ผู้เขียน หัวข้อ: สปสช.ฟุ้ง 10 ปีหลักประกันสุขภาพประหยัด 4 พันล้านบาท  (อ่าน 837 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
 สปสช.ชูกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติช่วยคนไทยไม่ต้องล้มละลายจากการเจ็บป่วย เผย 10 ปี ประหยัดค่าใช้จ่ายยาและเวชภัณฑ์กว่า 4 พันล้านบาท ฟุ้งนานาชาติยกย่องเป็นต้นแบบ อ้างผลวิจัยนิด้าประชาชนพอใจโครงการ 30 บาทสูงสุด
       
       นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการเสนอผลงานของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในงาน “รัฐบาลพบประชาชน ทุนเพื่อคุณภาพชีวิต” ระหว่างวันที่ 25-26 สิงหาคมนี้ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและรายละเอียดของโครงการ และกองทุนต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการบริการ รู้วัตถุประสงค์โครงการ หลักเกณฑ์ในการใช้สิทธิ และได้ใช้ประโยชน์จากกองทุน 5 กองทุน ประกอบด้วย 1.กองทุนตั้งตัวได้ 2.กองทุนพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน 3.กองทุนหมู่บ้าน 4.กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีสำหรับผู้หญิงทั่วประเทศ และ 5.กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นหนึ่งในผลงานที่จะมีการนำเสนอในงานดังกล่าวด้วย
   
       นพ.วินัย กล่าวอีกว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งเริ่มต้นจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพให้คนไทยทุกคนได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขตั้งแต่สร้างสุขภาพ ป้องกันโรค และการรักษาพยาบาล โดยผลดำเนินการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรคในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า คนไทยได้รับการคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลส่งผลให้ ประชาชนกว่า 100,000 ครัวเรือน ไม่ต้องล้มละลายจากการเจ็บป่วย เพราะมีประชาชนได้รับความครอบคลุมหลักประกันสุขภาพถึงร้อยละ 99 อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2555 และ 2556 ได้รับการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 2,755.60 บาท/คน/ปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึงรายละ 209.12 บาท ครอบคลุมประชากร 48,333,000 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ของประชากรทั้งประเทศ
       
       “ในปี 2555 รัฐบาลได้ให้ความสำคัญของการป้องกันการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นการจัดให้บริการสุขภาพเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด และจะให้ประชาชนร่วมจ่ายค่าธรรมเนียมบริการ 30 บาทต่อครั้งเฉพาะกรณีที่รับยา ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลชุมชนขึ้นไปจนถึงโรงพยาบาลศูนย์ ทั้งรัฐและเอกชนที่ร่วมโครงการ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2555 เป็นต้นไป” เลขาธิการ สปสช.กล่าว
       
       นพ.วินัย กล่าวต่อว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนล่าสุดของนิด้าโพลล์ โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความสำเร็จของนโยบายเร่งด่วน 1 ปีแรก รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบว่า ประชาชนร้อยละ 84.70 เห็นว่า นโยบายพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรคประสบความสำเร็จมากที่สุด และเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพให้คนไทยยังได้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนสุขภาพตำบลครอบคลุมทุกพื้นที่ ขณะนี้มีกองทุนสุขภาพแล้วจำนวน 7,700 กว่าแห่งทั่วประเทศ โดย สปสช.สนับสนุนเงินปีละกว่า 2,200 ล้านบาท และจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อีกประมาณ 800 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพในการป้องกันโรคดูแลสุขภาพเชิงรุกตามสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ และกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น ทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากนี้ ในส่วนการบริหารจัดการกองทุนนั้น พบว่า 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า สปสช.สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ได้ถึง 4,083 ล้านบาท จากการซื้อยารวมด้วยระบบ VMI ซึ่งแนวทางนี้กำลังจะขยายไปสู่กองทุนประกันสังคมและกองทุนสวัสดิการข้าราชการ เพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคแบบมีส่วนร่วม
       
       “จากความสำเร็จดังกล่าวนำส่งผลให้ ก.คลัง คัดเลือกสปสช.ให้เป็นอันดับ 1 ด้านผลการดำเนินงานดีเด่นรางวัลทุนหมุนเวียนปี 54 ทำให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นหน่วยงานที่มีนโยบายเด่นของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน” นพ.วินัย กล่าว
       
       ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารความรู้ต่างๆ เช่น นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิต ไม่ถามสิทธิ ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น นโยบาย 30 บาทยุคใหม่ เพิ่มคุณภาพ นโยบาย SMARTH HEALTH มีหมอใกล้บ้านใกล้ใจ มียาดีใช้เพียงพอ ไม่ต้องรอรักษานาน มีการจัดการโรคเรื้อรัง รวมถึงการให้บริการตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลผ่านระบบออนไลน์แก่ประชาชนทั่วไป ตลอดจนบริการเปลี่ยนหน่วยบริการด้วย

 ASTVผู้จัดการออนไลน์    26 สิงหาคม 2555