ผู้เขียน หัวข้อ: อนามัยโลกประกาศ ‘แอสปาร์แตม’ เป็นสารอาจก่อมะเร็ง ผู้เชี่ยวชาญชี้ยังกินในระดับ  (อ่าน 89 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ได้จัดให้สารแอสปาร์แตม ซึ่งเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มักใช้ในหลายผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ น้ำอัดลม หมากฝรั่ง ไอศกรีม อาหารเช้าซีเรียล ไปจนถึงยาสีฟัน เป็น “สารที่อาจก่อมะเร็งในมนุษย์” แม้จะไม่มีการปรับระดับการบริโภคอย่างเหมาะสมต่อวันก็ตาม

องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (ไอเออาร์ซี) ของดับเบิลยูเอชโอได้ทำการประเมินการก่อมะเร็งของสารแอสปาร์แตมเป็นครั้งแรกในการประชุมที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 6-13 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยดับเบิลยูเอชโอได้ระบุว่า “คณะทำงานได้จัดให้สารแอสปาร์แตมเป็นสารอาจก่อมะเร็งในมนุษย์” โดยจัดให้อยู่ในกลุ่ม 2บี ตามหลักฐานที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งแสดงความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับมะเร็งตับชนิด hepatocellular carcinoma

นายพอล ฟาโรห์ ศาสตราจารย์ระบาดวิทยาโรคมะเร็งจากศูนย์การแพทย์ซีดาร์-ซีนาย นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่า สารอื่นๆ อาทิ สารสกัดจากว่านหางจระเข้ กรดคาเฟอิกที่พบในชาและกาแฟ ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 2บีเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้ว ประชาชนทั่วไปไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีประเภทกลุ่ม 2บี

นายฟรานเซสโก้ บรานก้า ผู้อำนวยการด้านโภชนาการและความปลอดภัยด้านอาหารของดับเบิลยูเอชโอกล่าวระหว่างแถลงข่าวนำเสนอผลของการตรวจสอบ 2 ครั้งจากหลักฐานที่เกี่ยวกับสารแอสปาร์แตมว่า “เราไม่ได้แนะนำให้บริษัทต่างๆ นำผลิตภัณฑ์ของตนเองออกหรือแนะนำให้ผู้บริโภคเลิกรับสารดังกล่าวทั้งหมด เราเพียงแต่แนะนำให้มีการใช้สารแอสปาร์แตมในระดับที่เหมาะสม”

ด้านคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหาร (เจอีซีเอฟเอ) ที่ก่อตั้งโดยดับเบิลยูเอชโอและองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ก็ได้มีการหารือกันที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายนถึง 6 กรกฎาคม เพื่อประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับสารแอสปาร์แตมเช่นกัน โดยได้ข้อสรุปว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนปริมาณที่บริโภคได้ต่อวัน (เอดีไอ) ของสารแอสปาร์แตมซึ่งกำหนดไว้เมื่อปี 1981 ไว้ที่ 0-41 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัมของน้ำหนักตัว

ตามปกติแล้ว น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล 1 กระป๋องจะมีปริมาณสารแอสปาร์แตมอยู่ที่ 200 หรือ 300 มิลลิกรัม ทำให้ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัมจะต้องบริโภคน้ำอัดลมชนิดไม่มีน้ำตาลมากกว่า 9 ถึง 14 กระป๋องต่อวันจึงจะเกินระดับปริมาณที่บริโภคได้ต่อวัน นายบรานก้ากล่าวว่า สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นครั้งคราวนั้นยังไม่ต้องรู้สึกกังวลแต่อย่างใด

© Matichon
14 กค 2566