ผู้เขียน หัวข้อ: ตั้ง คกก.รื้อการใช้งบ สสส.ตรงวัตถุประสงค์ กม.ยันไม่ล้วงลูก  (อ่าน 909 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
หมอปิยะสกล” รับ คตร. ส่งหนังสือมอบ สธ. ร่วมหลากหน่วยงาน ตั้ง คกก. รื้อการใช้งบประมาณ สสส. กำหนดทิศทางการทำงาน - ใช้งบประมาณตรงตามวัตถุประสงค์ กม.สสส. ยันไม่ล้วงลูก กระแสปลด “กฤษดา” อยู่ที่ คตร. พิจารณา
       
       จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวผลสรุปออกมาว่า สสส. ใช้งบประมาณไม่เข้าข่ายการส่งเสริมสุขภาพ เช่น สนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องด้านการเมือง เป็นต้น ล่าสุด คตร. ได้ยื่นผลสรุปให้นายกฯ และส่งหนังสือถึงหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ตั้งคณะกรรมการในการกำหนดทิศทาง สสส. ในอนาคต
       
       วันนี้ (7 ต.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือจาก คตร. แล้ว จึงได้ลงนามคำสั่งตั้งคณะกรรมการในการร่วมกำหนดทิศทางการทำงานของ สสส. ในอนาคต โดยมี นพ.เสรี ตู้จินดา ที่ปรึกษา รมว.สธ. เป็นประธาน นพ.กิตติศักดิ์ กลับดี เลขานุการ รมว.สธ. เป็นกรรมการ และมีนิติกรร่วมด้วย ส่วนกรรมการจากภาคส่วนต่าง ๆ มีทั้งสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ ย้ำว่า คณะกรรมการดังกล่าวไม่ได้เข้าไปตรวจสอบการทำงานของ สสส. เพราะเป็นหน้าที่ของ คตร. และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพียงแต่จะเข้าไปดูข้อมูลของ คตร. และ สตง. แล้วนำมาพิจารณาว่า จะกำหนดทิศทางการทำงานของ สสส. อย่างไรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า การบริหารงาน สสส. ที่ผ่านมา แสดงว่า ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะการตรวจสอบต้องไปถาม คตร. คณะกรรมการชุดนี้จะทำในกรอบเกี่ยวกับหน้าที่ที่ควรจะเป็นไปตาม พ.ร.บ.สสส. มากกว่า ซึ่งนายกฯ ตั้งกรอบเวลาว่าต้องแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ตนลงนาม ทั้งนี้ ยังยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเข้าไปล้วงลูก หรือคุมการทำงาน สสส. อย่างที่หลายฝ่ายกังวล เพราะ สสส. มีกฎหมายเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้คิดไปขนาดนั้น อะไรที่เป็นข่าวลือก็ลือกันไป ส่วนเรื่องที่จะให้ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. หยุดปฏิบัติงานระหว่างนี้หรือไม่นั้น ต้องไปถามทาง คตร.


ASTVผู้จัดการออนไลน์    7 ตุลาคม 2558

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
 จากกรณีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) สรุปผลการตรวจสอบการใช้งบของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และทำหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และหน่วยงานต่าง ๆ ให้ร่วมตั้งคณะกรรมการในการกำหนดทิศทาง สสส. ในอนาคต เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานของ สสส. ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544
       
       แหล่งข่าวระดับสูงจาก สธ. เปิดเผยว่า ประเด็น คตร. สอบสวน สสส. มีข่าวว่า คตร. ได้สรุปผลการสอบสวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกสรุปให้ สสส. ยุติการทำงานก่อน เพื่อรอการตรวจสอบ เนื่องจากพบว่า สสส. ดำเนินงานไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.สสส. และมีการเสนอให้ใช้ มาตรา 44 พักการทำงานของผู้จัดการ สสส. ให้พ้นจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับกรณี นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. ซึ่งพบว่ามีไลน์ผู้บริหาร สสส. หลุดออกมาก่อนหน้านี้ แต่มีการเข้าพบผู้ใหญ่อาวุโสในตระกูล ส. ผ่านรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ แลกเปลี่ยนกับการให้ สสส. เป็นหน่วยงานหลักใช้งบประมาณผลักดันนโยบายประชารัฐ ที่มีการจัดการโดยมีนายกรัฐมนตรีไปเปิดงานก่อนหน้านี้
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระบวนการทำงานของคณะกรรมการในการร่วมกำหนดทิศทางการทำงาน สสส. จะเน้นการปรับระบบการบริหารจัดการ การจัดสรรงบประมาณ พิจารณาหลักเกณฑ์ และระเบียบการจัดสรรงบประมาณ โดยไม่ให้การทำงานเกิดความขัดแย้งกับ พ.ร.บ.สสส. และจะเน้นการควบคุม กำกับ และประเมินผล แต่หากสุดท้ายคณะกรรมการฯ พบว่าควรมีการปรับแก้กฎหมายก็จะมีการเสนอต่อไป
       
       ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบถึงผลการตรวจสอบ สสส. ของ คตร. รวมถึงการตั้งคณะกรรมการเข้ามากำหนดทิศทางการทำงานของ สสส. แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและยินดีที่จะให้เข้ามาร่วมคิด ร่วมออกแบบระบบที่ดีให้กับคนไทย ซึ่งส่วนตัวไม่อยากมองว่าเป็นการล้วงลูก ส่วนที่ว่าจะต้องปรับ หรือชะลองบประมาณหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ เพราะไม่เห็นรายละเอียดคำสั่ง และไม่อยากคิดถึงผลกระทบ เพราะจะกลายเป็นการตีตนไปก่อนไข้
       
       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี สตง. และ คตร. ระบุว่า จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนด้านงบประมาณของ สสส. ทั้งการได้งบประมาณและการใช้ไป ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ต้องฟังข้อเสนอของ คตร. ก่อน ถ้าคิดว่าจะปรับเปลี่ยนก็เสนอได้ เชื่อว่า การมีกรรมการที่หลากหลายจะช่วยดูให้มีความเหมาะสมได้ อย่างไรก็ตาม สสส.ไม่ใช่ระบบราชการ จึงมีระบบการจัดการที่แตกต่าง แต่ก็มีประสิทธิภาพและโปร่งใส จึงต้องทำความเข้าใจตรงนี้ให้ชัดเจน
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคณะกรรมการชุดกำหนดทิศทาง สสส. มีข้อสรุปให้ปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน ก็พร้อมที่จะปรับตัวตามนั้นหรือไม่ ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ภายใน สสส. ก็มีคณะกรรมการตรวจสอบตลอด มีคณะทำงานเรื่องธรรมาภิบาล มีการเปิดเผยข้อมูล มีการจัดทำโครงการคุณธรรม และโครงการอื่น ๆ และก็ปรับตัวเองมาตลอด ไม่ได้รอให้มีคนมาวิจารณ์ก่อน อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบของ สตง. และหน่วยงานอื่น ๆ ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นมีปัญหา เพิ่งจะมามีปัญหาปีนี้ ซึ่งก็เป็นเพียงเรื่องที่พูดกันมากกว่า และยังเชื่อเรื่องความบริสุทธิ์โปร่งใส
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลเรื่องจะมีการใช้มาตรา 44 เข้ามาปฏิรูป สสส. หรือไม่ ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ไม่ได้กังวล เพราะทำงานด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส ส่วนผู้มีอำนาจจะตัดสินใจอย่างไรก็คงเป็นวิจารณญาณ
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา มีข้อทวงติงว่า สสส. นำเงินไปสนับสนุนโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น เรื่องปฏิรูปการเมือง การหาวิธีเลือกตั้งที่ดี สำรวจภูมิทัศน์การเมืองไทย เป็นต้น ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ยืนยันว่า สสส. ดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ. มาตลอด และถูกตรวจสอบเข้มข้นอยู่ตลอดเวลา ข้อกล่าวหาต่าง ๆ ยังมองว่าเป็นความไม่เข้าใจ เช่น การสนับสนุนแผนงานสร้างเสริมนโยบายสาธารณะที่ดี (นสธ.) เมื่อทาง ผอ.นสธ. ออกมาชี้แจงก็เป็นคนละเรื่องกัน ที่ สสส. ให้ทุนไปมีความเกี่ยวโยงในการทำงานด้านนโยบายสาธารณะด้านสาธารณสุข ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับงานด้านสุขภาพอยู่ด้วยกัน
       


ASTVผู้จัดการออนไลน์    8 ตุลาคม 2558