ผู้บริหารโรงพยาบาล 90 เปอร์เซ็นต์ทั่วเปรู ประกาศลาออก เพื่อสนับสนุนการประท้วงขอขึ้นค่าแรงของบรรดาแพทย์นับหมื่นคน ที่ดำเนินมา 5 สัปดาห์แล้ว...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่า จากการเปิดเผยของสหพันธ์การแพทย์ของประเทศเปรู ระบุว่า ผู้บริหารโรงพยาบาลกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเป็นการสนับสนุนกลุ่มแพทย์ ที่ประท้วงขอขึ้นค่าแรง เนื่องจากไม่มีการปรับขึ้นค่าแรงมานาน ไม่สอดรับกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันของประเทศ ที่กำลังขยายตัวขึ้น
นายซีซาร์ ปาโลมิโน ประธานสหพันธ์การแพทย์เปรูเปิดเผยว่า หากนับเฉพาะในเมืองหลวง กรุงลิมา มีผู้บริหารโรงพยาบาลลาออกแล้วกว่า 300 คน ขณะที่การประท้วงหยุดงานของแพทย์ไม่น้อยกว่า 11,000 คนทั่วประเทศ ดำเนินติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 แล้ว โดยเขากล่าวโทษว่า เหตุที่รัฐบาลไม่ยอมขึ้นค่าแรงให้แพทย์ เป็นเพราะนโยบาลทางเศรษฐกิจแบบอนุรักษ์นิยมของ นายลุยส์ มิเกล กาสติญ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ส่วนนายเฆซุส โบนิญ่า หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฯ ระบุว่า เศรษฐกิจของเปรูกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่งบประมาณที่จ่ายให้กับภาคสาธารณะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กลับลดลงอย่างมาก พวกแพทย์ไม่ได้รับการเพิ่มเงินเดือนเลยแม้แต่น้อย ทำให้อำนาจการซื้อของพวกเขาลดลง 30-40 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว
ด้าน นางมิโดริ เด ฮาบิค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ออกมาขู่ว่า ผู้บริหารโรงพยาบาลคนได้ที่ประกาศลาออกเพราะเรื่องนี้ แต่รับโทษฐานก่ออาชญากรรม ขณะที่นายกาซติญ่าเคยออกมากล่าวเมื่อเดือนก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่การประท้วงเพิ่งเริ่มขึ้นว่า การพิจารณาขึ้นเงินเดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพการปฏิบัติงาน และเรียกร้องให้แพทย์กลับไปทำงานอ้างว่า ผู้ที่ต้องรับเคราะห์จากเรื่องนี้ก็คือประชาชนที่กำลังเจ็บไข้ได้ป่วย
โดย: ไทยรัฐออนไลน์