ภาพ : พิธีกรรมอำลามหานทีสีมรกต
ภาพโดย : แรนดี โอลสัน
คำบรรยายภาพ : ชนเผ่าเอลโมโลจับปลาตามวิถีดั้งเดิมโดยใช้แหลนและความอดทนในท้องน้ำใกล้ชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบเทอร์แคนา
โครงการพัฒนาทางต้นนํ้าของทะเลสาบเทอร์แคนาอาจทำให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายสภาพเป็นแอ่งฝุ่น และทำลายวิถีชีวิตของชนเผ่าในท้องถิ่น
ยามเช้าที่อากาศร้อนวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ กัลเต เนียเมโต ยืนอยู่ริมทะเลสาบเทอร์แคนา พลางกวาดสายตามองเพื่อให้แน่ได้ว่าไม่มีจระเข้ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น เนียเมโตผู้เป็นแม่หมอประจำเผ่าดาฮาซานัชมีคนไข้ต้องรักษา และจะเป็นเรื่องอัปมงคลอย่างยิ่งทั้งในแง่จิตวิญญาณและร่างกาย หากพิธีกรรมถูกขัดจังหวะจากสัตว์ที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณอันชั่วร้าย
ห้วงน้ำสีน้ำตาลพลิ้วไหวเป็นระลอกตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้างจากปลายปีกของนกฟลามิงโกหรือปลาที่ดำผุดดำว่าย ไม่มีวี่แววของจระเข้ ไม่มีกระทั่งวัวหรืออูฐสักตัว เนียเมโตซึ่งดูพออกพอใจพาหญิงสาวนามเซทีล กัวโกล ลงไปในน้ำ บอกให้นั่งลงและชำระร่างกาย กัวโกลวักน้ำขึ้นรดใบหน้าและแผ่นหลัง
ขณะเดียวกัน แม่หมอเนียเมโตก็ใช้มือตักโคลนข้นๆขึ้นมา และรีบกอบโคลนที่หยดเป็นทางพอกไปตามแนวสันหลังที่ปูดโปนของกัวโกล
บาดับ (จงไปให้พ้น) เนียเมโตท่องคำคำนี้ไปด้วยทุกครั้งที่พอกโคลน เพื่อขับไล่ความตายด้วยวจีกรรมและกายกรรม ทะเลสาบคือสถานที่ชำระล้าง นางบอก
เนียเมโตเป็นที่รู้จักในฐานะแม่หมอผู้เป็นที่พึ่งสุดท้าย เมื่อวิธีอื่นไร้ผล ไม่ว่าจะเป็นยาจากคลินิก พระเจ้าในโบสถ์ของคนขาว หรือองค์กรสาธารณกุศลในอาคารปูน ชาวบ้านจะพาความป่วยไข้และความกลัวมาหานาง ส่วนเนียเมโตจะหยิบยื่นความหวังให้คนเหล่านั้นแลกกับเศษเงิน
ฉันนี่แหละป้ายสุดท้ายก่อนไปยมโลก เนียเมโตบอกอย่างนั้น
เนียเมโตพอกโคลนและล้างตัวให้กัวโกลด้วยสัมผัสของมารดาท่ามกลางแสงแดดแผดเผาในยามเช้า เมื่อพิธีเสร็จสิ้นลง เธอก็พยุงกัวโกลให้ลุกขึ้น ทั้งคู่เดินจับมือกันขึ้นจากน้ำ
เราจะไม่มองกลับไป เนียเมโตบอกอย่างขึงขัง เราทิ้งวิญญาณชั่วร้ายพวกนั้นไว้ข้างหลังแล้ว
ส่วนกัวโกลที่เนื้อตัวสั่นเทิ้มเพราะความหนาว และร่างผอมบางราวต้นอ้อบอกว่า ฉันเชื่อว่าฉันต้องหายค่ะ
เซลีโชเป็นเมืองเล็กๆ ในภูมิภาคอันห่างไกลที่สุดแห่งหนึ่งของแอฟริกาตะวันออก แทบจะเรียกได้ว่าตั้งอยู่ทางเหนือสุดของเคนยา ห่างจากถนนสายหลักที่ใกล้ที่สุดกว่า 400 กิโลเมตร และเดินอีกไม่เท่าไรก็ถึงชายแดนเอธิโอเปีย หากหมายจะไขว่คว้าหรือมองหาอะไรสักอย่างที่ให้ความหวัง สิ่งนั้นก็คงอยู่ไม่ไกลจากประตูบ้านของเนียเมโตเท่าไรนัก และการที่เธอใช้ทะเลสาบในรักษาโรคก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ศรัทธาและความหวังอยู่คู่กับสายน้ำที่นี่เป็นธรรมดา และ ณ ตอนนี้ ทะเลสาบเทอร์แคนาก็หยิบยื่นสิ่งเหล่านี้ให้อย่างโอบอ้อมอารี
นี่คือทะเลสาบถาวรกลางทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และดำรงอยู่ในภูมิภาคนี้มาราวสี่ล้านปีแล้วมีทั้งช่วงเวลาที่แผ่ขยายและหดตัวอยู่ในร่องภูเขาไฟที่ทอดยาวไปตามขอบหุบเขาเกรตริฟต์แวลลีย์ โฮมินินโบราณอาศัยอยู่ริมทะเลสาบแห่งนี้ และมนุษย์ยุคแรกๆก็ล่าสัตว์ เก็บของป่า และจับปลากันที่นี่ขณะเดินทางขึ้นเหนือในการอพยพออกจากแอฟริกาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อหนึ่งหมื่นปีที่แล้ว ทะเลสาบมีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบันหลายเท่า ก่อนจะหดตัวลงเมื่อราว 7,000 ปีก่อน ชนเผ่ายุคหินใหม่ตั้งเสาหินปริศนาไว้บนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ริมชายฝั่ง และทุกวันนี้เนียเมโตเองก็สืบทอดขนบที่หยั่งรากลึกอยู่ในสายน้ำและอาจเก่าแก่มากจนไม่มีใครล่วงรู้ที่มา
แต่ทะเลสาบเทอร์แคนาก็เปราะบางไม่ต่างจากแหล่งน้ำกลางทะเลทรายอื่นๆ น้ำจืดส่วนใหญ่ของที่นี่หรือคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 90 มาจากแม่น้ำโอโม ปัจจุบัน แผนการพัฒนาขนาดใหญ่ริมสองฝั่งแม่น้ำของรัฐบาลเอธิโอเปีย รวมถึงการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดยักษ์ และการผันน้ำไปหล่อเลี้ยงไร่อ้อยที่หิวกระหายจะคุกคามสายน้ำโอโมที่ไหลชั่วนาตาปีและทำให้ทะเลสาบขาดน้ำ ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ทะเลสาบเทอร์แคนาจะหดตัวและเหือดแห้งไปอย่างช้าๆ นั่นจะทำให้ผู้คนในท้องถิ่นกลายเป็นผู้อพยพจากทุ่งฝุ่นอันกว้างใหญ่ไพศาลของแอฟริกา
เผ่าของเนียเมโตอยู่ในกลุ่มคนที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโครงการอันทะเยอทะยานของเอธิโอเปีย และพวกเขายังแทบไม่มีปากเสียงที่จะคัดค้าน ดินแดนของชนเผ่าดาฮาซานัชทอดข้ามพรมแดน และยังถูกแบ่งแยกเมื่อกว่าร้อยปีก่อนโดยนักสำรวจที่มุ่งช่วงชิงผลประโยชน์ให้ฝ่ายอังกฤษด้านหนึ่งและจักรวรรดิเอธิโอเปียอีกด้านหนึ่ง การแบ่งแยกนั้นส่งผลให้ชนเผ่าดาฮาซานัชส่วนใหญ่อยู่ในเอธิโอเปีย ขณะที่กลุ่มเล็กกว่ามากอยู่ในเคนยา พวกเขาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทั้งเล็กและอ่อนแอที่สุดกลุ่มหนึ่งของเคนยา
มีชาวดาฮาซานัชสัญชาติเคนยาอยู่ราว 10,000 คน แต่เพิ่งมีผู้แทนจากการเลือกตั้งคนแรกเมื่อไม่นานนี้ ทว่าเป็นเพียงผู้แทนระดับภูมิภาค ห่างไกลจากรัฐสภาในกรุงไนโรบีชนิดไม่เห็นฝุ่น และอยู่เกือบท้ายแถวเมื่อพูดถึงการได้รับความช่วยเหลือจากทางการ
ไมเคิล โมโรโต โลมาลิงกา หัวหน้าเผ่าดาฮาซานัช ตระหนักถึงความเป็นคนชายขอบเกือบจะตั้งแต่ เขาลืมตาดูโลกที่นี่เมื่อราว 60 ปีก่อน ทางการไม่นับพวกเราครับ โมโรโตซึ่งใช้เพียงชื่อกลาง บอก ในการสำรวจสำมะโนประชากร พวกเราจัดอยู่ในกลุ่ม อื่นๆ คุณคงพอเข้าใจนะครับว่านี่แหละปัญหา
โมโรโตอาศัยอยู่ในเยลเรต หมู่บ้านเลี้ยงแพะฝุ่นตลบไม่ไกลจากเซลีโช บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบ เขาก็ไม่ต่างจากหัวหน้าเผ่าอื่นๆในเคนยาที่ได้รับการแต่งตั้งจากทางการ โมโรโตอยู่ในตำแหน่งนี้มาเกือบ 20 ปีแล้วโดยทำหน้าที่คล้ายนายกเทศมนตรีของเมืองเล็กๆ ที่คอยรับเรื่องร้องทุกข์สารพัด แต่เมื่อเดือนเมษายน ปี 2014 หลังภัยแล้งต่อเนื่องยาวนาน โมโรโตต้องเผชิญปัญหาร้ายแรงกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา นั่นคือความขัดแย้งเกี่ยวกับการใช้น้ำ
ทางตะวันออก ชนเผ่ากับบราต้อนปศุสัตว์เข้ามาหากินในดินแดนของชาวดาฮาซานัช ขณะที่ทางตะวันตก ชนเผ่าเทอร์แคนาข่มขู่คุกคามชาวประมงดาฮาซานัชในทะเลสาบ ทั้งสองเผ่ามีขนาดใหญ่กว่าเส้นสายทางการเมืองดีกว่า และครอบครองอาวุธผิดกฎหมายมากกว่าชาวดาฮาซานัช
แต่ในเรื่องนี้ชนเผ่าดาฮาซานัชก็หาได้ซื่อใสไร้เดียงสา พวกเขามีศักดิ์ศรีและอาวุธ จึงโต้กลับอย่างหนักหน่วงและบ่อยครั้งก็เป็นฝ่ายก่อเรื่องเสียเอง โมโรโตในฐานะหัวหน้าเผ่าต้องพยายามป้องปรามไม่ให้โทสะลุกลามจนนำไปสู่วัฏจักรเก่าแก่แห่งการเข่นฆ่าและล้างแค้นซึ่งมักกินเวลาหลายชั่วอายุคน
ชาวดาฮาซานัชอย่างเราเป็นคนชายขอบครับ โมโรโตบอก สู้กันไปเรามีแต่เสียกับเสีย แถมรัฐบาลยังไม่ช่วยอะไร พวกเขาไม่จัดการกับความขัดแย้งเวลาทุกอย่างสงบ แต่จะลุกขึ้นมาสร้างสันติภาพเฉพาะเวลาเกิดปัญหาเท่านั้น
และความขัดแย้งก็ส่อเค้ามาแล้ว เพราะนอกจากการกระทบกระทั่งอันเป็นปกติวิสัยของเหล่าชนเผ่ากลางทะเลทรายแล้ว ยังมีเขื่อนกับไร่อ้อยรออยู่ บรรดาผู้นำทางการเมืองในไนโรบีแทบไม่อินังขังขอบแต่โมโรโตรู้ดีว่า ทะเลสาบที่หดตัวลงจะนำมาซึ่งความรุนแรงมากแค่ไหน
เรื่องโดย นิล ชี
สิงหาคม 2558