ไต้หวัน ซึ่งตั้งอยู่ ณ จุดเชื่อมต่อระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเจริญเป็นอันดับที่ 18 ของโลก และเปี่ยมด้วยศักยภาพและพลังแห่งมนุษยธรรมในการดูแลผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย นับตั้งแต่ได้รับเชิญให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมองค์การอนามัยโลก เมื่อปี ค.ศ. 2009 ไต้หวันก็มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นในการมีส่วนร่วมทางด้านสาธารณสุขของโลก และไต้หวันก็ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมที่ว่าเรื่องสุขภาพอนามัยนั้นไร้พรมแดน และมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่งที่จะมีส่วนช่วยในการเสริมศักยภาพให้สาธารณสุขโลก เรามิได้กระทำเช่นนี้เพียงเพราะเป็นหน้าที่ในฐานะที่เป็นสมาชิกประชาคมโลกเท่านั้น แต่เราทำเช่นนี้เพราะเรามีศักยภาพเพียงพอที่จะเพิ่มพูนขุมพลังในการร่วมรักษาสุขอนามัยของชาวโลก
ไต้หวันสนับสนุนการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม และกิจกรรมทางสาธารณสุขในระดับสากลอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด ช่วงหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลและประชาชนของเรามีส่วนร่วมอย่างมากในการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ และการแลกเปลี่ยนด้านสาธารณสุขกับทั่วโลก ได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์แก่ประเทศที่ประสบภัยธรรมชาติ เช่น เฮติ และเรายังประสบความสำเร็จในการแบ่งปันประสบการณ์และความรู้ความสามารถของเรา ผ่านทางศูนย์การแพทย์ไต้หวันที่มีสาขาอยู่ที่หมู่เกาะมาร์แชลและหมู่เกาะโซโลมอน เป็นต้น
ในฐานะที่เราเป็นสมาชิกของประชาคมโลก ไต้หวันได้สั่งสมประสบการณ์แห่งความสำเร็จไว้อย่างมากมาย และมีความโดดเด่นในด้านประกันสุขภาพแห่งชาติ, เทคโนโลยีการแพทย์ การควบคุมและป้องกันโรคระบาด จากการที่องค์การอนามัยโลกได้เลือก "การประกันสุขภาพแห่งชาติ" เป็นหัวข้อหลักในรายงานอนามัยโลกปี ค.ศ. 2010 ชี้ให้เห็นว่าในช่วงเวลานี้การสาธารณสุขทั่วโลกให้ความสำคัญกับการจัดตั้งระบบประกันสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ
นับตั้งแต่มีการนำระบบประกันสุขภาพแห่งชาติมาใช้ในปี ค.ศ. 1995 ไต้หวันก็ใช้เบี้ยประกันที่ค่อนข้างต่ำ ในการคุ้มครองผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ประกันสุขภาพดังกล่าวมีอัตราการคุ้มครองครอบคลุมมากกว่า 95% ของประชากร ดังนั้นจึงบรรลุเป้าหมายในการคุ้มครองประชากรทั้งหมด และทำให้ประชากรไต้หวันสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ประกันสุขภาพดังกล่าวยังให้การคุ้มครองสิทธิของชนกลุ่มน้อย และผู้ที่เจ็บป่วยเป็นโรครุนแรงหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส ให้เข้าถึงการดูแลของแพทย์ได้อีกด้วย
ในอนาคตเรายังคงจะอุทิศแหล่งข้อมูล รวมถึงสนับสนุนและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการสาธารณสุขโลกในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เราก็จะสนับสนุนให้นักวิชาการ, ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ และองค์กรอิสระของเราให้สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดมากขึ้น กับกลุ่มและองค์กรทางการศึกษาตามความเชี่ยวชาญ และพวกเราจะทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษในด้านการร่วมมือทางการแพทย์ ตามที่สหรัฐอเมริกาได้วางเป้าหมายเอาไว้ เพื่อรับมือกับการป้องกันและควบคุมโรคแพร่ระบาดและโรคไม่ติดต่อ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นการพิสูจน์ถึงพลังอันอ่อนโยนและเต็มเปี่ยมด้วยความกระตือรือร้นของไต้หวัน ในการมีส่วนร่วมในด้านสาธารณสุขทั่วโลก ให้มนุษยชาติล้วนมีสุขภาพอนามัยที่ดีโดยถ้วนหน้า ข้อมูลโดย "ชิวเหวินต๋า" รมว.สาธารณสุข สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน).
ไทยโพสต์ 23 พฤษภาคม 2554