ผู้เขียน หัวข้อ: สปสช.ดัน 7 ยุทธศาสตร์รองรับเปิดเสรีอาเซียน  (อ่าน 1025 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
“หมอวินัย” นั่งเลขาฯ สปสช.สมัยที่ 2 ตั้งเป้าจะเอารางวัล TQA ปี 2559 พร้อมดัน 7 ยุทธศาสตร์ เตรียมเข้าสู่เขตเศรษฐกิจอาเซียน ลั่นทุกคนบนแผ่นดินไทยต้องได้รับความคุ้มครองหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้า
       
       วันนี้ (22 พ.ค.) ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.แถลงข่าวเรื่อง “ขับเคลื่อน 7 ยุทธศาสตร์มุ่งสู่ทศวรรษที่ 2 สร้างความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ในโอกาสได้รับคัดเลือกเป็นเลขาธิการ สปสช.ต่อเป็นวาระที่สอง
       
       นพ.วินัย กล่าวว่า ในโอกาสที่ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สปสช.สมัยที่สอง ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในระยะต่อไป ต้องการพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และความยั่งยืนของระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อเป็นตาข่ายคุ้มครองด้านสุขภาพของประชาชน ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การมีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข การบริหารเงินกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการระดมทรัพยากรจากแหล่งอื่น และการบริหารจัดการองค์กรที่มีธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพระดับสากล ด้วยวิสัยทัศน์ “ทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยได้รับความคุ้มครองหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้าด้วยความมั่นใจ”
       
       นพ.วินัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน จะสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามกฎหมายอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการ สปสช.ให้คงไว้ซึ่งความเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพสูง มีการบริหารจัดการที่ดี โดยยึดหลักธรรมาภิบาล ประสาน และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคีทุกภาคส่วน เพื่อให้ระบบหลักประกันสุขภาพมีความมั่นคง โดยขับเคลื่อนผ่าน 7 ยุทธศาสตร์ ดังนี้
       
       1.เสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกและมาตรการคุ้มครองด้านประกันสุขภาพ สำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพอย่างถ้วนหน้า โดยคุ้มครองประชาชนที่ไม่มีหลักประกัน คุ้มครองผู้ด้อยโอกาสในสังคม และคุ้มครองผู้ที่มีหลักประกันภาครัฐอื่นๆ
       
       2.พัฒนากระบวนการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่ความเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยดำเนินงานร่วมกับองค์กรสุขภาพอย่างกว้างขวาง สร้างความรู้ความเข้าใจด้านหลักประกันแก่ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน กระจายอำนาจการบริหารจัดการ พัฒนาต่อยอดการสนับสนุนการมีส่วนร่วม
       
       3.สนับสนุนการพัฒนาการบริการสาธารณสุข ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพให้มีคุณภาพมาตรฐานทุกคนเข้าถึงได้และเป็นที่พึงพอใจของประชาชน และผู้ให้บริการตามแนวทาง SMART UC โดยมีหมอใกล้บ้านใกล้ใจ มียาดีใช้เพียงพอ ไม่ต้องรอรักษานาน มีการจัดการโรคเรื้อรัง
       
       4.ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ให้บริการ และผู้รับบริการโดยเน้นการเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน โดยขยายศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการและภาคประชาชน เอื้อให้ผู้เสียหายเข้าถึงมาตรา 41 ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 และส่งเสริมพลังจากงานจิตอาสา เน้นการรับฟังความคิดเห็น
       
       5.บริหารเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริหารทรัพยากรบนหลักการความคุ้มค่าการกระจายที่เหมาะสมเป็นธรรม ศึกษาความเป็นไปได้ในการระดมทรัพยากรจากแหล่งอื่น นอกเหนือจากงบประมาณ พัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ และระบบบริการ สร้างขวัญกำลังใจที่เหมาะสมแก่บุคลากรสาธารณสุข
       
       6.เสริมสร้างความเท่าเทียมกันระหว่างกองทุนอื่นๆ ทั้งด้านสิทธิประโยชน์ และการให้บริการ โดยร่วมกับกองทุนสุขภาพอื่นๆ ในการพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์และระบบบริการให้เท่าเทียม ร่วมกันพัฒนากลไกการเงินการคลัง ร่วมกันพัฒนาเป็นหน่วยงานเบิกจ่ายกลาง หรือ Clearing House ร่วมกับทุกกองทุนบูรณาการระบบบริหารจัดการและบริการสาธารณสุข ร่วมกันพัฒนากลไกการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนทราบสิทธิและหน้าที่
       
       7.เสริมสร้างและพัฒนาธรรมาภิบาล ความเข้มแข็งและเสถียรภาพของระบบประกันสุขภาพ โดยเน้นความโปร่งใส และรับผิดชอบต่อสังคมผ่านการสนับสนุนภารกิจตามกฎหมาย สนับสนุนการกระจายอำนาจในระดับพื้นที่ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เตรียมความพร้อมสู่การเป็นเขตเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 และพัฒนาคุณภาพองค์กรแห่งการเรียนรู้ จนได้รับรางวัล Thailand Quality Award หรือ TQA ในปี 2559 และจะเป็นแหล่งศึกษาด้านการสร้างหลักประกันสุขภาพในระดับภูมิภาค และระดับสากลต่อไปด้วย


ASTVผู้จัดการออนไลน์    22 พฤษภาคม 2555