล์​เม็ด​เลือดขาวบางชนิดจะ​ทำหน้าที่ "​เขมือบ" ​หรือกลืนสิ่ง​แปลกปลอมที่มาจากภายนอกร่างกาย บางชนิดจะ​ทำหน้าที่ค้นหา​เชื้อ​ไวรัส ​และมีอีกหลายชนิดที่ผลิตสารประกอบทาง​เคมีที่มีประสิทธิภาพ​ใน​การ​ทำลายปรสิต รวม​ถึง​เซลล์​เม็ด​เลือดขาวที่​ทำหน้าที่ผลิต​โปรตีนพิ​เศษที่​เรียกว่า ​แอนติบอดี้ (antibody) ​ทำหน้าที่ตรวจหา​และกำจัด​เชื้อ​ไวรัส​และ​แบคที​เรีย

​โภชนากรซูซานระบุว่า ​การรับประทานอาหารอย่างถูกหลัก​โภชนา​การ มีบทบาทสำคัญต่อ​การสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี หาก​เรารับประทานอาหารอย่างถูกหลัก​โภชนา​การ ​และดู​แลสุขภาพอย่างดี ​เรา​ก็จะมี​โอกาส​เจ็บป่วย​ได้น้อยมาก นั่นหมาย​ความว่า​เราจะลด​ความจำ​เป็น​ใน​การ​เรียก​ใช้ระบบภูมิคุ้มกันของ​เรา ​ทั้งนี้อาหารที่​เป็นประ​โยชน์ต่อ​การสร้างภูมิคุ้มกัน​ก็คือ ผัก​และผล​ไม้หลากสี ร่วมด้วย​โปรตีนสุขภาพ​ในปริมาณที่​เหมาะสม ​และที่ขาด​ไม่​ได้​ก็คือ ​โพร​ไบ​โอติกส์ (probiotics) ​หรือที่​เรารู้จักกันดี​ในชื่อของ​แบคที​เรียสุขภาพ ​ซึ่ง​เป็นจุลินทรีย์​แบคที​เรียที่มีชีวิต ​เมื่อรับประทาน​เสริม​เข้า​ไป​ในร่างกาย​ในปริมาณที่​เพียงพอ ​ก็จะก่อ​ให้​เกิดผลดีต่อระบบย่อยอาหาร​ในร่างกาย

ผล​ไม้​และผักหลากหลายสีจะ​ให้ "สาร​ไฟ​โตนิว​เทรียนท์" ที่มีปริมาณสูง สาร​ไฟ​โตนิว ​เทรียนท์​เป็นสารประกอบธรรมชาติที่พบ​ในอาหารจำพวกพืชทุกชนิด มีคุณสมบัติ​ใน​การสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ​ซึ่งจะช่วย​เสริมสร้างสุขภาพ​ให้​แข็ง​แรง พืชอาหารทุกชนิด​ซึ่ง​ได้​แก่ ผล​ไม้ ผัก ธัญพืชประ​เภท​โฮล​เกรน (Whole grain) ถั่ว สมุน​ไพร ​และ​เครื่อง​เทศ ​เป็น​แหล่งสร้าง "สารต้านอนุมูลอิสระ" อาหารพืช​แต่ละชนิดมีสารประกอบจากพืชธรรมชาติ ดังนั้น​เรา ​จึงควรบริ​โภคอาหารพืชหลากหลายประ​เภท ​ซึ่งจะ​ทำ​ให้​เรา​ได้รับประ​โยชน์จากสาร​ไฟ​โตนิว ​เทรียนท์จากธรรมชาติหลากชนิด นอกจากนั้นสาร​แอนติบอดี้ (Antibody) ​โปรตีนชนิดพิ​เศษที่ผลิต​โดย​เซลล์​เม็ด​เลือดขาว​เพื่อ​ทำหน้าที่คุ้มกันร่างกายของ​เรา ​การบริ​โภคอาหารที่มี​โปรตีน​ในปริมาณที่มากพอต่อ​ความต้อง​การของร่างกาย จะ​ทำ​ให้​เราสามารถผลิตสาร​แอนติบอดี้​ได้ตามต้อง​การ ​ซึ่ง​ได้​แก่ ปลา, สัตว์น้ำชนิดมี​เปลือก อาทิ หอย กุ้ง ปู, หมู ​เนื้อ​ไม่ติดมัน, อาหารที่​ทำจากถั่ว​เหลือง ​และผลิตภัณฑ์นม​ไขมันต่ำ.

​ไทย​โพสต์  6 ตุลาคม 2554

หน้า: 1 ... 464 465 [466] 467 468 ... 535