"อนุทิน" หารือร่วม อ.เดชา ได้ข้อสรุป จ่อแก้ระเบียบ สธ. รับรองหมอพื้นบ้าน 3,000 คน รวม อ.เดชา โดยไม่ต้องพิสูจน์คุณสมบัติใหม่ เล็งถอดสารซีบีดีออกจากยาเสพติด พร้อมให้คนไข้ อ.เดชา ไปรับน้ำมันกัญชาสูตรใกล้เคียงใน รพ.ที่ไว้วางใจในช่วงเปลี่ยนผ่าน
ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ มีมติเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่รับรองตำรับน้ำมันกัญชาสูตรนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี เพราะคุณสมบัติของนายเดชา ยังเป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แต่ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 กำหนดให้เป็นหมอพื้นบ้านตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 โดยให้ไปทำคุณสมบัติให้ถูกต้องก่อน โดยตัวตำรับไม่ได้มีปัญหาหากแก้คุณสมบัติแล้วพร้อมพิจารณาอนุญาตทันที
วันนี้ (21 ก.ค.) เวลา 09.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีการหารือเป็นการส่วนตัวร่วมกับนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เกี่ยวกับนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ. นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ น.ส.รสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต และ นายยืนยง โอภากุล หรือแอ้ด คาราบาว โดยใช้เวลาในการหารือราว 2 ชั่วโมง
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่า จากการหารือร่วมกันมีทางออก คือ จะมีการแก้ไขระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน ฉบับวันที่10 มิ.ย.2562 เพื่อให้หมอพื้นบ้านที่ผ่านการรับรองตามระเบียบกรมการแพทย์แผนไทยฯ ถือเป็นหมอพื้นบ้านตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยอัตโนมัติไม่ต้องมีการตรวจสอบหรือรับรองใหม่โดยให้ดำเนินการทันที เพราะเป็นอำนาจ รมว.สธ.ที่สามารถลงนามแก้ไขระเบียบสธ.ได้ และไม่ก่อให้เกิดปัญหา แต่จะเป็นประโยชน์กับหมอพื้นบ้านอีกราว 3,000 คน รวมถึงนายเดชาที่ได้รับผลกระทบจากระเบียบฯฉบับวันที่ 10 มิ.ย.2562 ทั้งนี้ ได้กำชับในการแก้ระเบียบให้ดูข้อความให้รัดกุม ไม่ให้ถูกโจมตีว่าทำเพื่อประโยชน์ของคนใด กลุ่มใด หลังจากนั้น จะได้หาวิธีการรับรองตำรับยาจากสารซีบีดีที่เป็นสารที่เป็นประโยชน์จากกัญชาหรือกัญชง และผลักดันให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษกรุณายกเลิกสารซีบีดีออกจากยาเสพติด ทั้งนี้ หลังนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วจะดำเนินการเรื่องนี้ทันที
"นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการซึ่งถือเป็นข้อสั่งการแรกมายังกระทรวงสาธารณสุขผ่านเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่าให้เตรียมการชี้แจงการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และรักษาโรคให้ดีและเรียบร้อย"นายอนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ที่ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกนโยบายนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่หนักใจ เรื่องนี้อยู่ที่ความตั้งใจ สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ หรือคนใด กลุ่มใด แต่ทำเพื่อส่วนรวมให้ได้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เพิ่มรายได้ให้ประเทศ และความอยู่ดีกินดีขึ้นของประชาชน ซึ่งก็จะต้องตอบให้ได้ และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นก็จะสนับสนุนนโยบายนี้
นายเดชา กล่าวว่า เรื่องอื่นตนไม่กังวล ที่เป็นห่วง คือ ผู้ป่วยของตนที่มีกว่า 4 หมื่นคน และทยอยเสียชีวิตวันละ 1 คน รวมแล้ว 60 คน เพราะตนยังไม่สามารถแจกน้ำมันกัญชาอย่างถูกกฎหมาย จากการที่ตนยังไม่ถือเป็นหมอพื้นบ้าน ตำรับน้ำมันกัญชายังไม่ได้รับการรับรอง และไม่มีวัตถุดิบมาผลิตทำนำมันกัญชา อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 เดือนนี้ที่ถือเป็นช่วงรอยต่อ ตนจะต้องหยุดแจกน้ำมันกัญชาก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการทำผิดกฎหมาย โดยคนไข้ทั้ง 4 หมื่นคนนั้น รมว.สธ.ได้สั่งการให้สธ.รับไปดูแลรักษาตามความสมัครใจของผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับน้ำมันกัญชาในสูตรที่ใกล้เคียงกับของตนและในสถานพยาบาลที่ผู้ป่วยไว้วางใจ ทั้งนี้ ตนจะเป็นที่ปรึกษาในการนำคนไข้เข้ารับการรักษา เพื่อให้คนไข้ผ่านช่วงรอยต่อนี้ไปได้ หลังจากนั้นหากตนได้เป็นหมอพื้นบ้าน ตำรับน้ำมันกัญชาผ่านการรับรองแล้ว คนไข้จะเลือกกลับมารักษากับตนอีกก็เป็นสิทธิของผู้ป่วย วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ถูกต้องและดีที่สุดที่ทำได้แล้ว
นพ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ในการแก้ไขระเบียบฯฉบับวันที่ 10 มิ.ย.2562นั้น จะต้องพิจารณาแก้ไขในส่วนของบทเฉพาะกาล โดยอาจจะระบุในลักษณะที่ว่า ให้หมอพื้นบ้านที่ผ่านการรับรองตามระเบียบกรมฯปี 2555 ที่มีอยู่ราว 3,000 คนถือเป็นหมอพื้นบ้านตามระเบียบสธ.นี้ โดยไม่ต้องมีการตรวจพิสูจน์ใหม่ เนื่องจากหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของหมอพื้นบ้านตามระเบียบสธ.นี้ไม่ได้เปลี่ยนจากที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมฯ แต่จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง
21 ก.ค. 2562 14:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์