ผู้เขียน หัวข้อ: เครือข่ายต้านบุหรี่ขอบคุณ “บิ๊กตู่-ครม.-สนช.” ผ่านร่าง กม.คุมยาสูบฉบับใหม่  (อ่าน 482 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9784
    • ดูรายละเอียด
สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ และภาคีเครือข่าย ส่งจดหมายเปิดผนึกขอบคุณ “บิ๊กตู่- ครม.- สนช.” หลังผ่านร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ หลังต่อสู้นานกว่า 6 ปี ช่วยปกป้องสุขภาพคนไทยทั้งประเทศจากยาสูบ ลดนักสูบหน้าใหม่ คุ้มครองคนไทยจากควันบุหรี่มือสอง - มือสาม เท่าทันกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ยาสูบใหม่ๆ
       
       วันนี้ (6 มี.ค.) สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เครือข่ายหมออนามัย เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ฯลฯ ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอบคุณที่เห็นชอบและผ่านร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ... เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา
       
       ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ตัวแทนสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ฯ กล่าวว่า สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ และเครือข่ายต่างๆ ขอชื่นชมในวิสัยทัศน์อันยาวไกลและเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ขอบพระคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีทุกท่าน ประธาน สนช. และสมาชิก สนช. ทุกท่าน ที่สนับสนุนให้ร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ... ได้ตราออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการเสพติดบุหรี่ นับเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์การปกป้อง มหันตภัยของบุหรี่ที่จะมีต่อเด็ก เยาวชนไทย และประชาชนคนไทยจำนวนมาก เพราะจะช่วยให้ผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่ลดลง ช่วยประชาชนที่ไม่สูบบุหรี่ได้รับความปลอดภัยจากควันบุหรี่มือสอง ช่วยเด็กทารกไม่ต้องเป็นผู้รับควันบุหรี่มือสาม และยังช่วยยกระดับให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น เป็นประชากรที่มีประสิทธิภาพ เป็นแรงสำคัญในการเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ประเทศพัฒนาตามนโยบาย “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ของรัฐบาล
       
       “ร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ใช้เวลาถึง 6 ปี จึงสำเร็จ นับตั้งแต่ยกร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวขึ้นเมื่อมิถุนายน 2554 ก่อนผลักดันเข้าสู่ ครม. เมื่อเดือนตุลาคม 2557 ถือเป็นการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ที่ยาวนาน เพื่อให้เยาวชนและประชาชนไทยได้รับการปกป้องจากพิษภัยร้ายแรงจากการเสพติดยาสูบและการได้รับควันบุหรี่มือสองอย่างทันต่อเล่ห์กลของอุตสาหกรรมยาสูบ ที่มีการพัฒนาเทคนิคการตลาดใหม่ๆ ออกผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ๆ เพื่อหาลูกค้ารายใหม่ทดแทนผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ หรือเสียชีวิตเพราะการสูบบุหรี่” ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าว
       
       ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี กล่าวต่อว่า สาระสำคัญของ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ จะเป็นการรวม พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ. คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 ที่มีการบังคับใช้มาครบ 25 ปี ในปี 2560 นี้ มาไว้ในฉบับเดียวกัน และแก้ไขนิยามของ “ผลิตภัณฑ์ยาสูบ” ให้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ๆ และที่สำคัญคือ ห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เพราะปัจจุบันบริษัทบุหรี่ต่างออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาในรูปแบบที่ล่อตาล่อใจเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ซึ่งกว่า 30 ปีที่ผ่านมา จำนวนคนไทยที่สูบบุหรี่ค่อนข้างคงที่ไม่ค่อยลดลง เพราะเด็กและเยาวชนไทยที่เป็นนักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้น มีจำนวนใกล้เคียงกับผู้ที่เลิกสูบบุหรี่หรือเสียชีวิตในแต่ละปี และบุหรี่เป็นสินค้าถูกกฎหมายชนิดเดียวที่เสพติดและฆ่าผู้บริโภคในการใช้ตามปกติได้ ที่สำคัญ คนไทยที่เริ่มสูบและติดบุหรี่แล้ว มีเพียงร้อยละ 27 เท่านั้นที่สามารถเลิกได้ ส่วนอีกร้อยละ 73 จะติดบุหรี่ไปตลอดชีวิต เพราะฤทธิ์ของนิโคตินในบุหรี่มีอำนาจเสพติดเทียบเท่าเฮโรอีน

โดย MGR Online       6 มีนาคม 2560