ผู้เขียน หัวข้อ: ก๊วนเสือกระดาษข่มปลัด  (อ่าน 880 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ก๊วนเสือกระดาษข่มปลัด
« เมื่อ: 18 เมษายน 2014, 13:34:27 »

ฝากข่าว · ติดต่อลงโฆษณา 
ข่าวออนไลน์ต่างประเทศเศรษฐกิจหุ้น-การเงินการเมืองผลสำรวจบันเทิงกีฬาท่องเที่ยวเทคโนโลยีอสังหายานยนต์ทั่วไป
ประเด็นร้อน »ปลัดกระทรวงกปปสศรสเรือเฟอร์รี่ดาวอังคารจันทรุปราคาสงกรานต์

 
ก๊วนเสือกระดาษข่มปลัด



ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- ศุกร์ที่ 18 เมษายน 2557 00:00:58 น.
ไทยโพสต์ * ศอ.รส.บังคับปลัดกระทรวงห้ามให้การต้อนรับ "กปปส." ในเวลาราช การ ขู่คาดโทษฟันวินัย ขณะที่ปลัดกระ ทรวงสาธารณสุขแข็งข้อ เมินร่วมสังฆกรรมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่วนปลัดกระทรวงยุติธรรม แม้จะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่มีท่าทีไม่ยอมศิโรราบให้กับอำนาจมิชอบ แนะมองให้ไกล และฟังทุกฝ่ายให้มากขึ้น


 
เมื่อเช้าวันที่ 17 เมษายน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทาง เข้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมือง ทองธานี เปิดโอกาสให้หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง นำโดยนายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และปลัดกระทรวง ต่างๆ เข้าอวยพร พร้อมมอบแจกันดอกไม้เนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ โดยมีปลัดกระ ทรวงเข้าอวยพรอย่างพร้อมเพรียง ขาดแต่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ถ่ายรูปร่วมกับปลัดกระทรวง พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณปลัดกระ ทรวงที่มาร่วมอวยพร ฝากขอบคุณข้าราช การทุกคน ที่ใช้แนวทางในการประคับประ คองเพื่อให้ประเทศเดินไปได้ในช่วงเวลาที่ ผ่านมา โดยเราทุกคนมีความผูกพันกันและ ได้มีการประชุมในหลายครั้งก็ขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และขอให้ความทุ่มเทต่างๆ ในการทำงาน ทำให้ครอบครัวของทุกคนมีแต่ความสุขความอบอุ่น ทำงานอย่างราบรื่น แคล้วคลาดปลอดภัย

ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานการ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระ ทรวงหรือเทียบเท่า โดยกล่าวในที่ประชุมว่า เวลานี้หลายกระทรวงยังไม่ลงตัวในเรื่องสถานที่ คงต้องดูเรื่องการประสานงานเอกสารต่างๆ และต้องให้กำลังใจหน่วยราชการ ขณะนี้หลายแห่งอาจยังทำงานได้ไม่เต็มที่ และอยากขอว่า เราทุกคนถือว่าเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนทุกคน  จึงไม่อยากให้การบริหารราชการติดขัด อะไรที่ติดขัดเราต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะช่วงนี้เรื่องของเศรษฐกิจค่อนข้างหนักพอสมควร ขอให้ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแต่ละกระทรวงดูว่าจะช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างไร และกระทรวงพาณิชย์ให้ติดตามดูแลราคาสินค้าที่มีผลกระทบต่อประชาชน ว่าในระยะยาวจะทำอย่างไร เมื่อยังไม่มีรัฐบาลใหม่ และขอแสดงความยินดีกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวดีขึ้น

วันเดียวกัน ที่ บช.ปส. ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้เรียกประชุมปลัดกระทรวง เพื่อหารือและทำความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมือง โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีปลัดกระทรวงและตัวแทนปลัดกระทรวงทั้ง 20 กระทรวง เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง แต่ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีปลัดกระทรวงและตัวแทนกระทรวงเข้าร่วมแต่อย่างใด ส่วนกระทรวงที่มีการส่งตัวแทนเข้าร่วมคือ คมนาคม ต่างประเทศ พลังงาน แรงงาน

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวเปิดการประชุมว่า ศอ.รส.ไม่ได้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ แต่เมื่อ ศอ.รส.ได้รับอำนาจให้ดูแลความสงบ จึงได้เรียนเชิญปลัดกระทรวงมาพูดคุย โดยการที่จะได้มาเป็นปลัดได้เป็นเรื่องยาก ต้องมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ ไม่อย่างนั้นจะขึ้นมาตำแหน่ง นี้ไม่ได้ และในวันนี้ทาง ศอ.รส.จะได้มีการออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เพราะถ้าไม่ตัดสินใจออกแถลงการณ์ หากมีการฆ่ากันตาย พวกตนจะถูกประณามด้วย

ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปลัดกระทรวงบางคนให้การสนับสนุน กปปส.ว่า "ไม่มีใครห้าม แต่ถ้ามึงแทงหวยผิด รัฐบาลตั้งหลักได้ เขาก็ย้ายมึงหมด ก็มีเท่านั้น อย่างปลัดกระทรวงสาธารณสุข ใครจะเอาไว้ แต่ผมชอบคนแบบนี้ บ้านเมืองต้องมีคนอย่างนี้บ้าง ไม่งั้นเหงาหงอย"

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการ ศอ.รส. แถลงหลังประชุม ศอ.รส. เรียกร้องต่อหัวหน้าส่วนราชการระดับสูง ได้แก่ ปลัดกระทรวง เลขาธิการ อธิบดี และหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออื่นๆ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในราชการอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะการบริหารจัดการ ให้ ส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สามารถปฏิบัติงานให้บริการประชาชนได้อย่างดีตามปกติ โดยไม่ถูกบุกรุกหรือปิดล้อมจนไม่สามารถให้บริการได้ รวมถึงการกำชับ ตักเตือน และดูแลให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกับกิจกรรมใดๆ ที่อาจเข้าข่ายสนับสนุนแกนนำของกลุ่มเรียกร้องที่กระทำผิดกฎหมายและอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี เช่น กลุ่ม กปปส.และกลุ่มอื่นๆ ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีและเหมาะสมด้วย

นายธาริตให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในการประชุม ศอ.รส. ได้กำชับให้ปลัดกระทรวงไปทำความเข้าใจกับข้าราชการเกี่ยวกับการเข้าร่วมการชุมนุม เพราะถ้าเข้าร่วมการชุมนุมในเวลาราชการคงไม่ได้ แต่ถ้าอยู่นอกเวลาราชการแล้วก็ถือเป็นสิทธิที่จะทำได้ และได้กำชับให้ปลัดกระทรวงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อข้าราชการในสังกัดด้วย นอกจากนี้ยังกำชับให้ทุกกระทรวงเปิดให้บริการประชาชนให้ได้มากที่สุด

ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกฯ และ รมว.การต่างประ เทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้สั่งห้ามทุกกระ ทรวงมิให้ต้อนรับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.โดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะถูกตั้งกรรมการสอบผิดระเบียบวินัยข้าราชการ มาตรา 81 ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนฯ เพราะ กปปส.ได้ประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ถือว่าเป็นกบฏรอบสอง ดังนั้นในเวลาราชการ หากข้าราชการ เข้าไปสนับสนุนเปิดประตูต้อนรับ นั่งร่วมรับประทานอาหาร หรือแม้แต่ออกมาจากอาคารสถานที่ราชการต้อนรับ ขบวนกปปส. ก็ไม่ควรทำโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถือมีความผิด

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร กล่าวว่า การชี้แจงของ ศอ.รส.ต่อปลัดกระทรวง เป็น การขอความร่วมมือ และขอให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งที่ประชุมได้มีการชี้แจงว่าแกนนำ กปปส.เป็นผู้ที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าส่วนราชการ ปลัดกระทรวง ต้องมีท่าทีที่เหมาะสม ถ้าเข้ามาในสถานที่ราชการ จะต้องมีมาตรการป้องกัน โดยอาจจะปิดกระทรวง และถ้าผู้ชุมนุมตัดโซ่บุกรุกเข้ามา ถือเป็นความผิดสมบูรณ์ สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้

พล.ท.ภราดรกล่าวต่อว่า ในส่วนของปลัดกระทรวงยุติธรรม และปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงว่า การเปิดห้องพูดคุยกับ กปปส.นั้นเป็นเพียงการพูดคุย ไม่ใช่การต้อนรับ เป็นการหารือเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ขยายตัว ไม่เช่นนั้นข้าราชการจะทำงานไม่ได้ อาจเกิดการคุกคามมากขึ้น สำหรับปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่เดินทางมาร่วมประชุมกับ ศอ.รส.ครั้งนี้ ไม่ถือว่าไม่ให้ความร่วมมือ และ ศอ.รส. ก็ไม่ได้ตำหนิ เข้าใจว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุขสวมหมวกสองใบ คือทำงานราชการและภาคประชาชน อย่างไรก็ตามเลขานุการ ศอ.รส.จะแจ้งผลการประชุมให้กับปลัดกระทรวงสาธารณสุขทราบในแนวทางปฏิบัติต่อไป นอกจากนี้ที่ประชุม ศอ.รส. ยังได้ให้ปลัดกระทรวงเดินหน้าจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ได้โดยไม่ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการบริหารราชการของแต่ละกระทรวง

ด้านนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมไม่มีข้อ สรุปอะไร และการพูดคุยในวันนี้ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กลุ่ม กปปส.ไปเยี่ยมกระทรวงต่างๆ โดยเป็นความกังวลในมุมมองสถานการณ์ของ ศอ.รส. ซึ่งตนคิดว่าเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ที่จำเป็นต้องรับฟังความรู้สึกคู่ขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ใจว่าความรู้ของข้าราชการคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร แต่เบื้องต้นตนรู้สึกกังวล เพราะมุมมองของแต่ละฝ่ายมีความแตกต่างค่อนข้างมาก ฝ่ายรัฐบาลเน้นในเรื่องการกระทำที่ไม่ชอบตามกฎหมาย และระบอบประชาธิปไตย ขณะที่กลุ่ม กปปส.มองว่าประเทศจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่วิถีทางยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นที่ยอมรับจากทั้งสองฝ่ายหรือไม่ ซึ่ง ศอ.รส.ได้สะท้อนถึงเหตุการณ์ปี 49 และมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรอิสระและกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

"ผมคิดว่าประเทศอยู่ในจุดที่เราต้องพูดคุยกันมากขึ้น และรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และร่วมหาทางออกที่เป็นประโยชน์สูงสุด"

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลุ่ม กปปส.จะเดินทางไปกระทรวงต่างๆ อีก นายกิตติพงษ์กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้กำชับในส่วนนี้ ตนอยากมองไปไกลกว่านั้น ถ้าแต่ละฝ่ายใช้กรอบของตัวเอง จะทำให้มองไปคนละจุดก็จะนำมาสู่ปัญหา โดยเห็นว่าปัญหาที่เกิดขณะนี้เราต้องฟังกันมากขึ้น ต้องตั้งสติและหาจุดร่วม โดยจุดร่วมที่เราเห็นตรงกันคือประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญนั่นคือการปฏิรูป ซึ่งเชื่อว่ายังมีทางออก ถ้าทุกฝ่ายเห็นแก่ส่วนรวม.