มีความเห็นของคณะกรรมการฯที่กระทรวงฯตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาระเบียบค่าตอบแทนฉบับต่างๆของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
มีการร่าง ระเบียบฉบับ ๙ ขึ้นมาเพื่อทดแทนฉบับ ๗ ลองดูเนื้อหากัน..................................................................................................
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนแนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ …..) พ.ศ. .....-------------------------------
ตามที่ กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน แนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม นั้น
บัดนี้ เห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเติม ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 11 ของหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน แนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ใช้ความต่อไปนี้
ข้อ 11 ค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนพื้นฐาน โดยมีเจตนารมณ์เพื่อกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสามารถเพิ่มผลิตภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจโดยให้เจ้าหน้าที่ได้รับค่าตอบแทนสะท้อนและผันแปรตามผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงของหน่วยบริการแต่ละแห่ง ซึ่งสามารถนำปริมาณงานทั้งในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ครอบคลุมทั้งงานด้านบริการสุขภาพต่อผู้ป่วยโดยตรงและงานสนับสนุนการบริการสุขภาพ งานด้านบริหารและด้านวิชาการ มาคำนวณเป็นค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพได้ โดยให้อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ ดังนี้
11.1 เจ้าหน้าที่ที่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการ
11.2 การจัดทำรายละเอียดการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยบริการแต่ละแห่ง ให้คณะกรรมการบริหารหน่วยบริการจัดทำหลักการ วิธีการคำนวณผลการปฏิบัติงาน การกำหนดค่าประกันงานขั้นต่ำ อัตราค่าตอบแทนต่อผลการปฏิบัติงาน การกำหนดวงเงินที่นำมาเบิกจ่าย และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องสอดคล้องกับคู่มือการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดขึ้น
11.3 ให้คณะกรรมการบริหารหน่วยบริการ จัดให้มีกระบวนการภายในหน่วยบริการ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้รับทราบและเข้าใจอย่างทั่วถึง การสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องภายในหน่วยบริการได้ร่วมพัฒนาและดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งในด้านการออกแบบระบบเพื่อการคิดค่าตอบแทน การตรวจสอบและการติดตามประเมินผล โดยต้องมีการประเมินสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ รวมทั้งปัจจัยที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการ และภายหลังการดำเนินการโดยให้ประเมินทุก 3 เดือนในปีแรก และปรับเป็นปีละ 1 ครั้ง ที่สอดคล้องกับกับคู่มือฯ
11.4 ให้คณะกรรมการบริหารหน่วยบริการ เสนอหลักการดำเนินการเมื่อเริ่มดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน เพื่อขออนุมัติต่อคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทน ตามข้อ ๙ ของข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2544
11.5 ให้เบิกจ่ายจากเงินบำรุงของหน่วยบริการ โดยให้กำหนดวงเงินที่จะนำมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานให้คำนวณจากวงเงินขั้นต่ำที่จ่ายตามหลักเกณฑ์ฯ ฉบับที่ ๗ หรือคณะกรรมการบริหารหน่วยบริการอาจพิจารณาเพิ่มได้ รวมแล้วไม่เกินร้อยละ ๔๐ ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดซึ่งประกอบด้วยงบดำเนินงาน งบบุคลากรและงบลงทุนซึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๐ ของรายได้ที่เหลือหลังหัก ....
หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ให้เสนอคณะกรรมการตามข้อ ๑๑.๗ (๒) พิจารณา
11.6 ค่าตอบแทนที่เจ้าหน้าที่แต่ละคนจะได้รับ ต้องสะท้อนกับหน้าที่ความรับผิดชอบและผลการดำเนินงาน หากมีภาระงานที่เกินกว่าค่างานประกันขั้นต่ำให้ได้รับค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน โดยให้ได้รับไม่เกินเดือนละ ๔๐,๐๐๐ บาท
11.7 การตรวจสอบ การควบคุมกำกับและติดตามประเมิลผล ให้มีคณะกรรมการดังนี้
(1) คณะกรรมการค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานระดับกระทรวง เพื่อทำหน้าที่กำหนดทิศทางและนโยบายการดำเนินงาน และการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งวินิจฉัยปัญหาต่าง ๆ ที่เกินบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการตาม (2)
(2) คณะกรรมการค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานระดับส่วนราชการระดับกรม หรือระดับเขต เพื่อทำหน้าที่พิจารณาให้ความเห็นชอบการกำหนดค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานตามข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารหน่วยบริการในสังกัด และดำเนินการการตรวจสอบ การควบคุมกำกับและติดตามประเมิลผลการดำเนินงาน ตลอดจนแก้ปัญหาการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
หลักเกณฑ์นี้ให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 255๕ เป็นต้นไป
ยกเลิก ฉ. ๗ หากดำเนินการตามระเบียบนี้ไม่ได้ ให้ คกก ๑๑.๗(๒) อนุมัติให้จ่ายตาม ฉ.๗ ได้แต่ไม่เกิน ๓ เดือนนับตั้งแต่วันที่มีผลบังคับ
...
ตัวแทนของสมาพันธ์ฯได้เสนอไปยังปลัดกระทรวงฯช่วงปีใหม่แล้วว่าขอทวงสัญญาจากผู้บริหาร โดยเรียกร้องให้มีการใช้ ฉบับ ๗ อย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้ P4P เป็นค่า K แทน และเมื่อเห็นเนื้อหาของฉบับ ๙ แล้วจึงไม่เห็นด้วย เสนอให้มีการปรับแก้เพื่อให้สอดรับกับคำเรียกร้อง ดังนี้
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนแนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ …..) พ.ศ. .....-------------------------------
ตามที่ กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน แนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2544 และแก้ไขเพิ่มเติม นั้น
บัดนี้ เห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเติม ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 11 ของหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน แนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ใช้ความต่อไปนี้
ข้อ 11 ค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนพื้นฐาน โดยมีเจตนารมณ์เพื่อกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสามารถเพิ่มผลิตภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจโดยให้เจ้าหน้าที่ได้รับค่าตอบแทนสะท้อนและผันแปรตามผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงของหน่วยบริการแต่ละแห่ง ซึ่งสามารถนำปริมาณงานทั้งในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ครอบคลุมทั้งงานด้านบริการสุขภาพต่อผู้ป่วยโดยตรงและงานสนับสนุนการบริการสุขภาพ งานด้านบริหารและด้านวิชาการ มาคำนวณเป็นค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพได้ โดยให้อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ ดังนี้
11.1 เจ้าหน้าที่ที่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการ
11.2 ค่าตอบแทนที่เจ้าหน้าที่แต่ละคนได้รับ ประกอบด้วย
11.2.1 ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปซึ่งมีภาระงานมาก มีเจตนารมณ์ในการสร้างแรงจูงใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง โดยให้อยู่ในหลักเกณฑ์ ดังนี้
11.2.2 ค่าตอบแทนกรณีที่ภาระงานมากเกินกว่าค่างานประกันขั้นต่ำ ให้ได้รับค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน โดยการจัดทำรายละเอียดการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยบริการแต่ละแห่ง ให้คณะกรรมการบริหารหน่วยบริการจัดทำหลักการ วิธีการคำนวณผลการปฏิบัติงาน การกำหนดค่าประกันงานขั้นต่ำ อัตราค่าตอบแทนต่อผลการปฏิบัติงาน การกำหนดวงเงินที่นำมาเบิกจ่าย และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องสอดคล้องกับคู่มือการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดขึ้น
11.3 ให้คณะกรรมการบริหารหน่วยบริการ จัดให้มีกระบวนการภายในหน่วยบริการ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้รับทราบและเข้าใจอย่างทั่วถึง การสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องภายในหน่วยบริการได้ร่วมพัฒนาและดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งในด้านการออกแบบระบบเพื่อการคิดค่าตอบแทน การตรวจสอบและการติดตามประเมินผล โดยต้องมีการประเมินสถานการณ์ก่อนดำเนินการ และภายหลังการดำเนินการที่สอดคล้องกับกับคู่มือฯ
11.4 ให้คณะกรรมการบริหารหน่วยบริการ เสนอหลักการดำเนินการเมื่อเริ่มดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน เพื่อขออนุมัติต่อคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทน ตามข้อ ๙ ของข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2544
11.5 ให้เบิกจ่ายจากเงินบำรุงของหน่วยบริการ
หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ให้เสนอคณะกรรมการตามข้อ ๑๑.๖ (๒) พิจารณา
11.6 การตรวจสอบ การควบคุมกำกับและติดตามประเมิลผล ให้มีคณะกรรมการดังนี้
(1) คณะกรรมการค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานระดับกระทรวง เพื่อทำหน้าที่กำหนดทิศทางและนโยบายการดำเนินงาน และการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งวินิจฉัยปัญหาต่าง ๆ ที่เกินบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการตาม (2)
(2) คณะกรรมการค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานระดับส่วนราชการระดับกรม หรือระดับเขต เพื่อทำหน้าที่พิจารณาดำเนินการการตรวจสอบ การควบคุมกำกับและติดตามประเมิลผลการดำเนินงาน ตลอดจนแก้ปัญหาการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
หลักเกณฑ์นี้ให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป
ยกเลิก ฉ. ๗ หากดำเนินการตามระเบียบนี้ไม่ได้ ให้ คกก ๑๑.๖(๒) อนุมัติให้จ่ายตาม ฉ.๗ ได้แต่ไม่เกิน ๓ เดือนนับตั้งแต่วันที่มีผลบังคับ
...
ทางสมาพันธ์ฯ เคยเสนอ เรื่อง รพศ/รพท ที่อยู่พื้นที่พิเศษ ไปทางกระทรวง ช่วงก่อนหน้านี้( ฉ.7/2) ถ้าตามระเบียบกระทรวงการคลังใช้ตัวพิจารณา 4 ตัว ของเราน่าจะใช้ 2 ตัว คือ ความยากลำบากของการคมนาคม และความเสี่ยงภัย อย่างน้อย รพศ/รพท ที่อยู่ในพื้นที่มีดังนี้รพท.เกาะสมุย
รพท.ปัตตานี
รพศ.ยะลา
รพท.เบตง
รพท.สุไหงโก-ลก
รพท.นราธิวาสราชนครินทร์
รพท.เชียงคำ
รพท.ศรีสังวาลย์ แม่ฮ่องสอน
รพท.แม่สอด
.....................................................................................