ผู้เขียน หัวข้อ: สลด! เด็ก3ขวบติดในรถโรงเรียน ขาดอากาศหายใจ-โคม่า  (อ่าน 725 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9782
    • ดูรายละเอียด
เด็ก 3 ขวบติดในรถรับ-ส่งนักเรียน นาน 4 ชั่วโมง คนขับรถเปิดประตูบานเลื่อนถึงกับผงะ เด็กนอนสลบอยู่ รีบนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ระบุขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน ดูอาการในไอซียูใกล้ชิด...

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2556 พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุทธิชน ธงชัยภูมิ พนักงานสอบสวน (สบ2) สภ.บางปู เข้าตรวจสอบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ หมายเลขทะเบียน ฮต 3759 กทม. ซึ่งจอดอยู่ภายในโรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท เลขที่ 146 หมู่ 2 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังจากเกิดเหตุ ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือ "น้องเอย" อายุ 3 ขวบเศษ นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนดังกล่าว ติดอยู่ในที่นั่งรถตู้รับ-ส่งของโรงเรียน เป็นเวลานานกว่า 4 ชม. จนขาดอากาศหายใจและเป็นลมหมดสติ ก่อนที่คนขับรถจะมาพบและนำตัวส่ง รพ.เมืองสมุทรปากน้ำ แล้วส่งไปรักษาต่อที่ รพ.กรุงเทพ เหตุเกิดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เชิญ น.ส.ดาวรอง ศรีสุมัง อายุ 37 ปี ครูพี่เลี้ยงชั้นอนุบาล 1 ซึ่งรับว่าเป็นคนปิดประตูรถตู้ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่โรงเรียนเปิดการเรียนพื้นฐาน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก ก่อนจะเปิดการเรียนการสอนจริงในเดือน พ.ค. ตน และนายสันติภาพ หวานใจ หรือครูเปิ้ล อายุ 35 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถ ได้ตระเวนไปรับเด็กนักเรียนตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งรับมาทั้งหมด 13 คน มาถึงลานจอดรถของโรงเรียนเวลาประมาณ 09.45 น.

หลังจากนั้น ตนก็เปิดประตูให้เด็กๆ ทยอยลงจากรถทีละคน แล้วให้เดินต่อแถวกันเข้าโรงเรียน ซึ่งตนก็เห็นว่าเด็กลงจากรถมาแล้ว ระหว่างนั้นมีเด็กนักเรียนอีกคนมีอาการเมารถและอาเจียน ตนจึงพาไปล้างตัว ทำความสะอาดให้ ขณะเดียวกัน ก็มีเด็กอีกหลายคนที่กำลังเดินต่อแถวเข้าโรงเรียนร้องไห้งอแงหาผู้ปกครอง ระหว่างนั้นเป็นช่วงที่ชุลมุน ตนก็มัวแต่ดูแลเด็ก จึงไม่ได้สังเกตว่าน้องเอยเดินกลับขึ้นไปบนรถอีก ด้วยความเร่งรีบตนจึงปิดประตูรถ ก่อนจะพาเด็กทั้งหมดไปส่งที่ห้องเรียน

จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 4 ชม. ประมาณ 13.30 น. ซึ่งเป็นช่วงเตรียมเลิกเรียนกลับบ้าน นายสันติภาพก็เดินไปที่รถตู้คันดังกล่าว เพื่อเตรียมไปส่งเด็กกลับบ้าน พอเปิดประตูเลื่อนด้านข้างก็เห็นน้องเอยนอนหมดสติอยู่ที่เบาะหลังรถ นายสันติภาพกับตนจึงช่วยกันนำตัวส่ง รพ.เมืองสมุทรปากน้ำ พร้อมทั้งติดต่อให้ผู้ปกครองน้องเอยทราบ แต่แพทย์ รพ.เมืองสมุทรปากน้ำ เห็นว่าอาการค่อนข้างหนักเพราะขาดอากาศหายใจเป็นเวลานาน และทางโรงพยาบาลไม่มีความพร้อมในการรักษา จึงส่งตัวไปให้แพทย์เฉพาะทางที่ รพ.กรุงเทพ รักษาและนำตัวเข้าห้องไอซียู

ด้านนางรัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี แม่ของน้องเอย กล่าวว่า ขณะนี้ น้องเอยยังอยู่ในห้องไอซี แพทย์ระบุว่าอาการดีขึ้น แต่ยังมีอาการชักเกร็งบางครั้ง ระหว่างนี้ต้องให้น้องเอยทำการรักษาและรอดูอาการอยู่ในห้องไอซียูอีกประมาณ 2 อาทิตย์ โดยมีแพทย์เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ นางยุวรส คีรีวงศ์ ผอ.ร.ร.อนุบาลอนงค์เวท กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และพร้อมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เบื้องตนได้มอบเงินค่ารักษาพยาบาลให้น้องเอย เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายที่เหลือทางโรงเรียนก็พร้อมจะรับผิดชอบทั้งหมดเช่นกัน

ส่วน พ.ต.ท.สุทธิชน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ได้สอบปากคำ น.ส.ดาวรอง ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ ส่วนในคดียังไม่ได้แจ้งข้อหา โดยจะเรียกคนขับรถ ผู้บริหารโรงเรียน และครูประจำชั้น อีก 4-5 คนมาสอบปากคำ เพื่อพิจารณาว่าใครเป็นผู้ที่เข้าข่ายกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

ไทยรัฐออนไลน์ 4 เมย 2556