ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตัวเครือข่ายธุรกิจเพื่อการชะลอวัยดันไทยสู่ผู้นำเสริมความงามของเอเชีย  (อ่าน 1088 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)หรือ สนช. จัดงานสัมมนา "นวัตกรรมไทย สู่ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ชะลอวัยและเสริมความงาม" พร้อมเปิดตัวการจัดตั้ง "เครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมเพื่อการชะลอวัย"เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางการแพทย์แห่งเอเชีย โดยนายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า การประชุมวันนี้มาจากแนวคิดที่จะนำเอาเทคโนโลยีชะลอวัยและเสริมความงาม ซึ่งเป็นศาสตร์การแพทย์แผนตะวันตกมาผสมผสานกับแนวคิดการแพทย์ตะวันออก โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ชะลอวัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทย มาร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพทย์ชะลอวัยได้จริง


 
อาทิ หลักการให้สารต้านอนุมูลอิสระทั้งในแบบยาฉีด และวิตามินแร่ธาตุที่ใช้รับประทาน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดการใช้ฮอร์โมนเลียนแบบธรรมชาติ (biological hormones) ที่มีการใช้กันอยู่อย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงกว่าการใช้ยาซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ และนวัตกรรมที่โดดเด่นในการชะลอวัย ได้แก่ เทคโนโลยีเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดและไขมันของผู้ป่วยเอง (autologous stem cell therapy) ซึ่งได้เริ่มมีการรับรองและนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลียเช่นกัน สำหรับแนวคิดในการชะลอวัยด้วยศาสตร์การแพทย์ตะวันออก จะเป็นการดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจ รวมถึงการนำหลักการธรรมชาติ สมาธิบำบัด การฝังเข็ม ผสมผสานกับศาสตร์การแพทย์

Mr. Christian Drapeau, Dr. Mark Dargan Smith และ Dr. Allen Green ได้ร่วมกันให้แนวคิดโดยมีความเห็นพ้องต้องกันว่า "การให้บริการด้านการชะลอวัยอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องมีขบวนการล้างพิษอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน (detoxification) ก่อนที่จะให้บริการเสริมสุขภาพชะลอวัย ทั้งนี้เพราะในชีวิตประจำวันทั่วไปเราจะได้รับสารพิษจากอาหาร สิ่งแวดล้อม รวมทั้งมลภาวะในรูปแบบต่างๆ ซึ่งปัจจุบันคลินิกและโรงพยาบาลทั่วไปยังไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำจัดโลหะหนักและสารพิษ เช่น ปรอทและตะกั่ว ซึ่งโลหะหนักเหล่านี้จะบั่นทอนสุขภาพให้เสื่อมโทรมลงทีละน้อยและทำให้เกิดภาวะการอ่อนเพลียเรื้อรัง รวมทั้งยังรบกวนระบบการทำงานของอวัยวะแทบทุกระบบในร่างกาย ขบวนการล้างพิษนี้เรียกว่า "คีเลชั่นบำบัด" ซึ่งได้รับการประเมินประสิทธิภาพจากสมาคมการแพทย์ทางเลือกนานาชาติ ว่าสามารถกำจัดโลหะหนักที่เป็นพิษออกจากร่างกายทางปัสสาวะได้ และยังมีการทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ตลอดจนขจัดอนุมูลอิสระ"

เนื่องจากการขับถ่ายอุจจาระอย่างเหมาะสมและการพยายามเลี่ยงภาวะท้องผูก จะมีส่วนลดภาวะสารพิษที่เกิดจากทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะลำไส้รั่ว พบมากในผู้มีอาการท้องผูกเรื้อรัง จะทำให้สารพิษจากทางเดินอาหาร ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ดังนั้นการสวนลำไส้จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ใหญ่อักเสบ ในผู้ที่บริโภคยาและดื่มเหล้าสม่ำเสมอมักจะพบว่าทำให้นำไปสู่ปัญหาตับอักเสบ และการทำงานของตับมีประสิทธิภาพลดลง ดังนั้นการนำสารจากธรรมชาติ เช่น กลูตาไธโอน และไซลิมาริน มาศึกษาเพื่อทดสอบยืนยันประสิทธิภาพ ปริมาณการใช้ และวิธีใช้อย่างละเอียดและถูกต้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนไข้ที่เป็นมะเร็งตับ

นพ.ตะวัน จิตต์จุฬานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกระดูกและข้อได้ให้ความเห็นว่า"ปัญหาข้อเข่าเสื่อมเป็นสิ่งที่บั่นทอนสุขภาพของผู้สูงอายุจำนวนมาก การนำเอาเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มาจากไขมัน ฉีดเข้าข้อเข่าที่อักเสบและเสื่อมโทรมจะทำให้อาการดีขึ้นชัดเจน นับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่น่าสนใจของปัญหาข้อเข่าอักเสบ นอกจากนี้การนำเอาวิธีทางฮอร์โมนเลียนแบบธรรมชาติ ยังเป็นการแก้ไขภาวะกระดูกพรุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยสูง"

พ.ต.อ.นพ.ไพบูลย์ มะระพฤกษ์วรรณ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชกรรม ได้เสนอแนะว่า "การแก้ไขเรื่องปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศทั้งหญิงและชายซึ่งพบมากในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาคุณภาพชีวิตครอบครัว การหย่าร้าง ดังนั้นจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของสมุนไพรไทย เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้น โดยมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากกว่ายาในกลุ่มของไวอะกร้า ในปัจจุบันยังพัฒนายาทาภายนอกเพื่อใช้เสริมสมรรถภาพและลดการหลั่งไวในชาย โดยไม่ต้องรับประทานอีกด้วย และนวัตกรรมล่าสุดน่าจะได้แก่การนำเซลล์ต้นกำเนิดมาบำบัดโดยตรงโดยฉีดในอวัยวะเพศชาย ซึ่งเทคโนโลยีนี้น่าจะเลือกใช้เมื่อใช้วิธีอื่นล้วนไม่ได้ผล".