ผู้เขียน หัวข้อ: แพทย์เตือนประชาชนรับมือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง  (อ่าน 935 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
แพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี เตือนประชาชนระวังโรคต่างๆ ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง แนะออกกำลังกายสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้ารักษาอุณหถูมิร่างกายให้อบอุ่น...

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า ช่วงนี้พื้นที่ภาคกลางมีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางวันอากาศอบอ้าว มีฝนตกตลอดวัน อากาศจะเย็นลง บางวันอากาศร้อนจัด ทำให้เด็กเล็กและผู้สูงอายุปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศไม่ทัน เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม ในแต่ละวันจะมีประชาชนที่มีอาการครั่นเนื้อ ครั่นตัว ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ไอ จาม น้ำมูกไหล เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มาใช้บริการในสถานบริการของรัฐไม่ต่ำกว่าวันละ 100 คน ถ้าประชาชนท่านใดมีอาการดังกล่าวและอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน จะต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษาให้ถูกต้อง สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 เดือน ที่มีอาการไม่ดื่มน้ำ ไม่ดื่มนม มีไข้สูง หายใจหอบ ปาก เล็บ มือ เท้าเขียว และกระสับกระส่าย จะต้องรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว เด็กจะได้ปลอดภัย

ทั้งนี้ การป้องกันโรคในระบบทางเดินหายใจ ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น สวมใส่เสื้อผ้าให้พอเหมาะกับสภาพอากาศ อาบน้ำอุ่น รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่มีคนแออัด เช่น โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า หรือบนรถโดยสารที่มีผู้โดยสารมากๆ ท่านจะปลอดภัยจากโรคดังกล่าว นอกจากนั้น ยังพบว่ายังมีโรคติดต่อที่นำโดยสัตว์และแมลงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

น.พ.นรินทร์รัชต์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการป้องกันโรคที่มาในช่วงฤดูฝน ขอย้ำเตือนประชาชนให้หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น มีภูมิต้านทานโรค โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุควรดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศมีความชื้นสูง หนาวเย็น จะทำให้ร่างกายที่มีระดับภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าคนวัยอื่นๆ อยู่แล้ว จึงมีโอกาสติดเชื้อโรคทางเดินหายใจได้ง่าย

"ควรดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำต้ม รับประทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ไม่มีแมลงวันตอม ล้างมือและฟอกสบู่ให้สะอาดก่อนและหลังรับประทานอาหาร ห้ามถ่ายอุจจาระลงในน้ำ ควรตรวจดูโอ่งน้ำ หรือภาชนะเก็บน้ำอื่นให้มีฝาปิดมิดชิด เปลี่ยนน้ำจานรองขาตู้ แจกันไม้ประดับทุก 7 วัน ทำลายแหล่งน้ำที่มีน้ำขัง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย หลังเดินย่ำน้ำ หรือลุยน้ำสกปรกต้องล้างเท้าให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นที่ชื้นแฉะที่มีการเลี้ยงสัตว์ และสัมผัสปัสสาวะสัตว์ นอกจากนี้ ให้ดูแลทำความสะอาดบ้านเรือน ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษ หรือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวัน" นพ.นรินทร์รัชต์ กล่าว.

Thairath