สื่อจีนยกย่องไทยต้นแบบหลักประกันสุขภาพประเทศกำลังพัฒนา พร้อมยกให้เป็นต้นแบบการสร้างหลักประกันสุขภาพให้คนไทยและประเทศกำลังพัฒนา
นายแพทย์ วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิชาการระบบสาธารณสุขระดับโลกครั้งที่ 2 ที่จัดในกรุงปักกิ่งมีการยกย่องไทยต้นแบบหลักประกันสุขภาพประเทศกำลังพัฒนา ซึงมีปัจจัยความสำเร็จ คือ นโยบายทางการเมืองที่ชัดเจน และผู้นำที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะมีการชี้ประเด็นสุขภาพให้เป็นวาระของโลก ไม่ใช่เรื่องประเทศรวย หรือยากจน ทุกคนควรได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพจากรัฐ ที่เผยแพร่ในบทบรรณาธิการ ของ นสพ.ไชน่าเดลี่ ประเทศจีน
เลขาธิการ สปสช.กล่าวว่า บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ (China Daily) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่จัดจำหน่ายในประเทศจีน ได้การยกย่องและชื่นชมผลสำเร็จการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย โดยในที่ประชุมวิชาการการวิจัยระบบสาธารณสุขระดับโลก (Global Symposium on Health Systems Research : HRS) ครั้งที่ 2 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน 31 ตุลาคม-3 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดยองค์การอนามัยโลก มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นักวิจัย ผู้กำหนดนโยบาย ผู้บริหารกองทุนสุขภาพ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของระบบหลักประกันของประเทศต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและเป็นต้นแบบให้กับการสร้างหลักประกันสุขภาพให้กับประเทศอื่นๆ ในที่ประชุมได้มีการยกตัวอย่างประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเริ่มต้นในปี 2545
ทั้งนี้ ในการประชุมยังมีข้อมูล ระบุว่า ในปัจจุบันระบบหลักประกันสุขภาพมีความครอบคลุมเกือบ 100% ส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพมากขึ้น และจำนวนครัวเรือนที่ล้มละลายจากภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันประเด็นสุขภาพจัดเป็นวาระของโลก ไม่ได้เป็นเรื่องของประเทศร่ำรวยหรือยากจนอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องที่ทุกประเทศจะต้องร่วมมือกัน และเห็นพ้องต้องกันว่าประเทศในเอเชีย แม้ว่าจะมีความหลากหลายทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่สามารถพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพให้ประสบความสำเร็จ จนเป็นตัวอย่างของโลกอย่างเช่นประเทศไทย ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จคือ การมีนโยบายที่ชัดเจนทางการเมือง และมีผู้นำในการขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง มีหลักฐานชัดเจนจากหลายประเทศ แสดงให้เห็นว่า ประเทศที่มีระบบหลักประกันสุขภาพที่ไม่ครอบคลุม จะส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะประชาชนที่มีสุขภาพไม่ดีย่อมส่งผลให้ผลผลิตของประเทศลดลง
นายแพทย์ วินัย กล่าวว่า บทบรรณาธิการ ยังได้แสดงความคิดเห็นอีกว่า ในโลกปัจจุบันนั้น ไม่ควรมีใครต้องล้มละลายจากปัญหาสุขภาพ ไม่ควรมีใครที่จะต้องจมปลักอยู่กับความเจ็บป่วยเพียงเพราะปัญหาทางการเงิน และไม่ควรมีใครถูกบังคับให้จ่ายค่ารักษาในอัตราสูงเพียงเพราะการส่งเสริมป้องกันโรคล้มเหลว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกันยายน 2555 ที่ผ่านมา มีการประชุมกลุ่มนโยบายด้านการต่างประเทศและสาธารณสุข (Foreign Policy and Global Health-FPGH) ที่คณะผู้แทนถาวรฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในการประชุมครั้งนี้มีข้อเสนอให้เรื่องสาธารณสุขให้อยู่ในลำดับความสำคัญสูงของวาระของเป้าหมายแห่งการพัฒนาสหัสวรรษ (Millennium Development Goals-MDGs) หลังปี 2558 โดยเน้นประเด็นเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage-UHC) เนื่องจากเป็นระบบที่จะช่วยขจัดความยากจน เพื่อเสนอต่อสหประชาชาติให้บรรจุเป็นวาระของโลกต่อไป
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2555
