สวัสดีรอบรั้วการศึกษาฯ ประจำวันที่ 27 ตุลาคม กระทรวงหมอดูท่าจะร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะล่าสุด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนานโยบายและการบริหารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่ากันง่ายๆ ก็คือ ตั้งทีมกุนซือเพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ นั่นล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขตสุขภาพ การพัฒนาระบบการเงินการคลัง ก็อย่างว่าในเมื่อถูกบีบทางไปต่อของนโยบายต่างๆ ก็จำเป็นต้องมีมันสมอง มีแขนขา มาคอยช่วยสนับสนุน ซึ่งสุดท้ายก็ไม่แคล้วถูกฝั่งแพทย์ชนบทออกมาโจมตีอย่างทันควัน
โดยในแฟนเพจเฟซบุ๊กชมรมแพทย์ชนบทก็ซัดกระหน่ำว่า ปลัด สธ. ตั้งทีมกุนซือยิ่งกว่าขิงแก่ ซึ่งมีแต่คนแก่วัยเกษียณ เพื่อมาท้าชน ปะทะ แบ่งแยกแบ่งฝ่ายกับ ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุขซึ่งก็มีการแต่งตั้งทีมที่ปรึกษา โดยเจ้ากระทรวงหมอก็เคยได้เปิดใจยืนยันไปเมื่อวันก่อนแล้วว่า ไม่ได้แต่งตั้งคนที่มาจากแพทย์ชนบทฝ่ายเดียวนะ แต่มีความหมายหลากหลาย อาจารย์มหาวิทยาลัยก็มี คนจากโรงพยาบาลศูนย์ จากภาคสังคมก็มี แต่ดูท่าแพทย์ชนบทคงจะลืมไปแล้วว่า ฝั่งที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ก็มีขิงแก่หลายแง่งเช่นกัน โดยเฉพาะ นพ.มงคล ณ สงขลา นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล ก็ระดับบิ๊กขิงแก่ฝั่งแพทย์ชนบทเหมือนกัน
ว่าแล้วก็ให้นึกถึงคำสัมภาษณ์เปิดใจของ ศ.นพ.รัชตะ ขึ้นมาตะงิดๆ ว่า เวลานี้กระทรวงสาธารณสุขต้องการความสามัคคี ในการทำงานเพื่อประชาชน ขอให้ประชาคมสาธารณสุขพิจารณาข่าวสารต่างๆ อย่างหนักแน่น รับฟังรอบด้าน ส่วนความเห็นต่างภายในกระทรวงฯนั้นเชื่อว่าสามารถเจรจาหาข้อสรุปกันได้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ไม่รู้จะใช้คำว่าเสี้ยมกันเห็นๆ ได้หรือไม่ เพราะที่แน่ๆ ไม่ว่าฝ่ายไหนจะตั้งกุนซือมาด้วยเหตุผลอะไร หากมาเพื่อเดินหน้างานและนโยบายต่างๆ ที่เป็นผลดีต่อประชาชนก็ถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งนั้น
แต่ถ้ายังซัด ยังเสี้ยมกันไม่เลิก โดยหวังเพื่อล้มฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว เห็นทีศึกน้ำหมากกระจายในแวดวงกระทรวงหมอ ก็คงจะหนีไม่พ้น แล้วถามว่าประชาชนอย่างเราๆ จะได้อะไรบ้าง?
........................
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ตุลาคม 2557