เอ่ยถึงมะดันพลันน้ำลายสอ เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าเมื่อนึกถึงหรือเห็นมะดันต้องนึกถึงความเปรี้ยวก่อนเป็นอันดับแรก ยิ่งอากาศเย็นและลมหนาวโชยมาเยือนรู้สึกคอแห้ง และไออยู่ด้วยแล้ว จึงอยากได้น้ำมะดันสักแก้วจิบให้ชุ่มชื่นคอ
มะดันเป็นผลไม้และเครื่องปรุงที่มีรสเปรี้ยวคู่กับครัวไทยมาช้านาน มักนำผลและยอดอ่อนมาปรุงแต่งรสเปรี้ยวในต้มยำปลา ได้รสชาติจี๊ดถูกใจ บ้างก็เอาลูกทำน้ำพริกมะดัน หรืออาหารเก่าๆ ค่อนโบราณก็พวกแกงเผ็ดมะดันหมูย่างหรือเป็ดย่าง ส่วนยอดอ่อนก็นำไปจิ้มน้ำพริก แต่ปัจจุบันการนำมะดันมาปรุงอาหารลดน้อยลง จะพบแค่เพียงนำมาทำมะดันแช่อิ่ม มะดันจิ้มพริกเกลือหรือน้ำปลาหวาน
มะดันจัดเป็นต้นไม้คู่บ้านคู่เรือนคนไทยอีกประเภทหนึ่งที่มักปลูกข้างบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่เป็นสวนท้องร่องหรืออยู่ติดชายน้ำ จะเห็นต้นมะดันเจนตา คนในวัยปู่ย่าตายายเราจึงมีเรื่องเล่าสนุกสนานถึงความซุกซนในวัยเด็กกับการเก็บมะดันมาลิ้มรส
พืชที่มีรสเปรี้ยวและนำมาปรุงแต่งรสอย่างเช่นมะดันนั้นมีหลายอย่าง เช่น ตะลิงปลิง มะนาว มะนาวควาย มะงั่ว แตกต่างกันไปตามประเภทของอาหาร แต่ปัจจุบันคนไทยรุ่นใหม่ๆ ติดความเปรี้ยวของมะนาว เลยลิ้มรสเปรี้ยวของพืชอย่างอื่นแล้วไม่ถูกใจ ในการแพทย์แผนไทยจัดว่ามะดันเป็นพืชมหัศจรรย์ตัวหนึ่งที่มีความเปรี้ยวทุกส่วนของต้น เรียกว่าเปรี้ยวทั้ง ราก ต้น ดอก ใบ ผล ครบตั้งแต่รากจรดปลายยอด ซึ่งต่างจากพืชสมุนไพรในกลุ่มเดียวกันที่อาจมีราก ดอก ใบ รสอื่น แม้ผลจะมีรสเปรี้ยวก็ตาม
สรรพคุณของมะดัน ราก รสเปรี้ยว แก้เบาหวาน แก้ไข้หวัด แก้ไข้ทับระดู ขับฟอกโลหิต ขับเสมหะในลำคอ แก้กระษัย แก้ระดูเสีย เป็นยาระบายอ่อนๆ เปลือกต้น รสเปรี้ยว แก้ไข้ทับระดู แก้
โลหิตระดู ใบ รสเปรี้ยว แก้หวัด แก้ไอ แก้กระษัย แก้เสมหะพิการ รกมะดัน รสเปรี้ยว แก้หวัด แก้ไข้ทับระดู และขับฟอกโลหิต ผล รสเปรี้ยว ล้างเสมหะ แก้สอเสมหะ กัดเสมหะ ฟอกโลหิต แก้ไอ แก้ประจำเดือนพิการ ทั้งห้า กัดเสมหะ ฟอกโลหิตประจำเดือน แก้กระษัย แก้ไข้หวัด
การนำไปปรุงเป็นยารับประทานส่วนมากนิยมใช้วิธีการต้ม ถ้าต้มตามหลักการแพทย์แผนไทยคือต้ม 3 เอา 1 โดยใช้น้ำ 3 ส่วน ต้มเคี่ยวจนเหลือ 1 ส่วน แล้วเอายานั้นมาผสมกับน้ำอุ่นรับประทานใช้แก้เสมหะ แก้กระษัย ขับฟอกโลหิตประจำเดือนได้ เป็นยาระบายอ่อนๆ แต่ข้อควรระวังคือผู้ที่มีภาวะโลหิตจางไม่ควรรับประทานพวกยาและอาหารที่มีรสเปรี้ยวเพราะจะยิ่งไปกัดฟอกโลหิตมากขึ้น จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
ความเด่นของมะดันอยู่ที่ความเปรี้ยว ซึ่งมีพวกกรดอินทรีย์จำพวกวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย มีรายงานทางเภสัชวิทยาว่าสารสำคัญในมะดันมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเนื้องอกได้ และเนื่องจากเป็นกลุ่มกรดอินทรีย์ สามารถนำมาใช้ในการดูแลผิวพรรณหรือกระบวนการผลัดเซลล์ผิวได้ เพราะมีสารกลุ่ม AHA และ BHA จึงนำมาใช้ในวงการเครื่องสำอาง ซึ่งอาจนำไปทำโทนเนอร์หรือสบู่ ส่วนผสมในครีมบำรุงผิว จะช่วยให้ผิวขาว ซึ่งเป็นที่นิยมใช้แพร่หลายในขณะนี้ก็มีมะเฟือง มะขามป้อม
วิธีง่ายๆ ที่คนทั่วไปนิยมทำคือการนำมะดันมาทำน้ำหมักชีวภาพแล้วกรองเอาน้ำมาใช้ บ้างก็ใช้เป็นหัวเชื้อปรุงในเครื่องดื่ม บ้างก็นำไปทำโทนเนอร์ใช้เช็ดหน้า ซึ่งการหมักน้ำหมักถือเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำกันทั่วไป แต่ที่สำคัญต้องเน้นที่ความสะอาดและการคัดเลือกวัตถุดิบที่สะอาดจริงๆ น้ำหมักที่ได้จึงมีประสิทธิภาพตามที่เราต้องการ
การใช้ประโยชน์จากสมุนไพรจะกว้างขวางแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปัญญาและความรู้ที่จะนำไปใช้ เช่นเดียวกับมะดันถ้ามีการพลิกแพลงนำไปใช้เป็นยา อาหาร เครื่องสำอาง ได้อย่างเหมาะสม ก็เป็นการส่งเสริมการใช้อย่างเกิดประโยชน์ ไม่เช่นนั้นต้นมะดันอาจหายไปตามกาลเวลาก็เป็นได้.
ไทยโพสต์ 13 พฤศจิกายน 2554