ผู้เขียน หัวข้อ: วิจารณ์สนั่น!แม่ขอหมอลัดคิวลูกติดโควิดไข้สูง สุดท้ายไม่ได้..อัดคลิป-โวยลั่นรพ...  (อ่าน 102 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9789
    • ดูรายละเอียด
เรียกว่ากำลังกลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ให้ความสนใจ และต่างพากันแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ภายหลังสมาชิกผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Red Skull ได้โพสต์คลิปวิดีโอของคุณแม่รายหนึ่งที่ได้ออกมาโพสต์หลังจากเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เนื่องจากลูกชายมีไข้สูง และติดโควิด-19 แต่ทางโรงพยาบาลไม่ยอมรักษา เนื่องจากทางโรงพยาบาลต้องรักษาคนไข้ตามคิวที่เข้ามารักษา พร้อมทั้งบอกให้คุณแม่รายนี้รอก่อน และรักษาลูกชายเบื้องต้น อีกทั้งพยายามให้คุณแม่เข้าใจถึงกระบวนการทำงาน


แต่คุณแม่รายนี้ก็เข้ามาหาหมอ พร้อมยังยืนยันว่าให้ลัดคิวตรวยให้ก่อน เนื่องจากลูกชายมีไข้สูงไม่ยอด และร้องไห้งอแงตลอด และได้ถ่ายคลิปวิดีโอมาโพสต์ พร้อมระบุข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขออนุญาติแท็ก และแชร์ช่วยๆ กันแชร์ค่ะ เพื่อให้ทาง รพ.ปรับปรุงการบริการของหมอและพยายาลค่ะ xxx อายุ 1 ขวบ 7 เดือน ไป รพ. 24/4/66 ติดโควิด อันนี้ติดทั้งครอบครัวค่ะ แต่ขอให้รักษาเด็กก่อนได้ไหม ดูการรักษาของ รพ.ที่นี่นะคะ บริการแย่ ตังแต่ฝ่ายทะเบียน พยาบาล และหมอ ก่อนที่จะถ่ายคลิป หมอดูว่า ไม่รักษาเด็ก จะรักษาตามคิว ซึ่งคิวเยอะมากๆ ก่อนหน้าก็ให้รอๆ นานมากๆ ไล่เราออกไปอยู่ข้างนอก”

นอกจากนี้ทางทวิตเตอร์ที่นำมาโพสต์ยังได้ระบุข้อความว่า “ถ่ายคลิปประจานหมอ = ประจานตัวเอง คนที่มา รพ.รัฐทุกคนที่มาก็มีอาการป่วยเหมือนกันหมด คนเยอะมากก็ต้องรอตามคิว ให้เขาเรียกตามคิว แต่ถ้าต้องการถึงปุ๊บได้รักษาเลยก็ต้องไป รพ.เอกชนโน้น ไปโวยหมอก็เท่านั้น ทุกคนเค้าทำตามหน้าที่”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปเป็นสาธารณะ ต่างก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย อาทิ ในฐานะพยาบาลฉุกเฉินนะคะ เคสนี้น้องไม่ได้เร่งด่วนเลย ไม่ได้มีหายใจหอบเหนื่อย ซึมลง ตัวเขียว ชักเกร็ง หรืออาการที่บ่งบอกถึงอันตรายถึงชีวิต เป็นเคส triage เขียวที่สามารถรอได้ค่ะ สามารถให้การดูแลโดยเช็ดตัวลดไข้ ทานยาลดไข้ระหว่างรอพบแพทย์ได้ค่ะ ถ้าเจอแบบนี้ พยบ.ก็หัวจะปวด


ปกติจะไปโรงพยาบาลรัฐ เด็กจะได้รับการรักษาเร็วกว่าปกติอยู่แล้วค่ะ เพียงแต่ว่าก็ต้องใจเย็นๆ พ่อแม่ ไม่มีคิวของมันอยู่ก็ต้องตามคิว เพื่อเห็นใจผู้อื่น ที่เป็นคิวก่อนหน้าเรา ยิ่งว่าหมออัดคลิปแบบนี้ยิ่งเสียเวลาตรวจคนไข้, เราไป รพ.เอกชน ก็ยังต้องรอคิวเป็น ชม. เลยค่ะ ไปที่ไหนถ้าคนไข้เยอะก็ต้องรอนะคะ เจ้าหน้าที่เขาวิเคราะห์ตามอาการเลย เข้าใจว่าเด็กไข้สูงและไม่ลด สิ่งเดี๋ยวที่ทำได้และต้องทำคือมีสตินะคะ เพราะต้องกินยาและเช็ดตัวตลอดค่ะ ไม่ใช่เช็ดแล้วหยุด


ปกติตามคิว เด็ก คนแก่ เปลนั่งเปลนอน จะได้รับการลัดคิวก่อนอยู่แล้ว แต่จะลัดคิวสลับกับคนที่มาคิวปกติ แต่ถ้าเด็กมาตัวร้อนแบบนี้ ต้องไปฉุกเฉินเท่านั้น ไปแจ้งหมอขอให้มาช่วยลดใข้เด็กก่อน เค้าจะแนะนำวิธีให้เราไปทำระหว่างรอหมอตรวจ ไปแจ้งดีๆ ค่ะ ไม่ใช่ไปโวยวาย, ลูกใคร ใครก็รัก แต่ถ้าใช้คำว่า เด็ก มาเป็นข้ออ้างในการลัดคิว คนอื่นแบบนี้มันไม่แฟร์ คนที่โดนลัดคิวเขาอาจจะมีอาการหนักกว่าลูกคุณก็ได้ แค่เขาไม่ร้องไห้งอแง..... สามารถติดตามต่อได้ที่

2 พฤษภาคม 2566
www.dailynews.co.th/news/2283022/

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9789
    • ดูรายละเอียด
รพ.นพรัตนราชธานี ชี้แจงกรณีหญิงโพสต์คลิปโวย รพ.และหมอ ไม่ให้ลัดคิวรักษาลูกชาย 1 ขวบ ป่วย COVID-19 ชี้อาการไม่เข้าข่ายวิกฤต
วันนี้ (2 พ.ค.2566) โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการเผยแพร่คลิปการให้บริการของโรงพยาบาลในสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่า

ตามที่มีการโพสต์ถึงการให้บริการผู้ป่วยในสื่อสังคมออนไลน์ และก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนบางประการนั้น โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ขอชี้แจงข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2566 เวลา 19.59 น. ผู้รับบริการคนหนึ่งพาสามีและลูกชายอายุ 1 ปี 7 เดือน ที่ป่วยเป็น COVID-19 มาตรวจนอกเวลาราชการ แต่เนื่องจากไม่มีอาการเข้าข่ายวิกฤตฉุกเฉิน จึงได้มาตรวจที่ห้องตรวจโรคทั่วไปนอกเวลา

เมื่อมาถึงห้องตรวจโรคทั่วไปนอกเวลา ซึ่งมีผู้ป่วยรอรับบริการอยู่เป็นจำนวนมาก แม่เด็กกังวลใจจะขอรับบริการก่อนผู้ป่วยอื่น แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต และให้ไปรอตรวจ ณ บริเวณที่จัดไว้สำหรับผู้ป่วย COVID-19 โดยเฉพาะเพื่อเป็นการแยกโรคและป้องกันการติดต่อ แพร่กระจายไปยังบุคลากรทางการแพทย์และผู้รับบริการคนอื่น

เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลตามเกณฑ์การรักษาแล้ว แต่แม่เด็กยังร้อนใจ จึงส่งเสียงดังและเข้าไปถ่ายคลิปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตภายในห้องตรวจขณะที่แพทย์กำลังตรวจผู้ป่วยสูงอายุอยู่ ทำให้ญาติของผู้ป่วยสูงอายุไม่พอใจ โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการบริหารจัดการให้สถานการสงบได้ในเวลาต่อมา ซึ่งสถานพยาบาลได้มีการประกาศห้ามถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอ เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดสิทธิผู้อื่น

เมื่อออกมานอกห้องตรวจ เจ้าหน้าที่ได้พาเข้ามาในห้องพยาบาล เพื่อให้ทานยาลดไข้ และสอนการเช็ดตัวที่ถูกวิธี โดยเจ้าหน้าที่ช่วยเตรียมอุปกรณ์ให้ แต่แม่ของผู้ป่วยเด็กก็เรียกสามีที่ติด COVID-19 ซึ่งรออยู่ด้านนอกให้เข้ามาเช็ดตัวลูกแทน เมื่อสถานการณ์จึงสงบลง แพทย์ได้จ่ายยาและให้กลับบ้าน

ในวันที่ 1 พ.ค.2566 ทางโรงพยาบาลติดต่อไปพูดคุยและปรับความเข้าใจ พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งทางผู้โพสต์คลิปมีความเข้าใจและยินดีลบคลิปดังกล่าวออกไปแล้ว

2 พ.ค. 66
https://www.thaipbs.or.th/news/content/327268