สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย
ที่ สพศท. พิเศษ -๓/๒๕๕๗
วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
เรื่อง ขอคัดค้านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข
เรียน แพทย์หญิงพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูประบบสาธารณสุข
นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ การสาธารณสุข
สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปฯ (สพศท.) และสหสาขาวิชาชีพ ในฐานะผู้ปฏิบัติงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหาย ฯ โดยละเอียดแล้ว เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบสาธารณสุข เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วย รวมทั้งอาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการบริหารเงินกองทุนของ พ.ร.บ. โดยบุคคลบางกลุ่ม ที่เข้ามาเป็นกรรมการตาม พ.ร.บ. ดังนี้
๑. ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มองความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์เป็นผู้ซื้อกับผู้ขาย
ช่วงเวลาที่ผ่านมาความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นแบบเกื้อกูลและพึ่งพา ดังพระราชดำรัสของพระราชบิดาแห่งการแพทย์ไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเรายึดถือเป็นหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วย จนแม้เวลานี้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ส่วนใหญ่ก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีดังเดิม แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะทำลายรากฐานที่สำคัญอันนี้ไป ซึ่งจะเปลี่ยนรูปแบบของความสัมพันธ์ไปในทางที่เลวลง มองอีกฝ่ายเป็นคู่กรณีอย่างไม่มีวันเอาคืนมาได้ ความดีงามในระบบสาธารณสุขของเราในอดีตถึงปัจจุบัน (ซึ่งในโลกตะวันตกไม่มี) ก็จะเสื่อมสลายไป
๒. ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะไม่มีการพิสูจน์ถูกผิด แต่ก็ต้องมีการวินิจฉัยว่ามีความเสียหาย
ในปัจจุบันบุคลากรสาธารณสุขมี ๘ วิชาชีพ ทุกวิชาชีพทุกสาขามีมาตรฐานของวิชาชีพของตัวเองโดยมีสภาวิชาชีพคอยกำกับดูแล ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้อำนาจการวินิจฉัยมาตรฐานวิชาชีพโดยบุคคล ซึ่งไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่ใช้ความรู้สึกมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน เอาความถูกใจแทนความถูกต้อง ซึ่งจะเป็นการทำลายมาตรฐานวิชาชีพด้านสาธารณสุขทุกสาขาโดยตรง
๓. ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้ให้อำนาจแก่คณะกรรมการมากเกินไป ไม่มีกลไกตรวจสอบ
ซึ่งประกอบด้วย องค์กรเอกชน (NGO) เป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ ซึ่งอยู่ในทีมบริหารกองทุนอื่นๆ เช่น สปสช. สสส. สช. สพฉ. สรพ. เป็นต้น เป็นที่คลางแคลงใจถึงการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ของบุคคลกลุ่มนี้ โดยชัดเจนว่าบริหารกองทุนอื่นไม่โปร่งใสและไม่มีประสิทธิภาพในการใช้เงินกองทุนเหล่านั้นจากรายงานของผู้ตรวจสอบกลาง เช่น สตง. แสดงให้เห็นมาหลายปีแล้ว
ข้อเสนอ ขอให้ชดเชยเยียวยาผู้เสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ด้วยเงินชดเชยเยียวยาจากมาตรา ๔๑ ของ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยครอบคลุมคนไทยทุกคนตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ แต่เดิม และขยายวงเงินให้เพียงพอ
การพยายามช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบฯของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ควรกระทำตามหน้าที่ แต่การช่วยเหลือโดยการออกกฎหมายที่มีแนวปฏิบัติที่จะสร้างปัญหาใหม่ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง สพศท. จึงขอคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าวด้วยเหตุผลหลักๆข้างต้น
อนึ่งหากจะมีการระดมความคิดเห็นอย่างกว้างขวางและรอบด้านโดยปราศจากอคติ และไม่มีจิตที่จะมุ่งแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์อันไม่ควรแล้ว สพศท. ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ควรเร่งพัฒนาคุณภาพการรักษาดูแลผู้ป่วยให้ได้มาตรฐานในทุกมิติ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุดและยั่งยืน
ขอแสดงความนับถือสูง
( แพทย์หญิงประชุมพร บูรณเจริญ)
ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย