บอร์ด กพฉ. เลือก หมออัจฉริยะ แพงมา อดีต ผอ.สำนักจัดระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นเลขาธิการ สพฉ. คนใหม่ ด้วยคะแนน 12 เสียง จากทั้งหมด 17 เสียง เบียด หมออนุชา เลขาฯ สพฉ. ที่ลงสมัครวาระที่สองขาดลอย พบเป็น 1 ในทีมแพทย์ออกแถลงข่าวอาการอาพาธ พระธัมมชโย
วันนี้ (18 ม.ค.) ในการประชุมคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน (กพฉ.) ซึ่งมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รับมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน มีวาระการพิจารณาเลือกเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เพื่อแทน นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ. ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 28 ก.พ. 2560 โดยคณะกรรมการสรรหาได้พิจารณาคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายจำนวน 3 คนเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด กพฉ. ได้แก่
1. นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร ซึ่งลงสมัครเลขาธิการ สพฉ.วาระที่สอง
2. นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน รพ.ราชวิถี และ
3. ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา ผอ.ศูนย์ลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศกรุงเทพ รพ.กรุงเทพ
ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีกรรมการเข้าร่วมครบองค์ประชุมทั้งหมด 17 คน
นพ.ปิยะสกล กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือตามข้อเรียกร้องว่าการสรรหาเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าเป็นไปตามกฎหมายและถูกระเบียบ จึงดำเนินการคัดเลือกเลขาธิการ สพฉ. ต่อได้ โดยให้ผู้ผ่านการสรรหาทั้ง 3 คน ได้แสดงวิสัยทัศน์ จากนั้นจึงทำการโหวตเลือก ผลสรุปคือ นพ.อัจฉริยะ แพงมา ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการ สพฉ. คนใหม่ ด้วยคะแนน 12 เสียง ส่วน นพ.อนุชา ได้รับเลือก 2 เสียง นพ.ไพโรจน์ 2 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง สำหรับการเลือกอยู่ที่กรรมการพิจารณาและลงคะแนน แต่หลักๆ ต้องมีวิสัยทัศน์ชัด และการวางเป้าหมายการทำงานให้ชัดเจน ความมุ่งมั่นในการทำงานด้วย ซึ่งทุกคนก็มีการนำเสนอการทำงานต่างๆ โดย นพ.อัจฉริยะ มีความเข้าใจในระบบการทำงาน เพราะเคยอยู่ใน สพฉ. มีประสบการณ์ และวางแผนพัฒนาไปข้างหน้า เข้าใจงานดี โดยเฉพาะเรื่องกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาทุกที่ดีทุกสิทธิ หรือ EMCO จะมีการผลักดันต่อไป
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า สำหรับเรื่องนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ ขณะนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กำลังจัดทำกฎกระทรวงเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการดำเนินการ โดยตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณายกร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว แต่จะต้องหารือกับ สพฉ. ให้ชัดเจน ซึ่งการออกเป็นกฎกระทรวงก็จะช่วยให้การดำเนินงานตามนโยบาย โดยเฉพาะกับ รพ.เอกชน ไม่จำเป็นต้องลงนาม MOU ร่วมกันแล้ว โดยขอให้ สบส. หารือกับ สพฉ. 3 กองทุนสุขภาพ และปลัด สธ. ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้จัดทำกรอบระยะเวลาของการออกกฎกระทรวง ว่า แต่ละขั้นตอนต้องแล้วเสร็จเมื่อใด โดยการออกกฎกระทรวงขอให้แล้วเสร็จภายในต้น เม.ย. นี้ เพื่อให้ใช้ได้ทันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สำหรับอัตราค่าใช้จ่ายที่จะจ่ายให้กับ รพ. เมื่อบริการเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขณะนี้ส่วนใหญ่ รพ.เอกชน เห็นด้วย
สำหรับ เรืออากาศเอก นพ.อัจฉริยะ แพงมา ปัจจุบันอายุ 46 ปี จบการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตั้งแต่ปี 2537 จบการศึกษาเฉพาะทาง สาขาเวชศาสตร์การบิน จากสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ นอกจากนี้ ยังมีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัวด้วย สำหรับประวัติการทำงาน เคยเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลจันทรุเบกษา กองทัพอากาศ แพทย์ประจำโรงพยาบาลกองบิน 71 กองทัพอากาศ แพทย์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์การบิน ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน รพ.กรุงเทพ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักจัดระบบการแพทย์ฉุกเฉิน สพฉ. นอกจากนี้ ยังเคยปฏิบัติงานแพทย์เวชศาสตร์การบิน ดูแลนักบินผู้คนในอากาศยาน กองทัพอากาศ และยังเป็นผู้จัดระบบการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศยานให้กับศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลจนได้รับการรับรองจาก European Aeromedical Institute และ Commission on Accreditation of Medical Transport Service นอกจากนี้ ยังปรากฏข่าวเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่ออกมาแถลงข่าวอาการอาพาธของ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เมื่อช่วงปี 2559
โดย MGR Online 18 มกราคม 2560