พ่อแม่ใจสลาย ลูก 3 ขวบสิ้นใจ หลังรักษาตัวที่ รพ.ใกล้บ้าน ก่อนโคม่า ขอย้าย รพ.แต่หมอไม่ยอม บอกรับมือได้ สุดท้ายวิกฤต พอส่งตัวก็ไม่ทันแล้ว เล่านาทีบีบหัวใจ
วันที่ 20 ก.ค.66 ที่วัดนาวง ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพให้กับ น้องมีตังค์ อายุ 2 ปี 11 เดือน 28 วัน ลูกของ น.ส.อนงค์นาถ ปราบรัตน์ อายุ 33 ปี อาชีพข้าราชการครู และ นายบุรินทร์ ปราบรัตน์ อายุ 31 ปี อาชีพช่างตัดผม ซึ่ง น้องมีตังค์ เสียชีวิตที่ รพ.ตรัง เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่า เสียชีวิตด้วยอาการเชื้อไวรัสลงปอด ปอดแห้ง
ทั้งนี้ น้องมีตังค์ เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.66 จึงไปที่คลินิกแห่งหนึ่งที่ อ.ห้วยยอด โดยให้ยามากิน แต่ก็ไม่ดีขึ้น ก็รีบพาน้องไป รพ.ห้วยยอด โดยหมอได้เอกซเรย์ไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่เมื่อกลับมาบ้าน น้องก็ยังคงมีอาการไข้ยังขึ้นสูง และเริ่มมีอาการชักเกร็งด้วย ทำให้ครอบครัวตัดสินใจนำตัวน้องเข้ารักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน อ.วังวิเศษ ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ในวันที่ 16 ก.ค. โดยพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นี้ 4 วัน จากนั้นทาง รพ.ดังกล่าว ได้ส่งตัวน้องไปที่ รพ.ตรัง และเสียชีวิตช่วงค่ำวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา
นางจำนรรจ์ ปราบรัตน์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นย่า และ น.ส.กมลทิพย์ ปราบรัตน์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นอา บอกว่า ช่วงที่ น้องมีตังค์ รักษาตัวอยู่ที่ รพ.แห่งหนึ่งใน อ.วังวิเศษ น้องไข้สูง 39-40 องศาตั้งแต่คืนแรก จึงขอให้หมอส่งตัวน้องไป รพ.ตรัง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ เขาบอกว่าดูแลได้ เพราะแค่เป็นไข้ตัวร้อน รักษาด้วยการให้กินยาลดไข้ ให้เช็ดตัว จากนั้นคืนที่ 2 น้องก็ยังคงมีไข้สูงเหมือนเดิม เขาจึงให้ยาต้านเชื้อไวรัส ซึ่ง น้องมีตังค์ กินยานี้แล้วก็อ้วกออกมา 2 ครั้ง ก่อนที่จะเริ่มไอ และค่อยๆ ไอหนักขึ้น ส่วนหลังเป็นผื่นแดงทั้งหลัง
จนเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) ได้มีหมอผู้หญิงอีกคนขึ้นมาตรวจ และส่ง น้องมีตังค์ ไปเอกซเรย์ ตนเห็นในฟิล์มเอกซเรย์ว่า ปอดน้องติดเชื้อ ปอดข้างหนึ่งแฟบลง แต่เขาก็ยังไม่ยอมส่งตัวต่อไปยัง รพ.ตรัง ตามที่พวกตนร้องขอ ทั้งที่ตอนนั้นน้องไม่ไหวแล้ว ไม่มีแรง ออกซิเจนต่ำ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แต่เขาก็ไม่ยอมส่งตัวต่อ เพราะให้เหตุผลว่าการเคลื่อนย้ายจะทำให้เกิดวิกฤตได้ แต่ท้ายสุดก็ยอมส่งตัว น้องมีตังค์ ไปที่ รพ.ตรัง ซึ่งตอนนั้นน้องอาการรวยรินเต็มทีแล้ว ก่อนที่จะแน่นิ่งไปเลย ซึ่งหมอได้ช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ไม่สำเร็จ ตอนนั้นพวกตนรู้สึกช็อคมาก เสียใจจนทำอะไรไม่ถูก
ทั้งนี้ ตนไม่เข้าใจว่า รพ.ดังกล่าว ที่พาตัวน้องไปรักษาหลายวัน ทำไมไม่ยอมส่งน้องมา รพ.ตรัง ตั้งแต่แรก ทั้งที่น้องมีตังค์มีไข้สูงอยู่ตลอดเวลา และไม่มีการตรวจวินิจฉัยโรคโดยละเอียด แต่กลับให้แค่ยาลดไข้ ยาแก้ไข น้ำเกลือ และพาไปเอกซเรย์เท่านั้น พร้อมบอกว่า รับมือไหว รักษาได้ กระทั่งน้องอาการทรุดหนักขั้นโคม่า และเสียชีวิตในที่สุด จึงอยากได้รับความยุติธรรมจาก รพ.แห่งนี้ ซึ่งล่าสุดพ่อของน้องได้ไปแจ้งความที่ สภ.วังวิเศษ และร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.วังวิเศษ แล้ว
20 ก.ค.66
มติชน