ผู้เขียน หัวข้อ: ฟัน8รพ.ผิดวินัย ทุจริตซูโดฯ สธ.ระงับคำสั่งซื้อ  (อ่าน 1045 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9787
    • ดูรายละเอียด
รมว.สธ.เผยความคืบหน้าสรุปกรณี 8 โรงพยาบาลรัฐ มีปัญหาเรื่องการสั่งซื้อยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน สั่งระงับซื้อพร้อมเดินหน้าลงโทษทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้อง ด้าน ผอ.รพ.ชลบุรีรีบแถลงยันไม่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบ ยันทำตามขั้นตอน...

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม อ.ก.พ. กระทรวงสาธารณสุข ว่าได้รายงานที่ประชุมฯ เกี่ยวกับความคืบหน้าของการดำเนินการ กรณียาซูโดอีเฟดรีน มีข้าราชการมีส่วนเกี่ยวข้อง และได้ดำเนินการทางวินัย ดังนี้ ด้านการตรวจสอบข้อมูลจากการตรวจสอบข้อมูลการสั่งซื้อยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนของโรงพยาบาลรัฐ พบว่า มีปัญหาจำนวน 8 แห่งคือ โรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โรงพยาบาลทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ โรงพยาบาลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลฮอด จังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาลดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ โรงพยาบาลเสริมงาม จังหวัดลำปาง

นายวิทยา กล่าวว่า การดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งระงับการสั่งซื้อและสั่งจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนแล้ว และแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนทางวินัย ข้าราชการของโรงพยาบาลผู้ที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 แห่ง และสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดังนี้ กรณีโรงพยาบาลอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ นายสมชาย แซ่โค้ว ตำแหน่งเภสัชกรชำนาญการ และแจ้งความดำเนินคดีอาญาแล้ว ขณะนี้นายสมชาย แซ่โค้ว ได้ละทิ้งหน้าที่ราชการไปแล้ว และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย

กรณีโรงพยาบาลทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ข้าราชการ 1 ราย และแจ้งความดำเนินคดีอาญาแล้ว และกระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้ข้าราชการ 2 ราย ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรณีโรงพยาบาลกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ กระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ ข้าราชการ 2 ราย วินัยไม่ร้ายแรง 4 ราย แจ้งความดำเนินคดีอาญา และมีคำสั่งให้ ข้าราชการ 3 ราย ไปปฏิบัติราชการที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว กรณีโรงพยาบาลฮอด จังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแก่ข้าราชการ 2 ราย และวินัยไม่ร้ายแรง 1 ราย และกระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้ ข้าราชการ 3 ราย ไปปฏิบัติราชการที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า กรณีโรงพยาบาลดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้าย แก่ ข้าราชการ 1 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวน และได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว กรณีโรงพยาบาลภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานสถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ ไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป กรณีโรงพยาบาลหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบหลักฐานการนำยาเข้าคลังและหลักฐานการเบิกจ่ายแล้ว ไม่พบความผิดปกติในปริมาณการใช้และไม่พบการสูญหาย และมียาบางส่วนเภสัชกร ของโรงพยาบาลหนองกี่ เป็นผู้สั่งซื้อให้ตนเองโดยสวมสิทธิ์สั่งซื้อในนามโรงพยาบาล เพื่อนำยาดังกล่าวไปจำหน่ายในร้านขายยาของตน ขณะนี้จังหวัดบุรีรัมย์กำลังดำเนินการสอบสวนทางวินัย และกรณีโรงพยาบาลเสริมงาม จังหวัดลำปาง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน พบว่ามียอดสั่งซื้อยาจริงจำนวนหนึ่ง และมีอดีตเภสัชกร (ลาออกจากราชการไปก่อนหน้านี้แล้ว) เป็นผู้สั่งซื้อให้ตนเองโดยวิธีสวมสิทธิ์สั่งซื้อในนามโรงพยาบาลเสริมงาม และใช้เงินส่วนตัวจ่ายค่ายา แล้วได้นำยาดังกล่าวไปจำหน่ายในร้านขายยาของตนเอง

วันเดียวกัน นพ.ชาตรี ตันติยวรงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ชลบุรี แถลงว่า ตามที่มีหนังสือพิมพ์เสนอข่าวมีชื่อโรงพยาบาล จ.ชลบุรี มียาซูโดอีเฟดรีน อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบด้วยนั้น พอมีข่าวออกมาทำให้มีคนโทรศัพท์มาสอบถามจนสายแทบไหม้ รวมทั้งนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีด้วย ดังนั้นวันนี้จึงขอชี้แจงเรื่องนี้ผ่านสื่อมวลชน ว่าทางโรงพยาบาลศูนย์ชลบุรีมีการคุมเข้มในการซื้อ การจ่าย และตอนนี้ยาซูโดอีเฟดรีนของเราเหลืออยู่ในสต๊อกประมาณ 800,000 เม็ด และไม่มีการจ่ายแต่ได้เก็บเอาไว้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขสั่งห้าม ซึ่งสามารถให้ตรวจสอบได้.

ไทยรัฐออนไลน์  1 เมษายน พ.ศ.2555