ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.รณรงค์ล้างส้วมรับการเดินทางช่วงสงกรานต์  (อ่าน 1035 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9787
    • ดูรายละเอียด
ระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ 77 จังหวัด ล้างส้วมรับสงกรานต์ ประสานปั๊มน้ำมันกว่า 500 แห่ง ยกเครื่องสุขา พร้อมรับประชาชนกลับบ้านเนื่องในวันปีใหม่ไทย...

นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวรณรงค์ “ล้างส้วมพร้อมกัน รับสงกรานต์” ร่วมกับ นายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด นายสันติ อิ่มใจจิตต์ ทูตส้วม นางฐานิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารแห่งประเทศไทย และนายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ว่า ผลจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,000 คน ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อปี 2553 เกี่ยวกับส้วมสาธารณะที่มีให้บริการในสถานที่ต่างๆ อาทิ แหล่งท่องเที่ยว สถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ ปั๊มน้ำมัน ตลาดสด โรงพยาบาล สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น พบว่าปัจจัยในการตัดสินใจเลือกส้วมสาธารณะที่จะไปใช้บริการ คือ ความสะอาดของส้วม สูงถึงร้อยละ 86.3 สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้มีการปรับปรุงส้วมสาธารณะ เรื่องกลิ่นเหม็นและความสะอาดมากที่สุดร้อยละ 76.5

ทั้งนี้ ร้อยละ 97.4 ของประชาชนเห็นว่าควรมีการปรับปรุงส้วมสาธารณะและปั๊มน้ำมันเป็นสถานที่ที่ต้องการให้ปรับปรุงมากที่สุด ซึ่งตลอดปี 2554 ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้เร่งพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน HAS คือ สะอาด (Healthy) เพียงพอ (Accessibility) และปลอดภัย (Safety) โดยเฉพาะส้วมในปั๊มน้ำมัน กว่า 500 แห่ง บน 8 เส้นทางหลัก ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 1 เส้นทาง กรุงเทพฯ–เชียงราย ทางหลวงหมายเลข 2 เส้นทางสระบุรี–หนองคายและอุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 23 เส้นทาง ขอนแก่น–อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 226 เส้นทางนครราชสีมา–อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 3 เส้นทาง กรุงเทพฯ–ตราด ทางหลวงหมายเลข 4 เส้นทางนครปฐม–นราธิวาส ทางหลวงเอเชีย เส้นทางพระนครศรีอยุธยา–เชียงใหม่ และทางหลวงเอเชียพระรามที่ 2 กรุงเทพฯ–ราชบุรี ซึ่งขณะนี้ทุกแห่งผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS สะอาด เพียงพอ ปลอดภัยแล้ว

รมช.สาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้ทุกสถานบริการสาธารณะได้เตรียมความพร้อมและตื่นตัวในเรื่องความสะอาด ปลอดภัย รองรับประชาชนที่คาดว่าจะใช้บริการส้วมสาธารณะเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้รณรงค์ให้ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ล้างส้วมพร้อมกันรับสงกรานต์ระหว่างวันที่ 1-7 เม.ย.นี้ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในช่วงหน้าร้อน อาทิ โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคอุจจาระร่วงที่มีอุบัติการณ์การเกิดโรคสูง จึงต้องทำความสะอาดเป็นพิเศษในจุดที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ ได้แก่ ที่จับสายฉีดน้ำชำระ ที่รองนั่งส้วมแบบนั่งราบ ที่กดชักโครกของส้วม ที่กดโถปัสสาวะ กลอนประตู หรือลูกบิดและก๊อกน้ำที่อ่างล้างมือ เพราะอาจเป็นแหล่งปนเปื้อนเชื้อโรคได้

สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการ ควรตระหนักและเห็นความสำคัญต่อพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะอย่างถูกต้อง โดยไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ไม่ทิ้งวัสดุอื่นนอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งหลังการใช้ส้วมและล้างมือทุกครั้งหลังการใช้ส้วม เพื่อเป็นการช่วยกันดูแลและรักษาความสะอาดแก่สถานบริการ

“ทั้งนี้ ในส่วนการจัดบริการส้วมสาธารณะ กระทรวงสาธารณสุขได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศจำนวน 7 บริษัท เพื่อปรับปรุงห้องส้วมในปั๊มน้ำมันให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย และได้รับความร่วมมือจากบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในการนำข้อมูลส้วมปั๊มน้ำมันที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ลงบนแผนที่ทางหลวงประเทศไทย และแผนที่ดิจิตอล (GPS navigator) เรียบร้อยแล้วจำนวน 490 แห่ง ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก รวมถึงการจัดทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่าง รฟท. พัฒนาส้วมที่สถานีให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานมาตั้งแต่ปี 2551 เพื่อให้ส้วมสถานีรถไฟได้มาตรฐาน HAS ส่งผลให้ขณะนี้มีส้วมสถานีรถไฟผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้วทั้งสิ้น 174 สถานี จาก 442 สถานี โดยทาง รฟท. ได้ตั้งเป้าพัฒนาส้วมสถานีให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS เพิ่มขึ้นปีละ 50 สถานี รวมถึงจัดโครงการ SMART Train พัฒนาและยกระดับการให้บริการขบวนรถรวม 3 เส้นทาง คือ เส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ พร้อมปรับปรุงส้วมในรถนอนชั้น 1 ปรับอากาศ จำนวน 18 คัน ให้ได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด” นพ.สุรวิทย์ กล่าว

นพ.สุรวิทย์ กล่าวอีกว่า ส้วมสาธารณะที่ผ่านการประเมินมาตรฐาน HAS นั้น นอกจากจะได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนผู้ใช้บริการแล้ว ยังสามารถใช้ส้วมเป็นจุดขาย เช่น ปั๊มน้ำมันสามารถส่งเสริมการตลาดของตนเอง โดยมีการโฆษณาห้องน้ำสะอาด เป็นสิ่งจูงใจต่อผู้ใช้บริการ เพราะเห็นว่ามีส้วมดีแล้วประชาชนก็จะกลับมาใช้บริการอีก และยังสามารถทำให้เพิ่มรายได้จากการขายสูงขึ้นร้อยละ 20.

ไทยรัฐออนไลน์  31 มีค 2555