ผู้เขียน หัวข้อ: ล้อมวงกินกลางสมุทร-สารคดี-เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก  (อ่าน 910 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด

ภาพ : ล้อมวงกินกลางสมุทร
ภาพโดย : พอล นิกเคลน
คำบรรยายภาพ : วาฬเพชฌฆาตล่าปลาเฮร์ริงในน่านน้ำรอบอันด์ฟยอร์เดนในนอร์เวย์ สมาชิกในฝูงเคลื่อนไหวสอดประสานกันเพื่อต้อนปลาเฮร์ริงให้เกาะกลุ่มอย่างแน่นหนาคล้ายลูกบอลยักษ์ จากนั้นจึงฟาดหางเข้าไปที่ฝูงปลาเพื่อฆ่าหรือทำให้มึนงง ก่อนจะรุมกินโต๊ะ

พบสารพัดกลยุทธ์สุดทึ่ง เมื่อเหล่าวาฬเพชฌฆาตเผยความเฉลียวฉลาดให้เป็นที่ประจักษ์ ขณะร่วมมือกันออกหาอาหาร

วาฬเพชฌฆาตไม่เคยโลดแล่นอยู่ในวรรณกรรมตะวันตก แม้พวกมันจะดูคล้ายสัตว์ในตำนาน เจ้าของรูปร่างปราดเปรียว สีขาวดำตัดกันเหมือนแพนด้า และฟันแหลมคม แต่กลับไม่เคยได้รับบทตัวละครในวรรณกรรมชิ้นเอกเรื่องใดเลย ไม่มีเรื่องราวของวาฬเพชฌฆาตที่เทียบได้กับโมบี ดิก วาฬสีขาวในวรรณกรรมคลาสสิกก้องโลก ถึงกระนั้น พวกเราไม่น้อยก็มีภาพพวกมันอยู่ในใจ เพราะเคยเห็นจากภาพยนตร์ที่มีฉากการแสดงโชว์ของวาฬเพชฌฆาตตามสวนหรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ บางคนมองว่า วาฬเพชฌฆาตในสถานเพาะเลี้ยงต้องทนทุกข์กับความบอบช้ำทางจิตใจเพราะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น

ความคิดอย่างหลังนี้ช่างน่าปวดใจ  เพราะถ้าคุณมีโอกาสได้สัมผัสกับวาฬเพชฌฆาตในธรรมชาติ คุณจะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ขาดหายไปในการแสดงโชว์ นั่นคือจิตวิญญาณ ความฉลาดหลักแหลม ความสุข และปฏิภาณไหวพริบ

วันหนึ่งของเดือนมกราคมที่อากาศหนาวเหน็บ  ฉันมีโอกาสได้อยู่ท่ามกลางเหล่าวาฬเพชฌฆาต (Orcinus orca) สีขาวสลับดำหลายร้อยตัว  จริงๆแล้วพวกมันไม่ใช่วาฬ  หากเป็นโลมาขนาดใหญ่ที่สุดมากกว่า  พวกมันแหวกว่ายตามกันอย่างรวดเร็วราวกับฝูงหมาป่าไปตามท้องน้ำของอันด์ฟยอร์เดนในนอร์เวย์ หลังและครีบหลังสูงตระหง่านทอประกายในแสงอาทิตย์อัสดงของดินแดนอาร์กติก  ขณะที่พวกมันดำผุดดำว่ายและทำงานเป็นทีมเพื่อล้อมฝูงปลาเฮร์ริงไว้ ก่อนจะทำให้มึนงงและจับกินเป็นอาหาร

นานๆครั้งวาฬเพชฌฆาตตัวหนึ่งจะใช้หางฟาดผิวน้ำ พวกมันทำเช่นเดียวกันเวลาอยู่ใต้น้ำซึ่งเปรียบเหมือนสัญญาณมรณะสำหรับปลาเฮร์ริง  ตามคำอธิบายของทีอู ซีมีแล นักชีววิทยาด้านซีเทเชียน (Cetacean) หรือสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม และมีส่วนในการบุกเบิกการศึกษาวาฬเพชฌฆาตในนอร์เวย์  ทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกลยุทธ์การล่าที่เรียกว่า  การล้อมวงกินแบบม้าหมุน (carousal feeding)  ของวาฬเพชฌฆาต   เธอขยายความว่า  แรงกระแทกจากการฟาดหางไม่ได้ทำให้ปลาเฮร์ริงตายเสมอไป  แต่ก็อาจทำให้มึนงงจนกลายเป็นเป้านิ่งให้ถูกจับกินได้ง่ายๆ “สิ่งที่เราเห็นบนผิวน้ำเป็นเพียงเบาะแสที่บ่งบอกว่าเกิดอะไรขึ้นใต้ผิวน้ำ “วาฬแต่ละตัวมีหน้าที่ของตัวเอง  จะว่าไปก็เหมือนการเต้นบัลเลต์  พวกมันเคลื่อนไหวสอดประสานกันอย่างดี  ต้องสื่อสารและตัดสินใจร่วมกันว่าจะทำอะไรต่อไป”

ทั้งๆที่ปลาเฮร์ริงมีจำนวนมากมายมหาศาล  แต่ก็ใช่ว่าวาฬเพชฌฆาตจะจับกินได้ง่ายๆ  เพราะปลาเฮร์ริงว่ายน้ำเร็วกว่าและเกาะกันเป็นกลุ่มก้อนแน่นหนาเหมือนกำแพงป้องกันการโจมตี วาฬเพชฌฆาตไม่สามารถทำแบบเดียวกับวาฬกรองกินที่พุ่งเข้าชาร์จเหยื่อพร้อมอ้าปากกว้างกลืนทั้งปลาและน้ำเข้าไปพร้อมกันได้ แต่พวกมันใช้วิธีต้อนเหยื่อให้เกาะกลุ่มกันแน่นเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมลักษณะเดียวกับสุนัขเลี้ยงแกะต้อนฝูงแกะ  ซีมีแล อธิบายว่า “วาฬเพชฌฆาตต้องพยายามกันไม่ให้ปลาเฮร์ริงดำหนีลงไปใต้น้ำ พวกมันจึงต้องคอยต้อนให้ปลาเฮร์ริงว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำและเกาะกลุ่มกันเหมือนลูกบอลยักษ์ด้วยการว่ายวนไปรอบๆ”

สมาชิกในฝูงวาฬเพชฌฆาตจะผลัดกันว่ายลงไปใต้ฝูงปลาเฮร์ริงและว่ายวนเวียนขึ้นๆ ลงๆ เหมือนม้าหมุน   พร้อมพ่นฟองอากาศออกมา  ส่งเสียงร้อง และตีลังกาหงายท้องสีขาวเพื่อขู่ให้เหยื่อตกใจ  ซึ่งทำให้ฝูงปลาเฮร์ริงยิ่งว่ายเกาะกลุ่มกันแน่นขึ้น เมื่อฝูงวาฬเพชณฆาตบีบวงล้อมเข้ามาเต็มพิกัด ปลาเฮร์ริงจะพยายามหนีตายด้วยการกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ  “จนดูเหมือนทะเลกำลังเดือดปุดๆเลยละค่ะ” ซีมีแลบอก

เมื่อฝูงวาฬควบคุมฝูงปลาเฮร์ริงได้อยู่หมัดแล้ว วาฬตัวหนึ่งในฝูงจะใช้หางฟาดเข้าที่บริเวณรอบนอกของฝูงปลาเฮร์ริงเพื่อทลายปราการป้องกัน ก่อนจะลงมือกินอย่างเอร็ดอร่อย

การล้อมวงกินแบบม้าหมุนเป็นหนึ่งในหลายเทคนิคที่วาฬเพชฌฆาตใช้ล่าเหยื่อ นักวิทยาศาสตร์บางคนรวมถึงซีมีแลมองว่า  นี่เป็นแง่มุมหนึ่งใน “วัฒนธรรม” ของสัตว์ชนิดนี้ซึ่งรวมถึงกลยุทธ์หลายอย่างสำหรับใช้ล่าเหยื่อแต่ละชนิด  ในอาร์เจนตินา วาฬเพชฌฆาตใช้วิธีพุ่งตัวขึ้นไปบนฝั่งเพื่อจับลูกสิงโตทะเลที่ไม่ทันระวังตัว ขณะที่ฝูงวาฬเพชฌฆาตในแถบแอนตาร์กติกาช่วยกันทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่จนซัดแมวน้ำตกลงมาจากแพน้ำแข็ง วาฬที่อายุน้อยกว่าจะเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้จากวาฬที่อาวุโสกว่า

วาฬเพชฌฆาตเป็นสัตว์ในวงศ์เดลฟินิดี (Delphinidae) และเป็นซีเทเชียนที่อาศัยอยู่กระจัดกระจายมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมด แต่ถึงจะพบวาฬเพชฌฆาตได้ในทุกน่านน้ำมหาสมุทรและทุก ละติจูด ตั้งแต่อาร์กติกลงไปจรดแอนตาร์กติกา  พวกมันก็ยังคงเป็นปริศนา  เราไม่รู้แม้กระทั่งว่า พวกมันมีอยู่ด้วยกันกี่ชนิดและมีกี่ชนิดย่อย (subspecies) จากจำนวนประชากรทั้งหมดที่ประเมินคร่าวๆว่าน่าจะมีอย่างน้อย 50,000 ตัว

ซีมีแลซึ่งศึกษาวาฬเพชฌฆาตในนอร์เวย์มาตลอด 20 ปี เฝ้าติดตามพวกมันทุกฤดูหนาว ขณะพวกมันมุ่งหน้าสู่ฟยอร์ดเพื่อไล่ล่าปลาเฮร์ริง เธอและเพื่อนร่วมงานตะลุยถ่ายภาพวาฬเพชฌฆาตให้ได้มากที่สุดเพื่อให้สามารถระบุตัวได้ และยังดำลงไปใต้น้ำเพื่อถ่ายภาพพวกมันขณะกินเหยื่อ

ซีมีแลเล่าว่า “สมัยนั้นเราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวาฬเพชฌฆาตพวกนี้เลย ผู้คนบอกต่อกันมาว่า พวกมันอันตรายและเป็นเหมือนศัตรูพืชแห่งท้องทะเล  พวกมันกินปลาของเราจนหมด”

ชาวประมงยิงวาฬเพชฌฆาตทุกครั้งที่เห็น และคร่าชีวิตพวกมันไป 346 ตัวระหว่างปี  1978 ถึงปี 1981 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการล่าวาฬเพชฌฆาตเพื่อลดจำนวนประชากร (culling) อย่างไรก็ตาม ชาวนอร์เวย์จำนวนไม่น้อยยังคงมองว่า วาฬเพชฌฆาตเป็นเครื่องจักรสวาปามปลาเฮร์ริงจนกระทั่งถึงปี 1992 ในปีนั้น สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้แพร่ภาพวิดีโอการศึกษาวิจัยของซีมีแลมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกมันค่อยๆกินปลาเฮร์ริงทีละตัวอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ใช่กวาดต้อนกินเข้าไปทั้งฝูงอย่างตะกละตะกลาม 

ดูเหมือนฝูงวาฬเพชฌฆาตที่สูญเสียสมาชิกไปจากการถูกยิง หรือมีสมาชิกที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนหรือคมฉมวกจะไม่เคยลืมประสบการณ์เหล่านั้นเลย ซีมีแลเล่าว่า “เราเห็นแผลเป็นจากกระสุนบนวาฬเพชฌฆาตบางตัว  เราไม่สามารถเข้าใกล้ฝูงเหล่านั้นได้เลยกระทั่งถึงตอนนี้  ทันทีที่พวกมันได้ยินเสียงมอเตอร์เรือ พวกมันจะว่ายหนีทันที”

ฝูงวาฬเพชฌฆาตใช้ระบบแม่ใหญ่หรือมีวาฬเพศเมียเป็นจ่าฝูง  และซีมีแลคิดว่าบรรดา “แม่ผู้ชาญฉลาด” เหล่านี้สอนลูกๆให้หลีกเลี่ยงเรือประมง ซึ่งเปรียบเหมือนการสืบทอดความทรงจำของฝูงจากรุ่นสู่รุ่น ซีมีแลบอกว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกมันสื่อสารเรื่องนี้กันด้วยวิธีไหน บางทีอาจจะเป็นการที่จ่าฝูงพาตัวอื่นๆหลบไปเวลาได้ยินเสียงมอเตอร์เรือก็เป็นได้”

เรื่องโดย เวอร์จิเนีย มอเรลล์
กรกฎาคม 2558